แม้ SET มีโมเมนตัมขึ้นต่อได้ แต่ช่วงสั้น upside เริ่มจำกัด 

InnovestX มองว่ามาตรการการคลังของจีนที่ประกาศออกมาครั้งนี้อาจไม่สามารถที่จะทำได้เต็มที่เนื่องจากปัจจุบันมาตรการเหล่านี้ผลักดันผ่านรัฐบาลท้องถิ่นที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว


InnovestX มองว่ามาตรการการคลังของจีนที่ประกาศออกมาครั้งนี้อาจไม่สามารถที่จะทำได้เต็มที่เนื่องจากปัจจุบันมาตรการเหล่านี้ผลักดันผ่านรัฐบาลท้องถิ่นที่มีหนี้สินล้นพ้นตัว ทำให้ไม่สามารถที่จะเป็นเครื่องมือในการกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดย Reuters คาดว่าหนี้รัฐบาลท้องถิ่นโดยรวมอยู่ที่ 116% GDP (ประมาณ 146 ล้านล้านหยวน) และส่วนใหญ่อยู่ในรูปบริษัทท้องถิ่น (Local government financing vehicles (LGFVs) ซึ่งมีโครงสร้างทางการเงินไม่ชัดเจน ทำให้แก้ปัญหาการเงินได้ยาก 

นอกจากนั้น ในส่วนการแก้ปัญหาอสังหาฯ ของจีน InnovestX มองว่ายังเผชิญ 3 ความท้าทายหลัก (1) รัฐบาลท้องถิ่นที่เป็นเครื่องมือหลักในการแก้ปัญหานั้น กำลังมีปัญหาหนี้สินล้นพ้นตัว (2) ราคาบ้านอาจไม่สามารถฟื้นขึ้นได้หากเศรษฐกิจ รวมถึงรายได้ของประชาชนในภาพใหญ่ไม่ฟื้น และ (3) จีนมีปัญหาอุปทานล้นเกินในหลายเมือง โดยเฉพาะเมืองระดับ 2-3 ที่ประชาชนย้ายเข้าเมืองใหญ่ โดย Bloomberg คาดการณ์ว่าบ้านที่ขายแล้วแต่ยังไม่ได้สร้างของจีน อาจมีประมาณ 48 ล้านยูนิต หรือประมาณ 3 ล้านล้านหยวน 

ขณะที่ InnovestX คาดว่า มูลค่าบ้านคงค้าง น่าจะอยู่ที่ 381 ล้านตร.ม. หรือ 3.86 ล้านล้านหยวน ซึ่งจำเป็นต้องใช้งบประมาณไม่ต่ำกว่า 7 ล้านล้านหยวน ในการเข้าช่วยเหลือสถานการณ์ดังกล่าว ความท้าทายเหล่านั้นทำให้การแก้ปัญหาภาคอสังหาฯ ไม่สามารถทำได้โดยง่าย ในส่วนของธนาคารพาณิชย์ของจีน InnovestX มองว่าความเสี่ยงอาจจะเริ่มมีสูงขึ้น เพราะว่าทางการใช้ธนาคารเป็นเครื่องมือหลักในการช่วยเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้ธนาคารมีสินทรัพย์ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมาก นอกจากนั้น หากพิจารณาการส่งออกประเทศสำคัญในเอเชีย กำลังชะลอลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้ความเสี่ยงเศรษฐกิจโลกในระยะต่อไปมีมากขึ้น กระทบต่อการฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนในระยะต่อไป

ส่วนตลาดหุ้นไทย InnovestX มองช่วงสั้น SET แกว่งตัว sideway โดยดัชนีปรับขึ้นมาทดสอบแถว 1,500 จุด หลัง กนง. ปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย และคาดยังมีแรงส่งต่อเนื่อง รวมไปถึงยังมองมีปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะผลประกอบการของ บจ. ในสหรัฐฯ ที่คาดจะออกมาแข็งแกร่งกว่าตลาดคาด สืบเนื่องจากมีความคาดหวังต่ำ อย่างไรก็ดี SET จะมี Upside จำกัด หลังเริ่มเข้าสู่ช่วงติดตามผลประกอบการไตรมาส 3/67 ของ บจ. ไทยกลุ่ม Real Sector และยังรอนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมของภาครัฐ และหากพิจารณาในตัวเลขเศรษฐกิจที่จะประกาศสัปดาห์หน้า อาทิ ตัวเลขอสังหาริมทรัพย์และดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐฯ มองยังมีแนวโน้มชะลอตัวลง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 4 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้

  1. หุ้น Earning Play สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ต้องการหุ้นมีปัจจัยพื้นฐานดีที่กำไรไตรมาส 3/67 คาดมีโมเมนตัมเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน เลือก BEM, BCH, BDMS, GULF, TRUE, AU และ TNP ขณะที่แนะนำระมัดระวังกลุ่มที่มีความเสี่ยงไตรมาส 3/67 งบออกมาแย่กว่าตลาดคาด อาทิ กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีจากราคาน้ำมันลดลง กลุ่มบรรจุภัณฑ์จากยอดขายอ่อนตัวและค่าเงินบาทแข็ง กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์จากค่าเงินบาทแข็ง
  2. หุ้นที่ได้อานิสงส์จากแนวโน้มดอกเบี้ยปรับตัวลง แนะนำ 1) หุ้นกลุ่ม Reits (LHHOTEL, DIF) ซึ่งได้อานิสงส์บวกภายใต้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรกำลังจะเปลี่ยนเป็นทิศทางเป็นขาลง 2) หุ้นกลุ่มค้าปลีก (CPALL) กลุ่มอสังหาฯ (AP, SIRIซึ่งได้อานิสงส์จากประชาชนมีอำนาจซื้อเพิ่มขึ้น (ดอกเบี้ยเงินกู้ลดลง)  3) หุ้นธนาคาร (TISCO, KKP) เพราะมีสัดส่วนของสินเชื่อเช่าซื้อสูง ซึ่งมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ และ 4) หุ้นที่มีต้นทุนกู้ยืมลดลง GPSC, BAM
  3. หุ้นที่จ่ายปันผลสูงละคาดได้อานิสงส์จากการเป็นเป้าหมายสะสมของกองทุนวายุภักษ์และกองทุนที่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีช่วงปลายปี อาทิ SSF, RMF และ THAIESG แนะนำหุ้น SET100 ที่คาดให้ Dividend Yield ขั้นต่ำปีละ 3.5% และมี ESG Rating สูงตั้งแต่ระดับ AA-AAA และ CG ระดับ 5 ดาว อีกทั้งมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง และผลประกอบการมีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2568 เลือก KTB, BBL, ADVANC, HMPRO และ BCP
  4. ราคาน้ำมันดิบ Brent ฟื้นตัว จากความกังวลสถานการณ์ในตะวันออกกลางจะลุกลามเป็นวงกว้าง โดยประเมินกรอบราคา 75-85 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งมองยังสามารถมีหุ้นน้ำมันสำหรับป้องกันความเสี่ยง (Hedging) ได้ ดังนั้นนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จึงยังคงเลือกหุ้นน้ำมันขั้นต้นอย่าง PTTEP

สุกิจ อุดมศิริกุล

จีนประกาศมาตรการการคลังรอบใหม่ แต่ไม่ระบุขนาดโดยรวมของมาตรการ

มาตรการ
1. รัฐบาลกลางจีนจะระดมทุนและช่วยรัฐบาลท้องถิ่นจัดการกับ off-balance-sheet borrowing หรือการกู้ยืมนอกงบดุล ซึ่งจะช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น โดยมีวงเงิน 4 แสนล้านหยวนจากโควตาพันธบัตรที่ยังไม่ได้ใช้
2. รัฐบาลท้องถิ่นสามารถใช้เงินที่ได้จาก “พันธบัตรพิเศษ” เพื่อซื้อบ้านคงค้าง และเปลี่ยนเป็นบ้านเอื้ออาทร โดยมีวงเงิน 2.3 ล้านล้านหยวน
3. เจ้าหน้าที่ระบุว่ายังมีพื้นที่ทางการคลังสำหรับรัฐบาลกลางในการขยายการขาดดุลงบประมาณ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติม
4. ธนาคารของรัฐรายใหญ่จะได้เพิ่มทุนเพิ่มเติม
5. ไม่มีการระบุมาตรการกระตุ้นการบริโภคใหม่ และไม่มีรายละเอียดเกี่ยวกับเงินอุดหนุนสำหรับครัวเรือน 

Source : Bloomberg, INVX

Back to top button