NUSA แกะกรวดรองเท้า.!
หลังจาก ก.ล.ต. มีการกล่าวโทษ “เจ๊หมวย-เฮียวิษณุ” ซึ่งเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหาร NUSA แน่นอนว่าในคำกล่าวโทษมีเรื่องที่เกี่ยวโยงกับตัวบริษัท ทั้งการไซฟ่อนเงินและธุรกรรมอำพราง
หลังจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) มีการกล่าวโทษ “เจ๊หมวย”-ศิริญา เทพเจริญ กับ “เฮียวิษณุ เทพเจริญ” ซึ่งเป็นอดีตกรรมการและผู้บริหาร บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA พร้อมพรรคพวกรวม 6 คน…แน่นอนว่าในคำกล่าวโทษมีเรื่องที่เกี่ยวโยงกับตัวบริษัท ทั้งการไซฟ่อนเงินและธุรกรรมอำพราง
แม้มี 2 ธุรกรรมที่ก.ล.ต.กล่าวโทษไปแล้ว แต่มีอีกหลายเรื่องที่ NUSA ต้องตามล้างตามเช็ด…ล่าสุดมี 6 เรื่องด้วยกัน
เริ่มจาก 1)การดำเนินการกับกลุ่มผู้ถือหุ้นของบริษัท ณุศา ซีเอสอาร์ จำกัด (CSR) ซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งผิดนัดชำระเงินค่าหุ้นเมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2566…ปัจจุบันผู้ถือหุ้นดังกล่าวยังคงเพิกเฉย ไม่ชำระค่าหุ้นและดอกเบี้ยผิดนัด เป็นเหตุให้บริษัทฯ ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงจำนวนและรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงชื่อผูกพัน CSR ต่อนายทะเบียน และหารือกับที่ปรึกษากฎหมายเพื่อดำเนินการบังคับจำนำหุ้นออกขายทอดตลาดต่อไป
2)การติดตามเงินมัดจำจำนวน 50 ล้านบาท จากบริษัท มอร์ มันนี่ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (MME) โดยเมื่อวันที่ 26 ม.ค. 2567 อดีตประธานกรรมการของบริษัทฯ ได้ลงนามในหนังสือรับขอเสนอแผนการชำระหนี้ (บางส่วน) ของ MME โดยยินยอมขยายระยะเวลาให้ MME ชำระคืนเงินมัดจำจำนวน 50 ล้านบาท ภายในวันที่ 31 ต.ค. 2567
ต่อมาวันที่ 13 ก.ย. 2567 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องอดีตคณะกรรมการบริหารของบริษัทฯ ต่อศาลแพ่งกรุงเทพใต้ เพื่อให้ชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการงดเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยศาลได้รับคำฟ้องดังกล่าวไว้พิจารณาแล้ว และกำหนดวันนัดสืบพยานโจทก์ในวันที่ 11 พ.ย. 2567 เวลา 9.00 น.
3)การขอใบอนุญาตต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการประกอบธุรกิจโรงแรมและการเปิดดำเนินงานของโรงแรมที่เยอรมนี สืบเนื่องจากการปรับปรุง Panacee Grand Hotel Roemerbad ขาดเพียงบางระบบงาน ได้แก่ ระบบป้องกันอัคคีภัย หากดำเนินการแล้วเสร็จ ทางผู้บริหารโรงแรมจะยื่นขอรับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องต่อหน่วยงานต่าง ๆ และวางแผนเปิดดำเนินงานภายในปี 2567
แต่ปรากฏว่า ณ วันที่ 30 ก.ย. 2567 บริษัทฯ ยังไม่ได้รับแจ้งความคืบหน้าใด ๆ เกี่ยวกับการขอรับใบอนุญาตต่าง ๆ ที่จะทำให้โรงแรมดังกล่าวสามารถเปิดดำเนินงานได้ ทั้งนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างดำเนินการฟ้องร้องดำเนินคดีกับกรรมการและอดีตกรรมการของบริษัทฯ ทุกรายที่ร่วมลงมติอนุมัติการเข้าซื้อโรงแรมที่ต่างประเทศทั้งทางแพ่งและอาญา
4)การดำเนินการของบริษัทฯ เพื่อให้ผู้สอบบัญชีสามารถสอบทานรายการซื้อโรงแรมที่เยอรมนีได้อย่างมั่นใจ และแสดงความเห็นต่องบการเงินของบริษัทฯ แบบไม่มีเงื่อนไข หลังจากที่สำนักงานก.ล.ต.ได้กล่าวโทษอดีตกรรมการของบริษัทฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง กรณีทุจริตซื้อโรงแรมที่เยอรมนีแล้ว บริษัทฯ ได้หารือร่วมกับผู้สอบบัญชีเพื่อกำหนดแนวทางและวิธีการในการสอบทานรายการดังกล่าว โดยบริษัทฯ ได้นำส่งเอกสารที่่เกี่ยวข้องต่อผู้สอบบัญชีเพิ่มเติมเพื่อใช้ในการสอบทาน ซึ่งจะใช้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินคดีฟ้องร้องกับผู้กระทำความผิดต่อศาลด้วย โดยหากศาลมีคำสั่งประทับรับฟ้องแล้ว น่าจะทำให้ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นต่อรายการนี้แบบไม่มีเงื่อนไขในงบการเงินของบริษัท
5)ข้อพิพาทรายการเจ้าหนี้ค่าก่อสร้างของบริษัท ณุศา เลเจนด์ สยาม จำกัด (Legend) ตามที่บริษัท ไชน่า นิวเคลียร์ อินดัสทรี 22 คอนสตรัคชั่น จำกัด และบริษัท ซีเอ็นไอ 22 (ไทย) คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ยื่นคำร้องต่อศาลแพ่งเพื่อขอให้บังคับตามคำชี้ขาดอนุญาโตตุลาการต่างประเทศกับบริษัทฯ ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ค่าก่อสร้างของ Legend นั้น เมื่อวันที่ 27 ส.ค. 2567 ศาลพิพากษาให้บังคับตามชี้ขาดของคณะอนุญาโตตุลาการเศรษฐกิจและการค้าระหว่างประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน โดยให้บริษัทชำระหนี้ค่าก่อสร้าง ต้นทุนในการจัดหาเงินทุน ค่าใช้จ่ายในการจัดหาเงินทุนและดอกเบี้ย ค่าทนายความ ค่าแปลเอกสาร และค่าอนุญาโตตุลาการ แก่ผู้ร้องทั้งสอง ทั้งนี้บริษัทฯ ไม่เห็นด้วยกับคำพิพากษาดังกล่าว และอยู่ระหว่างยื่นอุทธรณ์ในประเด็นข้อกฎหมายต่อศาล
และ 6)การดำเนินการต่อรายการขายโครงการเอสเซน พระราม 5 และรายการโอนขายทรัพย์สินต่ำกว่าราคาประเมิน และสัญญาโอนขายที่ดิน จำนวน 9 แปลง ระหว่างบริษัท ณุศา มาย โอโซน จำกัด (NMO) และบริษัท ชีวาคุณ เอสเตทส์ จำกัด จากกรณีวันที่ 25 ก.ค. 2567 บริษัทฯ ได้ยื่นฟ้องอดีตกรรมการบริหารของบริษัทฯ บริษัท ชีวาคุณ เอสเตทส์ จำกัด และกรรมการ ต่อศาลจังหวัดสีคิ้ว เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนสัญญาโอนขายที่ดินจำนวน 9 แปลง ระหว่าง บริษัท ณุศา มาย โอโซน จำกัด กับบริษัท ชีวาคุณ เอสเตทส์ จำกัด ซึ่งกำหนดราคาซื้อขายไว้ที่ 68.53 ล้านบาท ต่ำกว่าราคาประเมิน คิดเป็นส่วนต่าง 205.61 ล้านบาท ปรากฏว่าศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ขยายระยะเวลายื่นคำให้การของจำเลยทั้งหกรายจนถึงวันที่ 31 ต.ค. 2567 และให้เลื่อนไปนัดชี้สองสถานในวันที่ 5 พ.ย. 2567 เวลา 13.30 น.
งานนี้ไม่ต่างจาก NUSA พยายามแกะกรวดออกจากรองเท้าแหละ…ซึ่งไม่เพียงจะส่งผลดีต่อบริษัท ในส่วนของผู้ถือหุ้นก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย หลังจากเสียโอกาสทั้งในแง่ราคาหุ้น และผลตอบแทนจากเงินปันผล (ถ้ามี)…
คงขึ้นอยู่กับบอร์ดชุดใหม่แล้วล่ะว่า จะสะสางและตามล้างตามเช็ดยังไง..??
หวังว่าจะไม่มีของใหม่งอกขึ้นมาอีกนะ..!?
…อิ อิ อิ…