1,280 เอาอยู่?โมนิก้าและทีมงาน

*วันก่อน “โมนิก้า” เพิ่งเม้าท์ถึงเรื่องสัญญาณเทคนิคไปหยกๆ วันนี้เลยถือโอกาสเม้าท์ถึงช็อตต่อเนื่อง เพื่อให้ผู้เล่นมองเห็นความสำคัญของการเข้าถึงจิตวิญญาณในการลงทุน(พูดซะสวยหรู) เพราะแพทเทิร์นของหุ้นยังเป็นรูปแบบเดิมๆ ไม่ได้มีอะไรแตกต่างจากก่อนหน้านี้สักเท่าไหร่ แถมท่าทีของนักลงทุนสถาบันยังติดนิสัย “เข้าเร็ว ออกเร็ว” ตลาดหุ้นถึงยังไปไหนได้ไม่ไกลเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,285.30 จุด ลบไป 12.04 จุด ด้วยมูลค่า 4.54 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนขี้ตืดหันมาเทขายหุ้น 1.90 พันล้านบาท ผสมผสานกับฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมา 600 ล้านบาท “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะ! มันเป็นเหตุการณ์ที่เคยทำให้หุ้นตกหนักมาแล้วใช่ไหม? และหุ้นที่ได้รับผลกระทบหนักหนาสาหัสยังกระจุกตัวอยู่ที่บลูชิพถูกต้องไหม?

*หากคำตอบที่ได้จากการกลั่นกรองออกมาในโทน “ถูกต้อง” เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า แนวรับ 1,280  จุดจะเป็นจุดเด้งกลับที่สำคัญในเที่ยวนี้ และยังจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรมของหุ้นบลูชิพ “โมนิก้า” ถึงพยายามให้แฟนคลับหันมาสนใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะเมื่อมองไปข้างหน้าอีก 1-2 เดือนจะเห็นว่า ยังไม่มีปัจจัยบวกใหม่ๆ เข้ามากระตุ้นความเชื่อมั่นเลยพับผ่าซิ!

*ขนาดหุ้นปูนใหญ่ SCC อุดมไปด้วยคุณภาพแบบคับกล่อง และยังมีโพซิชั่นที่ดีในการทำกำไรแบบยั่งยืน ยังโดนถล่มเทขายแบบไม่บันยะบันยัง จนหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 410 บาท ลบไป 16 บาท หรือลงไป 3.80%  และทำท่าจะอ่อนตัวหลุดแนวรับ 400 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นเกมของนักลงทุนสถาบันที่ต้องวัดความเก๋ากันเอาเอง แมงเม่าปีกแข็งหลบไปก่อนดีกว่านะคะ

*เหมือนกับในรายของ CPALL ถ้าประเมินจากเนื้อผ้าที่เกิดขึ้น กูรูในตลาดหุ้นหลายท่านเม้าท์เหมือนกันว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ 42 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 4.40% ด้วยมูลค่า 2.94 พันล้านบาท “โมนิก้า” ว่าเที่ยวนี้เป็นผลมาจากความชัดเจนของตัวผู้บริหารที่กำลังจะถูกบีบออก พวกนกรู้เลยเข้ามาไล่เก็บหุ้นล่วงหน้า เพราะรู้กันอยู่แล้วว่า หุ้นตัวนี้มีดีกว่าที่คิด โอกาสวิ่งขึ้นไปแตะ 50 บาทเลยไม่ใช่เรื่องยากไงล่ะค่ะ

*เมื่อความชัดเจนในตัวลูกบังเกิดขึ้น หุ้นตัวแม่อย่าง CPF ก็เลยตีปีกกันยกใหญ่ เพราะความชัดเจนในครั้งนี้เหมือนโชค 3 ชั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องตัวเลขกำไร แผนการเงินในอนาคต รวมทั้งแรงกดดันจากสังคมที่ลดลง “โมนิก้า” ถือเป็นแรงขับเคลื่อนที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 19 บาท บวกไป 0.30 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น พร้อมกับคาดหวังว่า หุ้นจะกลับขึ้นไปยืนเหนือ 20 บาทอีกรอบ ต่อจากนั้นจะขึ้นไปทดสอบ 22 บาทอีกทีหนึ่งนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ DTAC ก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 35.50 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ผิดธรรมชาติ และไม่สามารถยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ได้เลย เพราะการสวนกระแสตลาดขึ้นมาโดดๆ ทั้งที่ตัวเองยังไม่มีของดีอยู่ในมือ มันเหมือนการปิดตาเดินในบ่อจระเข้…โอกาสโดนเขมือบสูงเหลือเกินเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่สร้างเซอร์ไพรส์ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่  EVER ในทันที เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรต้องสนใจมากมายอีกต่อไป เกมหุ้นดูเหมือนจะปิดฉากลงอย่างเป็นทางการ แต่ทันทีที่หุ้นบวกติดต่อกัน 3 วันติดๆ บรรดาเสือโหยก็หันมารุมทึ้งหุ้นตัวนี้กันอย่างเมามัน วานนี้ถึงเป็นวันที่ 4 ของการปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 0.92 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 9.5% ด้วยมูลค่า 216 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ผู้เล่นต้องไปวัดดวงกันเอาเองนะคะ

*ไหนๆ ชอบเล่นเกมเสี่ยงกันทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันมาพิจารณา VIBHA เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเล่นในเที่ยวนี้บ้างดีกว่า อย่างน้อยก็มีผลประกอบการเป็นแบ็กอัพ โอกาสที่หุ้นจะรูดมหาราชคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ แถมผลประกอบการในแต่ละไตรมาสก็ทำได้อย่างเจ๋งเป้ง การทะยานขึ้นมาปิดที่ 2.24 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 7.70% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท มันสะท้อนถึงความนิยมมีอย่างล้นหลามนะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอวกกลับเข้าไปดู MILL ภายใต้การกุมบังเหียนของ “เสี่ยหมู” เพื่อกระตุ้นต่อมอะดรีนาลีนให้ทำงานรัวๆๆ หลังเห็นหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 1.33 บาท บวกไป 0.16 บาท หรือขึ้นไป 13.70% พร้อมด้วยข่าวลงทุนมูลค่า 6.80 พันล้านบาท เดี๊ยนถือเป็นตัวบิ้วลด์อารมณ์ชั้นยอดเลยทีเดียว ว่าแต่..วันนี้หุ้นจะไปต่อหรือเปล่า? หลังข้อมูลในอดีตฟ้องว่า หุ้นตัวนี้ชอบวิ่งแค่สั้นๆ นะซี