ข่าวดีชั่วคราวจากตลาดเงิน

ทันทีที่ กนง. ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงแบบเซอร์ไพรส์ นักวิเคราะห์ก็พากันคาดหมายว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ


ทันทีที่คณะกรรมการนโยบายการเงินของแบงก์ชาติ (กนง.) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยลงแบบเซอร์ไพรส์ นักวิเคราะห์ก็พากันคาดหมายว่าตลาดหุ้นไทยวันนี้จะแกว่งตัวไซด์เวย์อัพ โดยยังรับ sentiment บวกจากการที่กนง.เซอร์ไพรส์ลดดอกเบี้ย หนุนต่อหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการลดดอกเบี้ย แต่อัพไซด์เริ่มจำกัด

แล้วก็เป็นจริงตามนั้น ตลาดทำนิวไฮในรอบ 1 ปี แต่ยังไม่ถึงเป้าหมาย 1,500 จุด ตามที่คาดไว้

เหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะนอกจากปัจจัยดอกเบี้ยแล้วยังไม่มีข่าวดีอื่นเพิ่มเติม และถ้ามองให้ลึกซึ้งจริง ๆ การปรับอัตราดอกเบี้ยขาลงระลอกใหม่ของแบงก์ชาตินับว่าเป็นการตอกย้ำว่าเศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนไหวจากปัญหาเงินฝืดยาวนานเรื้อรัง และมีสภาพคล่องส่วนเกินปรากฏอยู่ในระบบค่อนข้างมาก

อัตราดอกเบี้ยนโยบายแบงก์ชาติที่เรียกว่า Repo rate เป็นอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนของระบบธนาคารซึ่ง กนง. กำกับดูแลอยู่  หากเมื่อใดที่แบงก์ชาติเห็นว่าตลาดมีสภาพคล่องส่วนเกินมากก็จะลดอัตราดอกเบี้ยในตลาดซื้อคืนลง เพื่อให้ธนาคารพาณิชย์ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ลงซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเงินฝืดยาวนาน

ข่าวนี้เป็นข่าวร้ายมากกว่าข่าวดีเพราะว่าการที่ กนง. มีมุมมองว่าเศรษฐกิจในอนาคตไม่สดใส น่าจะส่งสัญญาณให้นักลงทุนในตลาดเทขายมากกว่าซื้อ

การที่ กนง. มีมุมมองในแง่ร้ายเช่นนี้ไม่น่าแปลกใจอะไรเลยเพราะความระแวดระวังเรื่องค่าเงินบาทจะแข็งเกินเนื่องจากเงินไหลเข้าประเทศสูงเกินจำเป็นและแบงก์ชาติอาจขาดทุนมหาศาลจากการที่เงินบาทแข็งค่าเกินไปเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์หรือค่าเงินเยนซึ่งเป็นอัตราต่อรองในตลาดเงินข้ามสกุลที่ต้องระวังมากเป็นพิเศษ เพราะจะทำให้เงินเฟ้อพุ่งขึ้นในประเทศสวนทางกับเจตนาเดิมของรัฐไทย

ภาวะกับดักสภาพคล่องคือเงินฝืดดี ๆ นี่เอง ดังนั้นใครจะว่าเงินฝืดดีต่อเศรษฐกิจคงไม่อาจฟังขึ้นแต่อย่างใดเลย

แต่ภาวะดอกเบี้ยขาลงย่อมดีต่อลูกหนี้ที่จะได้รับประโยชน์ชั่วคราวเพื่อต่อยอดลมหายใจในการทำธุรกิจต่อไปอีกหน่อย

จากนี้ไปค่าเงินบาทจะอ่อนตัวลงเพราะเงินฟันด์โฟลว์ที่เป็นตลาดหลักไหลออก ทำให้น่าหวั่นใจว่าขาขึ้นของตลาดหุ้นรอบนี้จะมีขีดจำกัดแค่ที่ 1,500 จุด  ซึ่งจะเป็นแนวต้านสำคัญที่ไม่อาจจะผ่านไปได้ง่าย ๆ

สัญญาณร้ายจาก กนง.ที่ส่งออกมาจึงเป็นข่าวร้ายอย่างแท้จริงต่อภาพรวมของตลาดหุ้นที่ปีนี้ผู้ประกอบการของบริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมจะย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ และเตรียมใจไว้ล่วงหน้าได้เลยว่าผลการดำเนินงานจะออกมาไม่สวยงามแน่นอน

การพุ่งขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นเมื่อวานนี้จึงเป็นจุดสุดท้ายของขาขึ้นในรอบนี้ที่นักลงทุนต้องเร่งขายออกจากมือโดยเร็วเพราะการเทขายออกกำลังจะตามมายาวนานนับเดือนเลยทีเดียว

ไม่อยากบอกก็ต้องบอกไว้ เดี่ยวจะหาว่าไม่เตือนกันก่อน

วิษณุ โชลิตกุล

Back to top button