MASTER ดักทางก่อนขึ้น SET.!
หลังจากหุ้นศัลยกรรมความงาม MASTER ตีฆ้องร้องป่าวจะย้ายจากวิกเล็ก (ตลาด mai) ขึ้นสู่วิกใหญ่ (SET) มาพักใหญ่ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามดีจาก ตลท. ดีเดย์เทรดใน SET เสียที..!!
หลังจากหุ้นศัลยกรรมความงาม บริษัท มาสเตอร์ สไตล์ จำกัด (มหาชน) หรือ MASTER ของ “เฮียระวีวัฒน์ มาศฉมาดล” ตีฆ้องร้องป่าวจะย้ายจากวิกเล็ก (ตลาด mai) ขึ้นสู่วิกใหญ่ (SET) มาพักใหญ่ ในที่สุดก็ได้ฤกษ์งามยามดีจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ให้วันนี้ (28 ต.ค. 2567) ดีเดย์เทรดใน SET เสียที..!!
แหม๊…ถ้าเปรียบเชิงมวยก็ไม่ต่างจากเดิมเป็นมวยวัด กำลังจะขยับไปชกเวทีระดับประเทศ อย่างสนามมวยลุมพินีหรือสนามมวยราชดำเนินนั่นแหละ..!!
ว่าไปแล้วก็เร็วนะ เพราะใช้เวลาไม่ถึง 2 ปี (เข้าเทรดวันที่ 25 ม.ค. 2566 ด้วยไอพีโอ 46 บาท) แต่วันนี้ MASTER อัพสถานะย้ายขึ้นไปเทรดตลาดใหญ่ได้แล้ว…ไม่ธรรมดานะเนี่ย
แต่ปรากฏการณ์ก่อนที่หุ้น MASTER จะขยับไปเทรดใน SET มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะจากบรรดานักลงทุนสถาบัน หรือกองทุน ซึ่งบางกองทุนก็เข้ามาขอข้อมูลเยี่ยมชมกิจการ ในขณะที่บางกองทุนแอบเก็บหุ้นในกระดานก่อนเลยทีเดียว
โดยว่ากันว่าช่วงนี้ MASTER เนื้อหอมสุด ๆ ขนาดที่ว่าช่วงกลางเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งไปโรดโชว์และแสดงวิสัยทัศน์แบบ Exclusive 1 on 1 Meeting ให้กับนักลงทุนสถาบัน และกองทุนจำนวน 8 กองทุน เห็นว่าได้รับการตอบรับที่ดีอยู่หนา…
คงไม่ได้โม้…ใช่ป๊ะ..!?
โอเค…ที่ผ่านมาแม้ MASTER จะเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่ง…โดยตัวธุรกิจได้ปัจจัยหนุนจากเทรนด์ศัลยกรรมที่มาแรง ทำให้เป็นอีกอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตสูง…สะท้อนได้จากผลประกอบการในช่วง 3 ปีย้อนหลัง โดยปี 2564 มีรายได้รวม 690.16 ล้านบาท กำไรสุทธิ 162.80 ล้านบาท ถัดมาปี 2565 รายได้รวมพุ่งไปแตะ 1,490.36 ล้านบาท กำไรสุทธิปาไป 300.92 ล้านบาท ส่วนปี 2566 มีรายได้รวม 1,948.93 ล้านบาท กำไรสุทธิสูงถึง 416.30 ล้านบาท
ขณะที่ ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้รวม 996.37 ล้านบาท และตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 193.81 ล้านบาท ดังนั้นถ้าไม่สะดุดยอดหญ้าไปเสียก่อน ปี 2567 นี้ก็น่าจะเห็นการเติบโตแบบก้าวกระโดด โดยนักวิเคราะห์คาดจะเห็นกำไรสุทธิอยู่ในกรอบ 480-490 ล้านบาทเชียวนะ…
แต่น่าเสียดาย…การที่ MASTER อยู่ในตลาด mai ซึ่งด้วยเงื่อนไขของบางกองทุนไม่สามารถเข้าไปลงทุนได้ เลยได้แต่มอง..!!
การย้ายขึ้นไปเทรดในตลาดใหญ่ เท่ากับเป็นการปลดล็อกกองทุนให้สามารถเข้าลงทุนได้นั่นเอง…
ก็สอดคล้องกับข้อมูลในปัจจุบันที่พบว่ามีกองทุนถือหุ้น MASTER แบ่งเป็น กองทุนไทยประมาณ 12% และกองทุนต่างประเทศประมาณ 2% เท่านั้น แต่หลังจากนี้ MASTER น่าจะเป็นอีกหนึ่งหุ้นขวัญใจกองทุน โดยผู้บริหารมั่นใจว่ามีโอกาสที่กองทุนจะเพิ่มสัดส่วนการลงทุนมากขึ้น โดยสัดส่วนกองทุนไทยน่าจะถือหุ้นเพิ่มเป็น 20% ส่วนกองทุนต่างประเทศน่าจะมีสัดส่วนถือเพิ่มเป็น 10%
ส่วนถามว่าการเข้ามาของกองทุนจะทำให้หุ้น MASTER หวือหวาขึ้นอ๊ะป่าว..?? อันนี้ตอบยาก
แต่อย่างน้อยคงช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนได้ไม่มากก็น้อยแหละน่า…
เอาเป็นว่าใครใคร่ซื้อก็ชื้อ…ใครใคร่ขายก็ขาย
เลือกที่สบายใจละกัน…
…อิ อิ อิ…