KTC กำไรรูดฝืด.!

เห็นงบงวดไตรมาส 3/2567 และงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ของบัตรรูดปรื๊ด บมจ.บัตรกรุงไทย หรือ KTC แล้ว ภาพรวมก็ดูดีแหละ...กำไรมีการพัฒนาในเชิงบวก


เห็นงบงวดไตรมาส 3/2567 และงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ของบัตรรูดปรื๊ด บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC แล้ว ภาพรวมก็ดูดีแหละ…กำไรมีการพัฒนาในเชิงบวก แม้จะโตไม่มาก แต่ยังโตได้อยู่ โดยกำไรสุทธิในงวดไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 1,919 ล้านบาท เติบโต 3.4% เทียบกับไตรมาส 3/2566 ที่ทำได้ 1,857 ล้านบาท

ส่วนงวด 9 เดือนแรกปี 2567 กำไรสุทธิอยู่ที่ 5,549 ล้านบาท เติบโต 0.3% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 5,534 ล้านบาท

โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 มีพอร์ตสินเชื่อรวม 106,183 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยที่ 0.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ท่ามกลางหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

อีกช็อตที่น่าสนใจคงเป็นตัวเลข NPL ซึ่ง KTC คุมได้ดี จาก 1.97% ในไตรมาส 3/2566 เหลือ 1.93% ในไตรมาส 3/2567 แยกย่อยเป็น NPL สินเชื่อลูกหนี้บัตรเครดิตอยู่ที่ 1.30% ลดลงจาก 1.33% ในไตรมาส 3/2566 ส่วน NPL สินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 2.21% ลดลงจาก 3.11% ในไตรมาส 3/2566 ขณะที่ NPL ลูกหนี้ตามสัญญาเช่าอยู่ที่ 16.17% เพิ่มขึ้นจาก 15.27% ในไตรมาส 3/2566

เอาเป็นว่า ภาพรวมของ KTC ในไตรมาสนี้ กำไรโต (กะปริบกะปรอย) ขณะที่สินเชื่อรวมย่อนิดหน่อย ส่วน NPL ลดลง..!!

แต่ถ้าแคะดูไส้ในก็น่าสนใจ จะเห็นอาการไม่ค่อยสู้ดี โดยเฉพาะพอร์ตสินเชื่อบัตรเครดิต ซึ่งเป็นเส้นเลือดหลักของ KTC…โอเค แม้ภาพรวม KTC จะโชว์ปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซี 8 เดือนแรกปี 2567 มีมูลค่า 187,786 ล้านบาท ขยายตัว 9.9% ซึ่งสูงกว่าอุตสาหกรรมที่ขยายตัวเพียง 2.6% ตอกย้ำด้วยปริมาณการใช้จ่ายผ่านบัตรของเคทีซีในช่วง 9 เดือนแรก ปี 2567 มีมูลค่า 211,459 ล้านบาท ขยายตัว 10.0%

ถ้าดูในส่วนของไตรมาส 3/2567 พอร์ตจะอยู่ที่ 69,093 ล้านบาท ลดลง 0.2% จากอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้นจาก 5% เป็น 8% และผลของนโยบายการตัดหนี้สูญใหม่ของบริษัท ทำให้พอร์ตมีมูลค่าใกล้เคียงเดิม

เลยเป็นที่มาของ KTC กำไรรูดฝืด..!!

เพราะถ้าดีจริง ยอดสินเชื่อบัตรเครดิตในไตรมาส 3/2567 ก็ต้องดีด้วยสิ…หรือใครจะเถียง..!?

ส่วนอีก 2 ขาที่เหลือ อย่างพอร์ตสินเชื่อบุคคลอยู่ที่ 34,806 ล้านบาท ขยายตัว 2.1% โดยเป็นยอดสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน จำนวน 2,959 ล้านบาท…จะเห็นว่าสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ KTC หวังผลักดันให้เป็นเรือธงลำใหม่ ตอนนี้ยังเป็นแค่เรือแจวละมั้ง…คงต้องพยายามให้มากขึ้นแล้วล่ะ

ด้านพอร์ตสินเชื่อลูกหนี้ตามสัญญาเช่าอยู่ที่ 2,284 ล้านบาท ลดลง 32.2% จากปีก่อนหน้า เนื่องจากได้หยุดการปล่อยสินเชื่อประเภทนี้ และปัจจุบันหันมามุ่งเน้นการติดตามหนี้และบริหารจัดการคุณภาพพอร์ตสินเชื่อที่มีอยู่…(เข้าใจว่าธุรกิจลีสซิ่งดำเนินการภายใต้บริษัท กรุงไทยธุรกิจลีสซิ่ง จำกัด ซึ่ง KTC ไปซื้อต่อมาจากธนาคารกรุงไทย น่าจะรวมอยู่ในส่วนนี้อ๊ะป่าว..??)

ก็ต้องติดตามกันต่อไปว่า ผลงานงวดโค้งสุดท้ายปีนี้ KTC จะทำได้ดีแค่ไหน..??

ขณะที่นักวิเคราะห์มีมุมมองกลาง ๆ ต่อ KTC โดยบล.พาย ชี้แนวโน้มในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยฤดูกาลการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตจะเพิ่มขึ้นสูงทำให้สินเชื่อจะกลับมาขยายตัวแข็งแกร่ง ประกอบกับการควบคุมต้นทุนการเงินได้ดี ทำให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัวต่อเนื่อง แต่เพราะ KTC จะมีค่าใช้จ่ายด้านการตลาดสูงขึ้น ทำให้คาดว่ากำไรในไตรมาส 4/2567 จะลดลงจากไตรมาสก่อน แต่ะจะสามารถขยายตัวได้จากช่วงเดียวกันปีก่อน

ทั้งนี้ คาดการณ์กำไรสุทธิจะเติบโต 1.7% ในปี 2567 และเติบโตสูงขึ้นที่ 5.5% ในปี 2568 และ 5.0% ในปี 2569

ดูจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์แล้ว ยิ่งตอกย้ำมันจบแล้วครับ KTC กับฉายาหุ้น Growth Stock (หุ้นเติบโต)

จากเดิมเคยโตร้อนแรงด้วยเลขสองหลักมาตลอด…ตอนนี้กลายเป็นโตกะปริบกะปรอยไปแล้ว…เซ็งเป็ดก้าบ ๆ..!!

…อิ อิ อิ…

Back to top button