TRC เปลี่ยน!..สู่การเทิร์นอะราวด์
มติผู้ถือหุ้นเกือบเอกฉันท์ครบ 7 วาระสำคัญที่จะทำให้บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เข้าสู่โหมดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
มติผู้ถือหุ้นเกือบเอกฉันท์ครบ 7 วาระสำคัญที่จะทำให้บริษัท ทีอาร์ซี คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRC เข้าสู่โหมดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ทั้งโครงสร้างทุน, โครงสร้างหนี้, โครงสร้างทางการเงิน และโครงสร้างธุรกิจ เพื่อนำมาสู่เป้าหมายการเทิร์นอะราวด์ หลังผลการดำเนินงานซบเซาตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เริ่มจาก 1)มติอนุมัติการรวมพาร์ จากพาร์เดิม 0.125 บาท เป็นพาร์ใหม่ 1.50 บาท ด้วยการรวมมูลค่าหุ้น ส่งผลให้จำนวนหุ้นที่มีอยู่ลดลง พร้อมกับมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้นตามสัดส่วน ผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.13 ล้านหุ้น หรือ 99.88% 2)มติอนุมัติการปรับโครงสร้างหนี้ของบริษัท ด้วยการเข้าทำการแปลงหนี้เป็นทุน ผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.13 ล้านหุ้น หรือ 99.88%
3)มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (TRC-W1) เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้กับผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Warrant-PPO) ผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.40 ล้านหุ้น หรือ 100%
4)มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (TRC-W2) เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับบุคคลในวงจำกัด (Warrant-PP) ผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.13 ล้านหุ้น หรือ 99.88% 5)มีมติอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญ (TRC-W3) เพื่อเสนอขายแบบเฉพาะเจาะจงให้กับบุคคลในวงจำกัด (Warrant-PP) ผู้ถือหุ้น เห็นด้วย 4,513.40 ล้านหุ้น หรือ 100%
6)มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน 1,994.42 ล้านบาท จากทุนจดทะเบียนเดิม 1,497.99 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 3,492.42 ล้านบาทด้วยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 1,329.62 ล้านหุ้นผู้ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.40 ล้านหุ้น หรือ 100%
7)มีมติอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (PPO), เสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (PP) รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญการแสดงสิทธิและจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ถือหุ้นเห็นด้วย 4,513.40 ล้านหุ้น หรือ 99.88%
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ มีกำหนดแล้วเสร็จ..ภายในเดือนมกราคม พ.ศ. 2568
จุดที่น่าสนใจก่อนหน้านี้รายได้หลัก TRC มาจากธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง แต่นับจากนี้จะมีการดำเนินธุรกิจใหม่ คือการรีไซเคิลพลาสติก เพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ ถือเป็นเมกะเทรนด์ที่ได้รับความนิยมในต่างประเทศ
ด้วยเป้าหมายกำไรขั้นต้น (Gross Margin) กลุ่มธุรกิจใหม่ปี 2568 อย่างบริษัท พีเอส เอ็นจิเนียริ่ง คอนซัลแตนท์ จำกัด หรือ PSEC ที่ทำธุรกิจการรีไซเคิลพลาสติก, บริษัท โอลีฟ เทคโนโลยี จำกัด (OLIVE) ทำธุรกิจโลจิสติกส์ และบริษัท ทีอาร์ซี ยูทิลิตี้ จำกัด (TRC-UT) ทำธุรกิจน้ำประปา โดยรวมอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท
ส่วนธุรกิจก่อสร้างจะลดลง ตั้งเป้ารายได้ไว้เหลือเพียง 2,000 ล้านบาท มีเป้าหมาย Gross Margin ประมาณ 130-140 ล้านบาท แม้ว่าธุรกิจใหม่รายได้เพียงประมาณ 200 ล้านบาท แต่ Gross Margin อยู่ที่ประมาณ 100 ล้านบาท โดยธุรกิจใหม่จะมีรายได้ประจำสม่ำเสมอมากขึ้น
นี่ยังไม่รวมการลงทุนบริษัท อาเซียนโปแตชชัยภูมิ จำกัด (มหาชน) หรือ APOT ที่จะได้เห็นความชัดเจน เรื่องการเพิ่มทุนไม่เกินไตรมาส 1/68 เพื่อเริ่มดำเนินการก่อสร้างโครงการเหมืองแร่โปแตชชัยภูมิ ตามแผนใช้เวลาก่อสร้างประมาณ 3 ปี ก่อนจะเริ่มขุดขึ้นมาขายได้
ล่าสุดธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ของไทย พร้อมปล่อยสินเชื่อให้กับโครงการแล้ว ที่สำคัญได้รับข้อเสนอจากผู้รับเหมาจีนในรูปแบบ EPC Financing (ก่อสร้างก่อนแล้วค่อยชำระเงินเมื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์) ทำให้ต้นทุนการก่อสร้างลดลงอย่างมีนัยสำคัญ..!!
จากการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่..และความหวัง (ใหม่) น่าจะทำให้ TRC จากสภาพ “ขาดทุนเรื้อรัง” เพื่อเข้าสู่โหมดการเทิร์นอะราวด์..หรืออย่างน้อย “ปิดประตูขาดทุน” ก็น่าพอใจแล้ว..!!
เล็กเซียวหงส์