ไปต่อไหม?

สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์ถึงมากสุดอีกอย่างไม่ใช่เรื่องการเมือง (นายกฯ ไอแพด) เพราะมันไม่ช่วยประเทืองปัญญาอย่างที่ควรจะเป็น


สิ่งที่ “โมนิก้า” อยากจะเมาท์ถึงมากสุดอีกอย่างไม่ใช่เรื่องการเมือง (นายกฯ ไอแพด) เพราะมันไม่ช่วยประเทืองปัญญาอย่างที่ควรจะเป็น และยังทำให้เห็นธาตุแท้ของแต่ละคนได้ชัดเจนขึ้น เดี๊ยนเลยให้ความสำคัญกับเรื่องราวของตลาดหุ้นไทยเป็นอันดับหนึ่งเสมอ เพราะภาพของการลงทุนที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน มันสะท้อนถึงท่าทีของนักเล่นได้เป็นอย่างดี และทำให้เดี๊ยนประเมินสิ่งที่อาจเกิดขึ้นในวันถัดไปได้ดีขึ้นเจ้าค่ะ

โดยเฉพาะอาการที่ดัชนีแกว่งตัวขึ้นลงในกรอบแคบ ๆ ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,456.97 จุด บวกไป 4.17 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.93 หมื่นล้านบาท ก็เป็นจุดที่ทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า ตลาดหุ้นไทยยังไปต่อ เพราะเมื่อดูยอดซื้อสุทธิของกองทุนในประเทศตั้งแต่วันที่ 1-9 ต.ค. อยู่แค่ระดับ 2 หมื่นล้าน ซึ่งเป็นยอดซื้อที่ยังไม่มากเมื่อเทียบกับปัจจัยบวกภายในที่เป็นตัวหนุนให้ดัชนีขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,500 จุดนะนายจ๋า!

ถึงกระนั้นก็มีคำถามออกมาเป็นระยะว่า ช่วงสิ้นปีดัชนีจะขึ้นไปถึงระดับไหน? เป้าดัชนีที่ระดับ 1,600 จุดไกลเกินเอื้อมไหม? หรือแม้กระทั่งวันนี้ตลาดหุ้นเล่นบนมันนีเกมสุดซอยใช่ไหม? เหล่านี้เป็นประเด็นที่ “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า ทั้งหมดต้องใช้เวลาพิสูจน์อย่างเดียว เพราะตัวอีฉันเองก็ไม่สามารถการันตีว่า ดัชนีจะไปถึงระดับไหนเหมือนกัน เพราะระหว่างทางมีตัวแปรหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้องเยอะเหลือเกินน่ะซี

โดยเฉพาะในรายของ DELTA ที่ขึ้นมายืนปิดในระดับ 110.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.29 พันล้านบาท ก็เป็นระดับราคาที่เคยเห็นมาแล้วพักใหญ่ แต่ไม่สามารถยืนเหนือระดับดังกล่าวได้อย่างมั่นคง “โมนิก้า” ถึงไม่กล้าออกตัวแรงแซงทุกทางโค้งว่า หุ้นจะไปต่อร้อยเปอร์เซ็นต์! เพราะสเต็ปการขึ้นของหุ้นตัวนี้มาจากความเชื่อที่ว่า ของมันต้องมี! กองทุนเลยวนเวียนเข้ามาเล่นหุ้นตัวนี้กันเป็นประจำเจ้าค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ KTB ก็มีประเด็นเกี่ยวกับกองทุนเล่นกันเป็นประจำ “โมนิก้า” จึงรู้สึกเฉย ๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นวนเวียนไปมาในกรอบ 20.50-21.00 บาทเป็นเวลาร่วมเดือน และการยืนปิดที่ระดับ 21 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 980 ล้านบาท จึงเป็นการเดิมพันรอบใหม่ว่า หุ้นจะขยับตัวขึ้นไปสร้างฐานแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมไหมจ๊ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น INTUCH เป็นรายถัดมาทันที เพราะมีข้อถกเถียงเกี่ยวกับการขายหุ้น “ในกระดาน” กับขายให้กับ “เจ้าสัว” อันไหนดีกว่ากัน? เพราะมองตามหน้าเสื่อจะเห็นว่า ขายในกระดานได้ราคาดีกว่าเห็น ๆ หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 102 บาท บวกไป 3.50 บาท หรือขึ้นไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.62 พันล้านบาท จึงไม่มีประเด็นที่ต้องคิดให้รกสมองจ้า

ส่วนที่ต้องคิดมากหน่อย! เห็นทีจะเป็นการทิ้งตัวลงแรงของหุ้น SCGP ลงมาปิดที่ระดับ 28.25 บาท ลบไป 1.75 บาท หรือลงไป 5.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 579 ล้านบาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้เดี๊ยนอึ้งกิมกี่ไปชั่วขณะ เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีสัญญาณใด ๆ บอกให้รู้ว่า โดนถล่มหนัก! เดี๊ยนเลยสันนิษฐานว่า การขายครั้งนี้น่าจะเกี่ยวข้องกับผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ไม่มากก็น้อยกระมัง!

เมาท์ถึงเรื่องผลการดำเนินงานขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้นมะพร้าวน้ำหอม COCOCO กันสักหน่อย เพราะเป็นหุ้นที่ทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง และมีการเติบโตสม่ำเสมอ เดี๊ยนจึงไม่มีอะไรต้องคัดค้านเมื่อหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 12.40 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 7.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 552 ล้านบาท เพราะราคาเป้าหมายสูงสุดที่นักวิเคราะห์ให้ไว้อยู่แถว 16 บาทนะออเจ้า

สำหรับหุ้นเล็กที่ “เคาะซ้ายที เคาะขวาที” เป็นเวลาร่วมเดือน “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้น SPREME เพื่อชี้ให้เห็นการขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.02 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 5.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 42 ล้านบาท ไม่ใช่เหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นครั้งแรก แต่ครั้งนี้อาจไม่เหมือนครั้งก่อนตรงที่หุ้นมีความพร้อมในการไปต่อมากกว่า จึงเป็นทางเลือกสำหรับคนที่อยากเล่นสนุก ๆ นะตัวเอง

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button