ขบวนรถด่วน 1500

การไต่เพดานขึ้นเรื่อย ๆ ของดัชนีตั้งแต่เปิดเทรด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,464.66 จุด บวกไป 15.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท ก็เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า นักลงทุนคลายกังวลดัชนีจะทรุดตัวลงแรง


การไต่เพดานขึ้นเรื่อย ๆ ของดัชนีตั้งแต่เปิดเทรด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,464.66 จุด บวกไป 15.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.25 หมื่นล้านบาท ก็เป็นภาพสะท้อนที่ทำให้เห็นว่า นักลงทุนคลายกังวลดัชนีจะทรุดตัวลงแรง หลังออกอาการเหมือนจะไปต่อไม่ไหว แต่สุดท้ายก็สลัดอาการดังกล่าวหายเป็นปลิดทิ้งแบบนี้ มันเป็นคำตอบที่ชี้ชัดว่า ทรงเริ่มไม่ดี..ไม่มีอยู่จริง เพราะนักลงทุนกระโจนซื้อหุ้นอย่างเมามันน่ะซี 

ที่น่าสนใจคือ การทะยานของตลาดหุ้นไทยว่าด้วยเรื่องมันนี่เกมแบบเพียว ๆ ซึ่งเป็นสตอรี่ที่ช่วยบิลต์ให้นักลงทุนมั่นใจขึ้น และมองเป้าดัชนีไล่ระดับขึ้นไปเรื่อย ๆ ซึ่งมีทั้งคนที่มองแค่ระดับ 1,500 จุด ถัดไปก็เป็นระดับ 1,550 จุด หรือแม้กระทั่งเป้าที่เหนือ 1,600 จุดก็มีไม่น้อย จึงกลายเป็นจังหวะที่ต้องใส่สุดซอย เพราะขบวนรถด่วนเที่ยวใหม่เริ่มเคลื่อนตัวออกจากชานชาลาแล้วนะจ๊ะ

โดยหุ้นแกนหลักที่เป็นตัวนำตลาดหุ้นไทยทุกครั้งก็คือ แบงก์ และจะตามติดมาด้วยไฟแนนซ์ ถัดมาก็จะเป็นคิวของสื่อสาร ต่อจากนั้นจะเป็นคิวของพลังงาน ส่วนกลุ่มอสังหาฯ จะรั้งท้ายเป็นประจำ เพราะเป็นหุ้นที่ขึ้นอยู่กับสภาพเศรษฐกิจตอนนั้นเป็นเช่นไร? เดี๊ยนถึงอยากถามนักเล่นว่า คุณ ๆ ท่าน ๆ จะเลือกขบวนรถด่วนเที่ยว 1500 ก่อนเลยไหม? หรือจะรอขบวนถัดไปที่ 1550 พะย่ะค่ะ

งานนี้บอกกันตรง ๆ ว่า ไม่ได้ชักชวนให้เชื่อตามหมดทุกเรื่อง แต่อยากให้เอาข้อมูลด้านต่าง ๆ มาประมวลผล และพิจารณากันอย่างเร่งด่วน เพราะเที่ยวก่อนก็เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า เวลาหุ้นขึ้น 100-200 จุดเป็นอย่างไร? “โมนิก้า” จึงไม่อยากทำตัวเป็นไอ้เข้ขวางคลองไปทุกเรื่อง เพราะเรื่องไหนที่เห็นว่าดี..ก็ต้องพูดให้ชัด ๆ ส่วนเรื่องไหนที่โหลยโท่ย..ก็ต้องพูดกันตรง ๆ..อิอิอิ

ตัวตึงที่ติดโผทุกตรั้งต้องมองไปที่ KTB เพราะเป็นหุ้นแกนหลักที่เม็ดเงินก้อนใหม่จะเข้าลงทุน หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ หุ้นตัวนี้มาด้วยวิธีพิเศษ และไอ้สิ่งที่เรียกว่าพิเศษก็มาจาก “ก.คลัง” ถือหุ้นอยู่นั่นเอง “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่ราคาหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 20.80 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.99 พันล้านบาท เพราะราคาเป้าหมายที่โบรกให้ไว้อยู่สูงกว่านี้ไงล่ะตัวเอง

ส่วนรายของ BBL มีจุดเด่นอยู่ตรงการดำเนินงานเป็นแบบอนุรักษนิยม จึงทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎเกณฑ์ของทางการ และกลายเป็นหุ้นพิมพ์นิยมที่สถาบันชอบลงทุน “โมนิก้า” จึงไม่แปลกใจที่หุ้นตัวนี้กลับมาขึ้นอีกครั้ง เพราะในนิยามของเงินก้อนใหม่เข้าในตลาดหุ้น ย่อมมีชื่อของหุ้นตัวนี้เป็นลำดับต้น วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ 153 บาท บวกไป 2.50 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.63 พันล้านบาทแบบชิล ๆ จ้า!

สำหรับในรายของ ADVANC ก็แบเบอร์มาตั้งแต่ไก่โห่ว่า นี่คือหุ้นตัวท็อปที่ยังมีอัพไซด์ให้เล่นกันอีกพักใหญ่ โดยประเด็นแรกที่มองกันคือ กำไรไตรมาส 3 โตต่อ และยังได้แรงหนุนจากกองทุนวายุภักษ์ รวมทั้งได้รับอานิสงส์จากกูเกิลประกาศลงทุนในไทย 3.6 หมื่นล้านบาท และเหตุผลดังกล่าวทำให้โบรกเกอร์วางเป้าไว้สูงถึงระดับ 314 บาท ขณะที่วานนี้ราคาหุ้นยืนอยู่ที่ 266 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 2.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.13 พันล้านบาท น่าสนใจไหมล่ะ!

เมาท์ถึงเรื่องดาต้าเซ็นเตอร์ขึ้นมาทั้งที่ “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น WHA เป็นรายถัดมา เพราะกูเกิลประกาศชัดเจนว่า จะตั้งดาต้าเซ็นเตอร์ที่นิคมอุตสาหกรรมแห่งนี้ ซึ่งเป็นประเด็นที่ส่งผลโดยตรงกับกำไรของบริษัทเต็ม ๆ ส่วนราคาหุ้นในกระดานก็วิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 5.50 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 0.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 242 ล้านบาทแบบนี้ มีลุ้นทำนิวไฮอย่างแน่นอนจ้า!

ตบท้ายกันที่หุ้นเหาฉลามตัวพ่ออย่าง INSET  เพื่อชี้ให้เห็นการกำเนิดดาต้าเซ็นเตอร์อย่างเป็นทางการเที่ยวนี้  น่าจะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้จึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.56 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 12.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 124 ล้านบาทแบบสบาย ๆ ผนวกกับนักลงทุนเชื่อว่า อานิสงส์ดังกล่าวจะช่วยต่อยอดรายได้ของบริษัท จึงเป็นหุ้นที่ลงทุนได้อย่างสบายใจเจ้าค่ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button