NER ยางกำไรข้น.!
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นยาง NER ของ “เฮียชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ปรับลดลงไปเกือบ 3% เพราะมีหลาย ๆ เรื่องที่เป็นเซนติเมนต์เชิงลบ
ช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ราคาหุ้นยาง บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ของ “เฮียชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์” ปรับลดลงไปเกือบ 3% เพราะมีหลาย ๆ เรื่องที่เป็นเซนติเมนต์เชิงลบ…หนึ่งในนั้นคงเป็นการเลื่อนบังคับใช้กฎ EUDR (European Commission) หลังมีกระแสข่าวว่าคณะกรรมาธิการยุโรป (European Commission : EC) เสนอขยายเวลาในการบังคับใช้กฎหมาย EUDR ไปอีก 12 เดือน จากแผนเดิมที่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 ธ.ค. 2567 กลายเป็นเซนติเมนต์เชิงลบต่อหุ้น NER ไปโดยปริยาย…
แต่การที่ราคาปรับลดลงมา 3% นั้น ทำให้ P/E เหลือแค่ 5.41 เท่า เท่านั้น ซึ่งเทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 18.99 เท่า ยังห่างไกลกันเยอะ ในขณะที่ดิวิเดนด์ยีลด์กลับสูงขึ้น ล่าสุดพุ่งไป 6.80% แล้วนะออเจ้า..!!
โอเค…อันนั้นเป็นเรื่องของสถิติ ก็ว่ากันไป…
แต่อีกจุดที่น่าสนใจ ก่อนหน้านี้ถูกหมายมั่นปั้นมือว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2567 จะดีต่อเนื่อง เพราะปิดการขายล่วงหน้าครอบคลุมไปถึงไตรมาส 1/2568 ไปเรียบร้อยแล้ว…ซึ่งไม่ทำให้แฟนหุ้นผิดหวัง เพราะประกาศงบไตรมาส 3/2567 ออกมา โชว์กำไรสุทธิ 360.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48.51 ล้านบาท หรือคิดเป็น 15.54% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 312.27 ล้านบาท
ในไตรมาสนี้ แม้ปริมาณการขายจะลดลงเหลือแค่ 98,006 ตัน ลดลง 14,420 ตัน หรือลดลง 12.83% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีปริมาณการขาย 112,426 ตัน แต่จากราคาขายที่อยู่ในระดับสูง ทำให้มีรายได้จากการขายรวมอยู่ที่ 6,163.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 535.43 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.51%
แบ่งเป็น รายได้จากการขายในประเทศ 4,356.80 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 70.69% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 320.89 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7.95% ส่วนรายได้จากการขายต่างประเทศ 1,806.56 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 29.31% ของยอดขายรวม เพิ่มขึ้น 214.55 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 13.48%
ในขณะที่ขาของต้นทุนมีหลายรายการที่ปรับลดลง อาทิ ต้นทุนจัดจำหน่ายลดลง 7.32% อยู่ที่ 101.49 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้นิติบุคคลลดลง 66.84% อยู่ที่ 7.34 ล้านบาท เป็นต้น
ส่วนต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น ต้นทุนขายเพิ่มขึ้น 12.77% อยู่ที่ 5,653.24 ล้านบาท เกิดจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น, ค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้น 121.95% อยู่ที่ 75.66 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นเงินเดือนพนักงาน และงบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ในขณะที่ต้นทุนทางการเงินเพิ่มขึ้น 3.56% อยู่ที่ 115.08 ล้านบาท จากดอกเบี้ยจ่ายตั๋วสัญญาใช้เงินจากสถาบันการเงิน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน…อันนี้พอเข้าใจได้
นอกจากนี้ยังมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน 42.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 79.61 ล้านบาท คิดเป็น 213.71% รวมทั้งกำไรจากการวัดมูลค่าตราสารอนุพันธ์ 97.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.01 ล้านบาท คิดเป็น 957.64% ซึ่งเป็นการบันทึกรับรู้ประมาณการผลกำไรทางบัญชีจากสัญญาขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้าที่ทำไว้กับสถาบันการเงินเพื่อการบริหารความเสี่ยงให้ลดลง
เมื่อบวกลบคูณหารกันแล้ว ทำให้ตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในงบไตรมาส 3/2567 เป็นบวกอย่างที่เห็น…
แสดงว่าในไตรมาสนี้ NER กำไรเข้มข้นน่ะสิ..!!
โดยในงบงวด 9 เดือนแรกปี 2567 ตุนกำไรสุทธิไว้แล้ว 1,293.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 209.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น 19.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 1,083.87 ล้านบาท โดยมีปริมาณขาย 303,077 ตัน ลดลง 66,400 ตัน หรือลดลง 17.97% คิดเป็นรายได้จากการขายรวม 18,514.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 74.53 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 0.40%
อ้อ…แว่ว ๆ มางบไตรมาส 4/2567 จะโตต่ออีกนะ…ไม่ได้โม้ใช่ปะคะ “เฮียชูวิทย์” ขาาา…
ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ปีนี้ NER ก็น่าจะปิดสถานะเป็นบวกแหง ๆ…ส่วนจะบวกมากหรือบวกน้อย…ก็อีกเรื่องหนึ่ง…
เอาเป็นว่าใครใคร่ซื้อ…ก็ซื้อ ส่วนใครใคร่ขาย…ก็ขาย เลือกที่สบายใจละกัน
แต่อย่าลืมนะว่า NER มีดีตรงที่เป็นหุ้นปันผลงาม…งั้นถ้าจะมีติดพอร์ตไว้ก็คงไม่เสียหายหรอกมั้ง..!!
…อิ อิ อิ…