เอฟเฟกต์ ‘ทรัมป์’
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แน่นอนแล้ว ส่วนพรรค Republican ได้เสียงข้างมากทั้งสภาสูงสภาล่าง
โดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ แน่นอนแล้ว
ส่วนพรรค Republican ได้เสียงข้างมากทั้งสภาสูงสภาล่าง
ในสถานการณ์เช่นนี้ ทำให้มีทั้งนักวิเคราะห์ นักวิชาการ นักธุรกิจ ต่างออกมาแสดงความเห็น เพื่อประเมินผลกระทบที่จะมีต่อประเทศไทย
ล่าสุด อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย (CIMBT)
เขาได้แสดงความเห็นไว้น่าสนใจ
แบบเข้าใจง่าย รวบรัด
เขาบอก สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นหลัง ทรัมป์ ชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และพรรค Republican ได้เสียงข้างมากทั้งสภาสูงสภาล่าง ได้แก่ 1.ดอลลาร์แข็งค่า 2.ราคาทองร่วง (วานนี้ปรับลงแล้ว) 3.ราคาน้ำมันทรุด
4.อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ 10 ปี พุ่ง 5.หุ้นสหรัฐขึ้น (ชั่วคราว) จากมาตรการลดภาษีนิติบุคคล
6.หุ้นจีนลดลง (ชั่วคราว) 7.เฟดลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง และลดยาวต่ำกว่า 3.50% ในปีหน้า
8.สงครามในยูเครนสิ้นสุดลง (ยูเครนเสียดินแดน)
9.คนอพยพผิดกฎหมายหนีออกนอกประเทศ
และ 10.เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังเติบโตได้เหนือ 2% ปีหน้า
ส่วนผลที่จะเกิดขึ้นกับ ไทยนั้น การส่งออกทรงกับทรุดตัว ภาคการผลิตหดตัวยาว
การก่อสร้างซึมยาว การท่องเที่ยวฟื้นได้ รายได้ภาคเกษตรอ่อนแอ การย้ายฐานจากจีนเร่งเร็ว แต่ผู้ประกอบการไทยรายย่อยไม่ได้ประโยชน์ จีนกินรวบ รัฐบาลไทยเน้นกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก
นอกจากนี้ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ลดดอกเบี้ยต่อ โอกาสเห็นดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.25% ปลายปีหน้า
ส่วนบาทเสี่ยงอ่อนค่าไปแตะ 36 บาท/ดอลลาร์ชั่วคราว
เศรษฐกิจไทยเสี่ยงโตต่ำ 2.50-3.00% ปี 2567
สุดท้าย อมรเทพ แนะนำว่า ไทย (ต้อง) ไม่เลือกข้าง หาพันธมิตรทั้งสหรัฐฯ จีน BRICS OECD ASEAN บวกกับ เร่งทำ FTA และตั้งรับทุนจีนย้ายฐานมาถล่มไทย
ด้านตลาดหุ้นไทยวานนี้
เคลื่อนไหวน่าสนใจ
เพราะเปิดตลาดมาในช่วงเช้า ส่วนใหญ่ดัชนีจะอยู่ในแดนบวก
ทั้งที่คะแนนของทรัมป์ นำมาตลอด
ทว่า พอเปิดตลาดมาภาคบ่าย ดัชนีค่อย ๆ ร่วงลง และมาลงแรงในเวลา 15.00 น. คล้ายกับว่า ให้รายย่อยเข้ามารับของ ก่อนจะสาดทิ้งก่อนปิดตลาดเพียง 1 ชั่วโมง
แต่ดัชนียังคงยืนเหนือ 1,450 จุดได้
ก่อนหน้านี้ บรรดานักวิเคราะห์ต่างมองสถานการณ์ไว้แล้วว่าจะเป็นเช่นนี้
คือหากทรัมป์มา ดัชนีจะปรับลงแรง
แต่หลังจากนั้น น่าจะค่อย ๆ ดีดกลับ เพราะอย่าลืมว่า ยังมีกองทนุรวมวายุภักษ์หนึ่งที่น่าจะเก็บกระสุนไว้พอสมควร เพื่อรอดักเก็บหุ้นเป้าหมาย
นี่ยังไม่รวมเม็ดเงินจากกองทุน TESG ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายที่คาดว่าจะมีเงินเข้ามาราว ๆ 2 หมื่นล้านบาท
ส่วนเมื่อคืนนี้มี MSCI Review
หุ้นขนาดใหญ่ของไทยถูกคาดว่าจะได้ปรับน้ำหนักเพิ่ม
หากวันนี้ดัชนีย่อลงมาอีก
อาจเป็นโอกาสเข้าสะสม เพราะมีหลายหุ้นที่จะได้รับประโยชน์
จากการเข้ามาของทรัมป์
ธนะชัย ณ นคร