COCOCO โตรับเทรนด์รักษ์สุขภาพ

เทรนด์รักษ์สุขภาพที่มาแรงทั่วโลก ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดโลก เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ


คุณค่าบริษัท

เทรนด์รักษ์สุขภาพที่มาแรงทั่วโลก ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์น้ำมะพร้าวมีโอกาสเติบโตสูงในตลาดโลก เนื่องจากมีประโยชน์ต่อสุขภาพ มีคุณค่าทางโภชนาการ และสามารถใช้เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกทดแทนอาหารจากสัตว์ได้ แน่นอนว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจของบริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) หรือ COCOCO ในฐานะผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากน้ำมะพร้าว เช่น กะทิ น้ำมะพร้าว มะพร้าวแปรรูป รวมถึงอาหารสัตว์เลี้ยง อาหารเพื่อสุขภาพ รวมถึงชีสและเนยจากโปรตีนพืช ที่มีตลาดส่งออกใน 90 ประเทศทั่วโลก

สะท้อนได้จากผลประกอบการที่เติบโตทั้งรายได้และกำไรต่อเนื่องทุกปี จากปี 2565 มีรายได้รวม 3,382.74 ล้านบาท กำไรสุทธิ 378.33 ล้านบาท ถัดมาปี 2566 มีรายได้รวมเพิ่มเป็น 4,679.74 ล้านบาท ส่วนกำไรสุทธิแตะที่ 540.16 ล้านบาท

ขณะที่ ปี 2567 ประเดิมไตรมาสแรกด้วยรายได้รวม 1,397.32 ล้านบาท กำไรสุทธิ 203.51 ล้านบาท ส่วนไตรมาส 2/2567 มีรายได้รวม 1,588.06 ล้านบาท กำไรสุทธิ 227.15 ล้านบาท หนุนให้ในช่วง 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้รวม 2,959.10 ล้านบาท กำไรสุทธิ 430.64 ล้านบาท

ด้านผู้บริหารมั่นใจผลงานในไตรมาส 3/2567 ยอดขายจะทำสถิติสูงสุดใหม่ (All Time High) รายไตรมาส โดยยังคงเป้าหมายยอดขายไว้ที่ 6,500 ล้านบาท หรือเติบโต 50% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 4,679.74 ล้านบาท ส่วนปี 2568 คาดรายได้จากการขายมีโอกาสเติบโตทะลุ 10,000 ล้านบาท หรือจะเติบโตประมาณ 40%

นอกจากผลงานจะเติบโตโดดเด่นแล้ว COCOCO ยังมีสตอรี่เชิงบวกจากการถูกคาดหมายจะได้เข้าคำนวณใน SET100 รอบนี้ โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) จะประกาศการคัดเลือกหุ้นเข้าออกรอบนี้ในช่วงกลางเดือน ธ.ค. 2567 และมีผลเริ่มใช้ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2568 อีกด้วย

บล.หยวนต้า ระบุว่า แนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/2567 คาดกำไรปกติของ COCOCO ยังสามารถทำนิวไฮได้ต่อ เห็นได้จากยอดขายที่ทางผู้บริหารระบุว่ายอดขายยังสามารถเติบโตได้ในระดับไม่ต่ำกว่า 15% หนุนจาก 1) การเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนของสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้อุปสงค์ทั้งสินค้ากลุ่มน้ำมะพร้าวและน้ำนมมะพร้าวสูงขึ้น 2)การรับรู้รายได้จากลูกค้าใหม่ในจีนและสหรัฐฯ เต็มไตรมาส

3) อาหารสัตว์เลี้ยงที่เติบโตได้ต่อจากการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายในต่างประเทศมากขึ้น และ 4) การเริ่มรับรู้รายได้จากการส่งออกไอศกรีม Plant-based ไปจีน ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) คาดสามารถสูงขึ้นต่อทั้งจากไตรมาสก่อน และช่วงเดียวกันปีก่อน จาก U-rate ที่สูงขึ้น รวมถึง Product Mix โดยรวมของบริษัทที่ดีขึ้น ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้คาดกำไรปกติในไตรมาส 3/2567 เบื้องต้นอยู่ในกรอบ 240-250 ล้านบาท ทำนิวไฮได้ต่อ

ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ไว้ที่ 883 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54.7% และปี 2568 ที่ 1,280 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44.9%

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น COCOCO ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 23.40 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.05 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายสูงกว่าตลาด สอดคล้องกับ P/BV ที่ระดับ 5.29 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.38 เท่า โดยมีราคาเป้าหมายเฉลี่ยที่ 15.48 บาท จากราคาต่ำสุด 15 บาท และราคาสูงสุด 16.30 บาท

Back to top button