STANLY กำไรเร่งไม่ขึ้น.!
ว่ากันว่าโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์อีวี จะกลายเป็นวิกฤตของรถยนต์สันดาป หรือรถใช้น้ำมัน..!? ดูเหมือนคำกล่าวนี้จะเป็นจริงแฮะ...
ว่ากันว่าโอกาสของรถยนต์ไฟฟ้า หรือรถยนต์อีวี จะกลายเป็นวิกฤตของรถยนต์สันดาป หรือรถใช้น้ำมัน..!?
ดูเหมือนคำกล่าวนี้จะเป็นจริงแฮะ…สะท้อนได้จากยอดผลิตรถยนต์ในปี 2567 ที่หดตัวอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดในช่วงไตรมาส 3/2567 (ก.ค.-ก.ย. 2567) มียอดผลิตรถยนต์จำนวน 366,786 คัน ลดลง 21.03% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดการผลิต 464,459 คัน โดยมียอดการส่งออกจำนวน 249,847 คัน ลดลง 14.75% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดการส่งออก 293,082 คัน ในขณะที่ยอดขายภายในประเทศมีจำนวน 130,632 คัน ลดลง 27.72% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดขาย 180,739 คัน
ด้านยอดการผลิตรถจักรยานยนต์ก็หดตัวเช่นกัน โดยในช่วงไตรมาส 3/2567 มียอดการผลิตอยู่ที่ 441,781 คัน ลดลง 13.45% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดการผลิต 510,447 คัน และมียอดขายในประเทศ 391,117 คัน ลดลง 13.52% จากช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดขาย 452,357 คัน
แน่นอนว่าองคาพยพหรือกลุ่มเหาฉลามของรถยนต์และรถจักรยานยนต์ก็พลอยแย่ไปด้วย…
เห็นได้ชัดจากผลการดำเนินงานของบริษัท ไทยสแตนเลย์การไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ STANLY ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์ส่องสว่างยานยนต์ ได้แก่ หลอดไฟ ชุดโคมไฟ และแม่พิมพ์ ประกาศงบในไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิหายไปกว่า 30% เหลือแค่ 327.16 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิ 495.48 ล้านบาท โดยมียอดขายอยู่ที่ 3,230.95 ล้านบาท ลดลง 514.18 ล้านบาท หรือลดลง 13.73% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2566 ที่มียอดขาย 3,745.13 ล้านบาท
เมื่อยอดการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์น้อย ก็ฉุดให้ความต้องการใช้อุปกรณ์ส่องสว่างน้อยตามไปด้วย STANLY จึงได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ…
ส่วนสาเหตุก็มาจากหลายปัจจัย ไล่มาตั้งแต่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศและต่างประเทศที่ยังซบเซา ภาวะหนี้ครัวเรือนสูง ส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค และการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน…แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ากระแสเห่อรถอีวีของคนไทยในช่วงที่ผ่านมา เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ฉุดยอดขายรถยนต์สันดาปด้วย…หรือใครจะเถียง..??
ทว่านอกจากภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบไม่ดีแล้ว…หันมาดูตัว STANLY เองก็ไม่ดีด้วย เนื่องจากในไตรมาสนี้มีการบันทึกขาดทุนพิเศษสองก้อนปาไปเกือบ 250 ล้านบาทเลยทีเดียว…
กลายเป็นว่า พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก STANLY นะเนี่ย..!!
โดยก้อนแรกเป็นการบุ๊กขาดทุนจากการด้อยค่าสินทรัพย์ 218.43 ล้านบาท
ส่วนอีกก้อนเป็นการตัดสินทรัพย์ที่ไม่ได้ใช้งาน 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากการควบรวมกิจการโรงงานผลิตโคมไฟที่ 1 และโรงงานผลิตโคมไฟที่ 5 เข้ากับโรงงานผลิตโคมไฟที่ 2, โรงงานผลิตโคมไฟที่ 7 และโรงงานผลิตโคมไฟที่ 8 เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน ก่อให้เกิดประสุทธิภาพสูงสุดทั้งในด้านต้นทุน คุณภาพ และการจัดส่ง รวมทั้งลดการใช้พลังงาน และลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยคาดจะดำเนินงานแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2567 นี้
หลังจากนั้นจะเริ่มรับรู้ผลสัมฤทธิ์ เบื้องต้นจะเริ่มรับรู้ในส่วนของต้นทุนก่อนตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 นี้
งั้นกำลังจะบอกให้นักลงทุนอดเปรี้ยวไว้กินหวานใช่ม๊ะ..??
แต่ไม่ใช่บอกให้รอ…แล้วสุดท้ายแทนที่จะหวานกลายเป็นขมปี๋ไปหรอกนะ..!?
แต่เห็น STANLY เหยียบคันเร่งไม่ขึ้นอย่างนี้…ก็อดเป็นห่วงหุ้นชิ้นส่วนรถยนต์อื่น ๆ ไม่ได้ ไม่รู้จะเหยียบคันเร่งขึ้นอ๊ะป่าว..??
ไม่ว่าจะเป็นบริษัท อาปิโก ไฮเทค จำกัด (มหาชน) หรือ AH ผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ครบวงจรตั้งแต่ถังน้ำมัน โครงช่วงล่างรถกระบะ ชิ้นส่วนโลหะตีอัดขึ้นรูป ชิ้นส่วนรถยนต์ปั๊มขึ้นรูป ชิ้นส่วนและถังน้ำมันพลาสติก เป็นต้น, บริษัท สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ SAT ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กลุ่มรถยนต์นั่ง รถกระบะ รถบรรทุกและอุตสาหกรรมเครื่องยนต์การเกษตร, บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ชิ้นส่วนตกแต่งรถยนต์ ภายใต้เครื่องหมายการค้า AEROKLAS เช่น พื้นปูกระบะ หลังคารถกระบะ ฝาครอบรถกระบะ บันไดข้างรถ เป็นต้น
ซึ่งอีกไม่นานเกินรอคงได้รู้กันจะหมู่หรือจ่า…
ส่วนใครที่ยังรักใคร่ชอบพอหุ้นกลุ่มนี้อยู่ก็ไม่ว่ากัน..อย่างน้อย ๆ ก็มีเงินปันผลค่อนข้างสูง ยีลด์เฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 5% ต่อปีปลอบใจอยู่หนา…
…อิ อิ อิ…