Solo Wedding แต่งงานไม่ง้อเจ้าบ่าว.!
ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สรุปสภาวะสังคมไตรมาส 1/2567 อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติว่าด้วย “สถานการณ์คนโสด” ช่วงวัยเจริญพันธุ์ (อายุเฉลี่ย 15-49 ปี) พบว่า มีคนโสดมากถึง 40.5% ของจำนวนทั้งหมด
ข้อมูลจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) สรุปสภาวะสังคมไตรมาส 1/2567 อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติว่าด้วย “สถานการณ์คนโสด” ช่วงวัยเจริญพันธุ์ (อายุเฉลี่ย 15-49 ปี) พบว่า มีคนโสดมากถึง 40.5% ของจำนวนทั้งหมด ที่สำคัญจากจำนวนดังกล่าวกว่าครึ่งอยู่ช่วงอายุ 15-25 ปี ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองหลวง และ 1 ใน 3 ส่วนมากเป็นผู้หญิงที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีขึ้นไป 42% สูงกว่าผู้ชาย (เฉลี่ย 25.7%) มากเกือบเท่าตัว
แต่ทว่างานนี้ดูเหมือน “บรรดาสาวโสด” คงจะไม่เดือดเนื้อร้อนใจ..หรือเป็นกังวลใจว่าจะไม่ได้แต่งงาน..เพราะปัจจุบันมีทางเลือกสำหรับ “สาวโสด..แต่อยากมีโหมดแต่งงาน”
นั่นคือ..Solo Wedding หรือแนวคิด Sologamy คือการแต่งงานคนเดียวหรือการแต่งงานกับตัวเอง
แนวคิดนี้สร้างความตื่นเต้นให้ “บรรดาสาวโสด” ที่ยังไม่มีแผนแต่งงานแต่มีความฝัน “อยากเป็นเจ้าสาว” หรืออยากใส่ชุดแต่งงาน..!!
จุดเริ่มต้นของ Solo Wedding มาจากประเทศญี่ปุ่นและกำลังกลายเป็นเมกะเทรนด์ไปทั่วโลก
ปัจจุบันบริษัทรับจัดงานแต่งงานและสตูดิโอถ่ายภาพ Pre-wedding จำนวนไม่น้อยในประเทศญี่ปุ่น
โดยเทรนด์ของ Solo Wedding กำลังได้รับความนิยมแพร่หลายมากขึ้นในหมู่ลูกค้าเพศหญิง ที่มีทั้งคนที่อยากยกระดับความมั่นคงของชีวิตด้วยการแต่งงานกับตัวเองและไม่จำเป็นต้องมีเจ้าบ่าวหรือคนรัก..
รวมถึงคนที่เคยผ่านชีวิตสมรสมาแล้ว แต่ต้องการฟื้นความทรงจำดี ๆ จากวันแต่งงานใหม่อีกครั้ง จะมาใช้บริการบริษัทและสตูโอเหล่านี้ด้วยเช่นกัน
ปัจจุบันบริษัทจัดงานแต่งงานและสตูดิโอถ่ายรูป Pre-wedding เริ่มออกแพ็กเกจให้คนที่อยากจัด Solo Wedding โดยมีราคาหลากหลายและบริการที่ครอบคลุม ตั้งแต่ชุดแต่งงานหรือนายแบบเจ้าบ่าวให้เช่าและสตูดิโอถ่ายรูป กรณีลูกค้าต้องการเก็บรูปถ่ายไว้เป็นความทรงจำ…
สำหรับความนิยมของ Solo Wedding ไม่ได้มีให้เห็นแค่ในประเทศญี่ปุ่นเท่านั้น
แต่ปรากฏให้เห็นในหลายพื้นที่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นประเทศบราซิล, อเมริกา หรือในยุโรป ที่ไม่ได้ถ่ายรูปในสตูดิโอเพียงเท่านั้น แต่ยังเลือกซื้อแพ็กเกจบริการจัดงานแต่งงานแบบฟูลคอร์ส ที่มีทั้งการตกแต่งสถานที่อย่างจริงจัง มีพื้นที่รองรับครอบครัว เพื่อนหรือแขกของเจ้าสาว
ขณะที่ Solo Wedding ในบางประเทศ เรียกว่า เป็นงานแต่งงานแบบจริงจัง สวมแหวนจริงจัง แล้วมีพิธีสาบานตนอย่างจริงจังด้วย แต่ต่างกันตรงที่ไม่มีเจ้าบ่าวและทะเบียนสมรสที่ถูกต้องตามกฎหมาย..
“อิโนอุเอะ ยูกิโกะ” ประธาน Cerca Travel ที่ออกแบบแพ็กเกจ Solo Wedding ยุคแรกในประเทศญี่ปุ่น ระบุว่าต้องการสนับสนุนให้ผู้หญิงมีความรู้สึกเชิงบวกกับตัวเอง รักและเห็นคุณค่าในตัวเอง ไม่ว่าเธอจะมีคนรักหรือไม่ก็ตาม
อีกนัยสำคัญการแต่งงานกับคนรักนอกจากต้องรอเวลาที่ทั้ง 2 คนพร้อมแล้ว ยังต้องใช้เวลาการเก็บเงินนานไม่แพ้กันแต่ Solo Wedding คือ สิ่งที่ผู้หญิงสามารถเลือกและออกแบบได้ตามความชื่นชอบของตัวเอง โดยมีครอบครัว เพื่อนสนิทหรือคนใกล้ชิดมาร่วมแสดงความยินดี
อย่างไรก็ดี Solo Wedding ไม่ได้สื่ออัตลักษณ์ทางเพศ ไม่ได้แปลว่าจะไม่แต่งงานกับใครอีกเลยในอนาคต
แต่เป็นเพียงการแสดงออกทางสัญลักษณ์อย่างหนึ่งว่า..เรารัก เห็นคุณค่าและให้เกียรติตัวเอง
เอาล่ะ..แม้ว่าความสุขแบบคนโสดจะตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ (บางส่วน) และอุตสาหกรรมงานแต่งงาน ทยอยปรับตัวตามแนวคิด Sologamy ที่ได้รับความนิยมมากขึ้น
แน่นอนว่า..บริษัทจัดงานแต่งงานและสตูดิโอถ่ายรูป Pre-wedding คงสมประโยชน์สร้างการเติบโตของธุรกิจได้อย่างมีนัยเลยทีเดียว..!!??