‘หุ้นมังกร’ ร้อนแรงรับวันชาติจีน

“ตลาดหุ้นจีน” ปรับขึ้นร้อนแรง 9 ติดต่อกัน หลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นที่ปรับร่วงลงมากสุดแห่งหนึ่งของโลก


“ตลาดหุ้นจีน” ปรับขึ้นร้อนแรง 9 วันติดต่อกัน หลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลดึงดูดนักลงทุนให้กลับเข้าสู่ตลาดหุ้นที่ปรับร่วงลงมากสุดแห่งหนึ่งของโลก โดยดัชนี CSI300 ปรับขึ้น 8.5% ถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2551 เนื่องจากนักลงทุนแห่ซื้อหุ้นช่วงการซื้อขายสุดท้ายก่อนวันหยุดยาว 1 สัปดาห์

ทั้งนี้ดัชนีหุ้นจีนสูญเสียมูลค่าไปมากกว่า 45% จากระดับสูงสุดปี 2564 จนถึงกลางเดือนก.ย. โดยดัชนี CSI300 เพิ่มขึ้นมากกว่า 20% ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.ย.และเข้าสู่ตลาดกระทิงทางเทคนิค  และการปรับเพิ่มขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้วถือเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดรอบ 16 ปี

การปรับขึ้นต่อเนื่องดังกล่าว เกิดขึ้นหลังจากที่เมืองใหญ่สุด 3 แห่งของจีนได้ผ่อนคลายกฎเกณฑ์สำหรับผู้ซื้อบ้าน ขณะที่ธนาคารกลางปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนองที่อยู่อาศัยอีกด้วย มาตรการล่าสุดถือเป็นองค์ประกอบหลักสำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา

รวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ย, การปลดล็อกเงินสดที่กันสำรองสำหรับธนาคารพาณิชย์และการสนับสนุนสภาพคล่องสำหรับหุ้นอีกด้วย

นักลงทุนมองว่าโมเมนตัมหรือแรงขับเคลื่อนอาจมีความยั่งยืน หลังเผชิญการเริ่มต้นของแสงสว่างหรือความคาดหวังที่ไม่เป็นจริงเมื่อช่วงไม่กี่ปีล่าสุด

โดยมูลค่าซื้อขายรวมตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และเซินเจิ้น ปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ประมาณ 2.6 ล้านล้านหยวน (หรือประมาณ 3.71 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) เป็นสัญญาณของความตื่นเต้นอย่างมากที่ดำเนินไปต่อเนื่อง..

“ชารุ ชานานา” นักกลยุทธ์ตลาดโลกจากบริษัท Saxo Markets กล่าวว่า ก้าวย่างของการพลิกกลับของตลาดครั้งนี้สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าตลาดหุ้นจีนมีการขายมากเกินไป (Oversold) หลายคนเชื่อว่าครั้งนี้ จะแตกต่างออกไปเมื่อมีการพูดถึงการสนับสนุนตลาดจากทางการจีน”

ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการบริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์ (Politburo) ด้านเศรษฐกิจของจีน มีการประชุมเกี่ยวกับการกระตุ้นเศรษฐกิจที่น่าสนใจ รวมถึงรัฐบาลจีนเตรียมเสริมมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมมีรายละเอียดที่น่าสนใจ

โดยให้ความเห็นว่าพร้อมกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการเติบโตของรัฐบาลที่ระดับ 5% ปีนี้โดยเน้นย้ำว่าพร้อมจะใช้มาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์ หลังเป็นปัจจัยหลักที่ถ่วงเศรษฐกิจมาเป็นระยะเวลานาน

พร้อมเตรียมอัดฉีดเงินช่วยเหลือให้กับประชาชนที่อยู่ในกลุ่มรายได้ต่ำ และกลุ่มเด็กกำพร้าคิดเป็นประมาณ 0.35% ของจำนวนประชากรทั้งหมด

ทั้งนี้มิได้มีการกำหนดมูลค่าเงินช่วยเหลือดังกล่าวและเตรียมออกมาตรการช่วยเหลือทางสังคมให้กับกลุ่มผู้สำเร็จการศึกษาแต่ยังไม่มีงานทำเป็นระยะเวลาเกินกว่า 2 ปี

น่าจับตาวันชาติจีน (1 ต.ค.) จะมีการออกมาตรการทางการคลัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอีกชุดหรือไม่..!?

Back to top button