พาราสาวะถี
เห็นภาพกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกท้องที่ที่มีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนราธิวาสในคดีตากใบ บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักตามเป้าหมาย เป็นเพียงแอ็กชันที่ทำให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเต็มที่แล้ว
เห็นภาพกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจในทุกท้องที่ที่มีผู้ต้องหาตามหมายจับศาลนราธิวาสในคดีตากใบ บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักตามเป้าหมาย เป็นเพียงแอ็กชันที่ทำให้เห็นว่าได้ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเต็มที่แล้ว ก่อนที่คดีจะหมดอายุความในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ จับจ้องกันเป็นพิเศษคงเป็นรายของ พลเอก พิศาล วัฒนวงษ์คีรี อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ในขณะเกิดเหตุ ปัจจุบันเป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย เพราะถือเป็นเป้าโจมตีหนักของฝ่ายตรงข้ามในฐานะสมาชิกพรรคแกนนำรัฐบาล
ถามว่ากรณีเช่นนี้เป็นเรื่องแปลกใหม่ในกระบวนการยุติธรรมบ้านเราหรือไม่ หลังศาลออกหมายจับแล้วมีการปล่อยให้ผู้ต้องหาหลบหนีจนคดีหมดอายุความ เปล่าเลย เพราะในยุครัฐบาลเผด็จการสืบทอดอำนาจ คดีล้มประชุมอาเซียนที่พัทยาของ สุภรณ์ อัตถาวงศ์ ที่แปรพักตร์ไปอยู่กับพรรคของเผด็จการ ศาลพัทยาออกหมายจับ และผู้ต้องหาไม่ได้หลบหนี ปรากฏตัวให้เห็นอย่างเด่นชัด ก็ยังไม่สามารถทำอะไรได้ ด้วยข้ออ้างสารพัด ดังนั้น กรณีนี้หากไม่ดึงเป็นเกมการเมืองกันจนเกินไป อาจเรียกได้ว่าเป็นปกติวิสัยของคนที่อยู่ฝ่ายกุมอำนาจ ที่จะสามารถอาศัยช่องว่างทางกฎหมาย หลบหลีกได้
การไปไล่จี้ถามแกนนำพรรคเพื่อไทย และแกนนำรัฐบาล ก็เพียงเพื่อคาดคั้นถามหาความรับผิดชอบ และเรียกร้องความเป็นธรรมแทนผู้เสียหายเท่านั้น เพราะความจริงก็รู้คำตอบอยู่แล้ว เมื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล จะไปบังคับ สั่งการยังไงย่อมเป็นเรื่องลำบาก จะบอกว่ารู้เห็นเป็นใจในความรู้สึกคิดกันได้อย่างนั้น แต่ทั้งหมด ท้ายที่สุดหนีไม่พ้นโยนเป็นความรับผิดชอบของฝ่ายปฏิบัติ เรื่องพรรค์นี้ขนาดจอมหลักการบางรายยังไม่กล้าพูดเต็มปากเต็มคำ เพราะคนในครอบครัวก็ใช้วิธีการหนีคดีจนหมดอายุความมาแล้ว
ที่น่าหัวร่อคงเป็นท่าทีของพรรคสืบทอดอำนาจ ที่ขู่เอาผิด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยลืมไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว มี สส.ของตัวเองคือ พันตำรวจโท ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ สส.กำแพงเพชร พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งถูกศาลฎีกาสั่งให้ออกหมายจับ กรณีไม่มาฟังคำพิพากษาคดีบุกล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยาเมื่อปี 2552 คดีเดียวกันกับแรมโบ้อีสานที่รอดไปก่อนแล้ว
ครั้งนั้นจะเรียกได้ว่าเป็นความอัปยศอดสูของการทำงานของตำรวจ และกลไกของสภาเลยก็ว่าได้ เพราะ ชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ เวลานั้น ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตามรัฐธรรมนูญการให้เอกสิทธิ์ในการคุ้มครอง สส.กรณีที่ถูกดำเนินคดีต้องอยู่ในขั้นตอนการสืบสวน สอบสวน แต่กรณีนี้เลยขั้นตอนนี้ไปแล้ว เพราะศาลได้ตัดสินคดีถึงที่สุดแล้ว อีกทั้งศาลได้ออกหมายจับแล้ว แต่ปรากฏว่าคนที่ถูกออกหมายจับก็มาร่วมประชุมสภาปกติ ก่อนจะหายตัวไปแบบล่องหนจนถึงทุกวันนี้ จะกล่าวหาใครก็ไม่ควรลืมว่าที่ผ่านมา พรรคของตัวเองเคยสร้างวีรเวรอะไรไว้บ้าง
เห็นการขยับของนักเคลื่อนไหวบางรายที่ประกาศจะปลุกม็อบลงถนน ไม่รู้จะสมเพชหรืออะไรดี ยิ่งบอกปัดว่าไม่ได้รับงานมาจากคนบางรายที่อยากเป็นนายกฯ ยิ่งชวนให้หัวร่อไปกันใหญ่ ในแวดวงรู้กันอยู่แล้วนักเคลื่อนไหวรายนี้รับเศษสตางค์มาจากผู้ยิ่งใหญ่โดยตลอด โดยอาศัยการเล่นแร่แปรธาตุผ่าน สส.บางคนของพรรคแกนนำรัฐบาลปัจจุบัน ปากมันกันเป็นแถว รู้กันอยู่ว่าต้องหาเงินมือเป็นระวิงเพื่อเลี้ยงดูเมียหลายคน คนที่ไม่มีธุรกิจ ร่ำรวยมาแต่บรรพบุรุษ จะเอาปัญญาขนาดไหนใช้ชีวิตได้หรูหราขนาดนี้
เห็นความนิยมของแพทองธารที่ติดลมบนเวลานี้ พวกที่เย้ว ๆ เล่นงานก็พลอยได้อานิสงส์เกาะชายกระโปรงได้รับความสนใจตามไปด้วย เมื่อนายกฯ หญิงตั้งหน้าตั้งตาทำงานในฐานะผู้นำรัฐบาล ดูแลความเดือดร้อนของประชาชนจากสถานการณ์น้ำท่วม มุ่งมั่นแก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง ถอนฟืนจากกองไฟว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปมที่จะทำให้เกิดการเหยียบตาปลาจนนำไปสู่ความขัดแย้งภายในพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีโอกาสที่จะเกิดอาการสะดุด เครื่องรวนก็หายไปเกินครึ่ง
ด้านของพรรคฝ่ายค้าน หลังพรรคแกนหลักอย่างประชาชน ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ได้รับโปรดเกล้าฯ เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรแล้ว คงจะตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ตรวจสอบ ทักท้วงตามสไตล์ แต่ยังไม่มีประเภทเข้าตากรรมการ หรือข้อมูลเด็ดสะระตี่แบบโป้งปิดบัญชี ถ้าเทียบความน่าเชื่อถือก่อนหน้าภายใต้หัวโขนก้าวไกลปะทะรัฐบาลเศรษฐา กับรัฐบาลอุ๊งอิ๊งแลกหมัดกับพรรคประชาชน เสียงเชียร์ก่อนหน้าดังกระหึ่ม แรงหนุนถึงขั้นแต้มต่อพลิกเกมมีสูง ปัจจุบันกลายเป็นว่าซีกกุมอำนาจทำคะแนนได้ดีกว่า
จะบอกว่าการตัดตอนบอนไซพรรคสุดโต่งประสบผลสำเร็จก็เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่ง ปัจจัยหลักเป็นความรู้สึกของคนส่วนใหญ่มากกว่า ที่ต้องการเห็นรัฐบาลซึ่งมาจากการเลือกตั้งได้เดินหน้า ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลพลิกขั้วหรืออะไรก็ตาม เมื่อไม่มีคราบไคลของเผด็จการ การยอมรับจากนานาประเทศย่อมดีกว่าขบวนการอยู่ยาว นั่นคือจังหวะ และโอกาสที่จะทำให้ประชาชนสามารถกลับมาลืมตาอ้าปากได้ ฝ่ายที่ขยันจุดชนวนความขัดแย้ง สร้างความเกลียดชัง จึงจะเป็นพวกที่น่ารังเกียจ ตกยุคไปเสียฉิบ
สถานการณ์น้ำท่วมภาคเหนือโดยเฉพาะสองจังหวัดสำคัญอย่างเชียงใหม่ เชียงราย รอบนี้ต้องยอมรับกันว่ามาจากความแปรปรวนของสภาพอากาศ ฝนตกหนักในพื้นที่ป่า เขา ชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน เมื่อตกหนักต่อเนื่อง ทุกพื้นที่ดินอุ้มน้ำจนไม่ไหว สุดท้ายก็เกิดภาวะน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม ดินแดนเหนือสุดในสยาม บางพื้นที่ท่วมซ้ำสามสี่รอบ พร้อม ๆ กับการเร่งช่วยเหลือประชาชนจากภาวะดินโคลนที่ต้องใช้เวลานานกว่าจะขุด ขนย้ายไปทิ้งได้หมด
ส่วนเมืองใหญ่อย่างเชียงใหม่ โดยสภาพที่ตั้งของพื้นที่ทั้งอำเภอเมือง และหลายอำเภอที่อยู่ติดแม่น้ำปิง แม่น้ำสายรองที่รับน้ำจากป่า เขา เมื่อมวลน้ำมหาศาลไหลลงจากที่สูงแบบตูมตาม ย่อมสร้างความเดือดร้อนแบบเลี่ยงไม่ได้ ทำกันได้แค่เตือนภัย และขนย้ายสิ่งของ อพยพผู้คนตามจุดเสี่ยงไปอยู่ยังสถานที่ปลอดภัยเท่านั้น ขอเพียงแค่ฝนไม่ตกซ้ำ ปริมาณน้ำก็จะลดลงอย่างรวดเร็ว คนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยังยิ้มสู้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะรัฐบาลทั้งรัฐมนตรี และข้าราชการระดับสูงทุกหน่วยงานลงพื้นที่ไปดูแลกันใกล้ชิด ผนึกกับเอกชน องค์กรการกุศลต่าง ๆ ระดมกำลังช่วยกันเต็มที่ ย่อมทำให้อุ่นใจ รอให้เหตุการณ์ผ่านพ้นแล้วมาว่ากันอีกที
อรชุน