กันยาฯ หุ้นกลุ่มไหนซิ่งบ้าง
เดือนกันยายน 2567 ดัชนีหุ้นไทยบวกขึ้นมาได้ 6.54% หรือดัชนีจาก 1,359 จุด ณ วันที่ 30 ส.ค. 2567 มาปิดที่ 1,448 จุด (30 ก.ย. 2567)
เดือนกันยายน 2567 ดัชนีหุ้นไทยบวกขึ้นมาได้ 6.54%
หรือดัชนีจาก 1,359 จุด ณ วันที่ 30 ส.ค. 2567 มาปิดที่ 1,448 จุด (30 ก.ย. 2567)
มีการจัดทำข้อมูลออกมาจาก KKP DIME ว่าดัชนีที่ปรับตัวขึ้นมาในช่วงเวลาดังกล่าว มีกลุ่มหุ้นไหนที่วิ่งขึ้นมาแรงกันบ้าง
เริ่มจากหุ้นกลุ่มประกันภัยและประกันชีวิต พบว่าให้ผลตอบแทน +20.73% นำโดย บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ BLA บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ TLI และ บริษัท บางกอกสหประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ BUI
กลุ่มปิโตรเคมีและเคมีภัณฑ์ ให้ผลตอบแทน +19.85% นำโดย บริษัท อินโดรามา เวนเจอร์ส จำกัด (มหาชน) หรือ IVL บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC บริษัท เอ็นเอฟซี จำกัด (มหาชน) หรือ NFC
กลุ่มบรรจุภัณฑ์ ให้ผลตอบแทน +13.81% นำโดย บริษัท เอสซีจี แพคเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SCGP บริษัท เอส. แพ็ค แอนด์ พริ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SPACK บริษัท ไทย โอ.พี.พี. จำกัด (มหาชน) หรือ TOPP
กลุ่มบริการเฉพาะกิจ ให้ผลตอบแทน +10.75% นำโดยบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG บริษัท เอสไอเอสบี จำกัด (มหาชน) หรือ SISB บริษัท พีอาร์ทีอาร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ PRTR
กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ ให้ผลตอบแทน +10.69% นำโดย บริษัท บริหารสินทรัพย์กรุงเทพพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) หรือ BAM บริษัท ศรีสวัสดิ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC
กลุ่มการท่องเที่ยวและสันทนาการ ให้ผลตอบแทน +9.38% นำโดย บริษัท โรงแรมเซ็นทรัลพลาซา จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ERW บริษัท สยามเวลเนสกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ SPA
กลุ่มเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ให้ผลตอบแทน +8.74% นำโดย บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE บริษัท อินเตอร์ลิ้งค์ คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (มหาชน). ILINK
กลุ่มพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ให้ผลตอบแทน +7.95% นำโดย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) หรือ CPN
ส่วนทิศทางดัชนีในเดือนต.ค.นี้ ต้องมาลุ้นกันว่า จะวิ่งขึ้นไปต่ออย่างไร
เพราะเปิดมาในวันที่ 1 ต.ค.ดัชนีปิดบวกขึ้นมา 15.83 จุด จากแรงซื้อของวายุภักษ์ในกลุ่มธนาคาร
ส่วนเมื่อวานนี้ (2 ต.ค.) ปรับลงไป 13.26 จุด
ปัจจัยหลัก ๆ มาจากการขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ ที่มีการขายออกมากว่า 5,361 ล้านบาท
และยังดีที่กลุ่มนักลงทุนสถาบัน และน่าจะนำโดยกองทุนวายุกภักษ์ เข้ามารับซื้อ (ซื้อสุทธิ 4,655 ล้านบาท) ทำให้ดัชนีไม่ได้รูดลงไปมากนัก
ล่าสุด สำหรับวายุกภักษ์มีเงินบนหน้าตักประมาณ 1.5-1.9 แสนล้านบาท
เม็ดเงินนี้มาจากสภาพคล่องส่วนเกินของกองทุนฯ เดิม 4 หมื่นล้านบาท และเงินระดมทุนใหม่อีก 1.5 แสนล้านบาท
หากดูจากกระสุนที่มีอยู่
น่าจะรับมือกับแรงขายของต่างชาติที่ขายทำกำไร บวกกับหลบปัจจัยเสี่ยงด้านตะวันออกกลางได้ในระดับที่แข็งแกร่ง
เข้าใจว่า วายุกภักษ์เองนั้น รอสบช่อง หรือโอกาสที่ตลาดเหวี่ยงลงแบบนี้แหละ
เพราะรูปแบบลงทุนของกองทุนฯ มีทั้ง “เชิงรุก” และ “เชิงรับ” ไปพร้อม ๆ กัน
แนวรับดัชนีของการ “พักตัว” ในรอบนี้จะอยู่ที่ 1,440-1,430 จุด
แต่ไม่หลุด 1,400 จุด แน่ ๆ เพราะมีวายุภักษ์คอยรองรับแรงกระแทกอยู่แล้ว
นี่ยังไม่รวมเม็ดเงินจากกองทุน Thai ESG อีก
หากใครจะเข้าหุ้นยังลังเล เคาะขวาดีไหม
ก็ไปปูเสื่อรอที่บริเวณดัชนี 1,410 จุด +/- ได้นะ แต่เกรงว่า จะลงมาไม่ถึงน่ะสิ
เว้นแต่เรื่องวุ่น ๆ ในตะวันออกกลาง จะขยายวงออกไป
ธนะชัย ณ นคร