MAGURO ครึ่งปีหลังแจ่ม!

MAGURO ประกอบธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 12.9 ล้านบาท


คุณค่าบริษัท

บริษัท มากุโระ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MAGURO ประกอบธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นและเกาหลีระดับพรีเมียม-แมส รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 12.9 ล้านบาท ลดลง 36.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 20.3 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 264.7 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 32.1%

ส่วนผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 33 ล้านบาท ลดลง 16.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 39.7 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายและการให้บริการอยู่ที่ 618 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายและการให้บริการ 500.6 ล้านบาท

ถ้าไม่นับรวมค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นครั้งเดียว ซึ่งเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการนำบริษัทฯ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทจะมีกำไรสุทธิในไตรมาส 2/2567 อยู่ที่ 18.2 ล้านบาท ส่วนงวด 6 เดือนแรกปี 2567 กำไรสุทธิอยู่ที่ 38.7 ล้านบาท

แม้ผลงานในครึ่งแรกของปี 2567 ดร็อปลง แต่ถูกมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังจะกลับมาเติบโตได้ โดยเฉพาะในไตรมาส 3/2567 ที่จะเติบโตสวนโลว์ซีซัน เนื่องจากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม 2567 อยู่ในระดับทรงตัวจากไตรมาส 2/2567 ประกอบกับต้นทุนหลักอย่างปลาแซลมอนปรับลดลง ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นปรับสูงขึ้น

โดยปัจจุบันบริษัทมีร้านอาหารภายใต้แบรนด์ MAGURO, SSAMTHING TOGETHER, HITORI SHABU และ HITORI SUKIYAKI รวม 32 สาขา ซึ่งในช่วงที่เหลือของปี 2567 ตั้งเป้าจะเปิดสาขาเพิ่มอีก 6 สาขา ทั้งแบรนด์เดิมและแบรนด์ใหม่ล่าสุด TONKATSU AOKI รวมทั้งเตรียมจะเปิดตัวแบรนด์ใหม่เพิ่มอีก 1 แบรนด์ด้วย

จากกลยุทธ์การเร่งเปิดสาขาใหม่ ประกอบกับบรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคคึกคักขึ้น หลังรัฐบาลเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ MAGURO มั่นใจว่าปีนี้จะมียอดขายเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% ได้ตามเป้าหมายอย่างแน่นอน

ด้านบล.ดาโอ มีมุมมองเป็นบวกจากการที่ MAGURO ได้สิทธิในการบริหารร้านอาหาร TONKATSU AOKI โดยการเปิดแบรนด์ใหม่เป็นไปตามแผนที่บริษัทวางไว้สาขาแรกเปิด ธ.ค. 2567 ที่ Central World คาดค่าใช้จ่ายการลงทุน (CAPEX) ที่ 10 ล้านบาท (ใกล้เคียง maguro) ตั้งเป้าเปิดสาขา 5 สาขาใน 5 ปี

เบื้องต้นคาดรายได้จาก Tonkatsu Aoki ในปี 2567 ที่ 36 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้สาขาแรกเต็มปี คาดอัตรากำไรสุทธิที่ระดับ 8-9% สำหรับจำนวนสาขาที่บริษัทตั้งเป้าไว้ 5 สาขา ใน 5 ปี มองว่ามีโอกาสที่จะขยายได้เร็วกว่านั้น โดยคาดจะเห็น 5 สาขา ภายใน 2-3 ปี

ทั้งนี้้ หากเปิดครบ 5 สาขาในปีที่ 2-3 คาดจะมีรายได้จาก Tonkatsu Aoki ที่ 230 ล้านบาท/ปี และกำไรที่ 21 ล้านบาท/ปี (คิดเป็น 17% ของประมาณการกำไรปี 2567) อย่างไรก็ตามมองว่ามีโอกาสสูงที่บริษัทฯ จะขยายสาขาได้มากกว่า 5 สาขา คงประมาณการกำไรสุทธิปกติปี 2567 ที่ 96 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% จากปีก่อน และปี 2568 ที่ 122 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% จากปีก่อน

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น MAGURO ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 31.98 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.09 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 3.56 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.37 เท่า

Back to top button