พาราสาวะถี

ไฮไลต์ของข่าวสารสัปดาห์นี้หนีไม่พ้นการเตรียมลงพื้นที่อุดรธานีของ ทักษิณ เพื่อช่วย ศราวุธ ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หาเสียง


ไฮไลต์ของข่าวสารสัปดาห์นี้หนีไม่พ้นการเตรียมลงพื้นที่อุดรธานีของ ทักษิณ ชินวัตร เพื่อช่วย ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หาเสียง กองเชียร์ก็ตั้งตารอที่จะได้พบกับอดีตนายกรัฐมนตรีในดวงใจ ฝ่ายขาประจำก็จองกฐินเพื่อยื่นร้องเอาผิดพรรคแกนนำรัฐบาลข้อหาเดิมครอบงำพรรค เห็นความเคลื่อนไหวทางการเมืองของนายใหญ่ช่วงนี้ น่าจะมีสัญญาณอะไรบางอย่าง หลังห่างหายไปจากหน้าสื่อเป็นเวลานาน

วันเสาร์ที่ผ่านมาก็ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นร้อนทางการเมืองแบบตั้งใจ หลังการไปเป็นประธานพิธีทอดกฐินที่วัดคลองครุ (ปัฐวิกรณ์) เขตคันนายาว นักข่าวถามถึงปมถูกยื่นร้องเอาผิดทั้งเรื่องพักรักษาตัวระหว่างถูกคุมขังที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ รวมไปถึงการร้องเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทยและเอาผิด แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐนนตรี คำตอบที่ได้คือ ไม่มีอะไรเป็นเรื่องธรรมดาที่ถูกโจมตี พร้อมกับคำพูดที่น่าจะเห็นเหมือนกับคนทั่วไปคือ พวกขาประจำ

ส่วนความกังวลที่จะกระทบต่อความเชื่อมั่นหรือการทำงานของอุ๊งอิ๊งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนในฐานะผู้นำประเทศนั้น บิ๊กแม้วยืนยันว่าไม่เป็นปัญหา เพราะนายกฯ หญิงเห็นการเล่นงานทางการเมืองลักษณะนี้มาตั้งแต่เด็ก ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการร้องอะไรที่เกี่ยวกับตนไม่จำเป็นต้องกังวล ทุกอย่างว่ากันไปตามกระบวนการ แม้กระทั่งเรื่องที่พรรคร่วมรัฐบาลไปพบที่บ้านจันทร์ส่องหล้า ในวันที่ เศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญตัดสินพ้นจากเก้าอี้นายกฯ ทักษิณก็ตบมุกติดตลกว่า ไม่มีอะไร “ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย”

ประเมินจากการตอบคำถามแบบนี้ อาจชวนให้มองได้ว่า ไม่น่าจะต้องกังวลอะไรสำหรับแพทองธารและรัฐบาล เพราะอดีตนายกฯ ก็ชื่นชมลูกสาวว่า ดี มุ่งมั่น และรู้เรื่องราวของประเทศได้เร็วมาก เช่นเดียวกับการทำงานร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล ไม่มีปัญหา สามารถพูดคุย ทำความเข้าใจกันได้ในทุกเรื่อง โดยเฉพาะปมเอ็มโอยู 44 ที่นายกฯเรียกหารือก็จบลงด้วยความเข้าใจทุกฝ่าย และพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการทำงานกันอย่างเต็มที่

ฝ่ายเสี้ยมที่หวังปลุกกระแสคงยากที่จะจุดติด ไม่เพียงเท่านั้น การปรากฏตัวของ ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคสืบทอดอำนาจ ที่วัดซึ่งทักษิณไปทอดกฐิน ชวนให้เกิดคำถามทันที ที่พยายามโจมตีรัฐบาลอยู่เวลานี้โดยเฉพาะเรื่องเอ็มโอยู 44 นั้น กำลังเล่นปาหี่อยู่หรืออย่างไร พฤติกรรมแบบนี้มันเข้าทำนองสู้ไปกราบไปชัด ๆ แต่บอกได้คำเดียวว่า ต่อให้ทำตัวเป็นเด็กดีขนาดไหน ไม่มีทางที่นายใหญ่จะใจอ่อน รวมไปถึงพรรคเพื่อไทย และน่าจะหมายถึงพรรคร่วมรัฐบาลอื่นด้วย

แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะเคยร่วมงานกันในนามขบวนการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นภาวะจำยอม เพราะท้ายที่สุดได้รู้เช่นเห็นชาติกันว่า หน้าฉากกับเบื้องหลังนั้นไม่ได้สวยหรูเหมือนอย่างที่สร้างภาพให้คนเห็นว่าโปร่งใส แต่ไส้ในกลับพบว่ามีการใช้คนใกล้ชิดของผู้มีบารมีไปเก็บงาน หากินกันเป็นล่ำเป็นสัน ทั้งแบบเปิดเผยและที่เป็นภารกิจลับ รวมไปถึงการประเคนผลประโยชน์ให้กับพวกเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับแกนนำ ซึ่งก็รู้กันว่าเป็นใคร พวกไหน และยังคงทำงานรับใช้เพื่อกดดัน หวังล้มรัฐบาลอยู่เวลานี้

การใช้นิติสงครามทุกเรื่องที่ดำเนินการ ล้วนแต่มาจากคำบัญชาของขาใหญ่รายนี้ทั้งสิ้น นั่นจึงทำให้ทักษิณ เพื่อไทย และพรรคร่วมรัฐบาลต้องจับมือกันให้แน่น มาถึงตรงนี้มีรายงานว่าน่าจะเบาใจได้ในระดับหนึ่ง เนื่องจากพบว่าบริวารที่เคยรับใช้ใกล้ชิดในองค์กรต่าง ๆ นั้น เริ่มที่จะถูกลดทอนบทบาท บางราย บางพวกกำลังเผชิญกับการถูกดำเนินการตามกฎหมาย จึงไม่กล้าที่จะใช้อำนาจบาตรใหญ่กับฝ่ายกุมอำนาจ เหมือนที่เคยทำมาในยุคเผด็จการครองเมือง

ความสัมพันธ์ทางลับในลักษณะสุมหัวเพื่อล้มระบอบทักษิณนั้น จบไปพร้อมกับการหมดอำนาจของขบวนการอยู่ยาวแล้ว หัวขบวนหลังจากหมดหัวโขนเดอะแบก ก็จะปัดตูดตีตัวออกห่างจากลูกพี่ใหญ่ทันที โชคดีที่ได้ขึ้นหิ้งอันทรงเกียรติ จึงทำให้ไม่ต้องถูกรบเร้า ตอแยเพื่อช่วยให้คนที่อยากจะเป็นใหญ่สมหวัง อีกด้านบรรดาทุนใหญ่ เจ้าสัวที่เคยสนับสนุนมีทั้งที่ได้รับผลกระทบจากเผด็จการครองเมืองนานกว่า 10 ปี และที่ถูกสั่งให้เลิกยุ่งกับอำนาจเก่า แล้วหันมาช่วยรัฐบาลพลิกขั้วเต็มที่

ไม่เพียงแต่ฉากหลังของระดับนำทางการเมืองในพรรคแกนนำเท่านั้น ที่พบปะ ประเมินสถานการณ์กันอยู่เป็นประจำ บรรดาชนชั้นอีลิททั้งหลายก็ได้รับการเชิญไปกำชับ ย้ำเตือนเรื่องท่าที และการแสดงออกเพื่อหนุนนโยบายต่าง ๆ ของรัฐบาล อันจะเห็นได้จากข้อเสนอแนะในรูปแบบของสมุดปกขาว หรือความเห็นในนามองค์กรที่สังกัด เพราะต่างเห็นตรงกันว่า บ้านเมืองยามนี้ไม่ใช่เรื่องที่จะมาสาดโคลน หรือเล่นเกมการเมืองกันเหมือนที่ผ่านมา ต้องเร่งแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นก่อนเป็นลำดับแรก

หลังจากตั้งหลักตั้งลำได้ พ่วงกับกระแสสังคมที่ให้โอกาสแก่นายกฯ หญิงในการสร้างผลงาน แสดงความสามารถฝีมือในการบริหารประเทศ ถือเป็นจังหวะที่รัฐบาลจะต้องแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ ไม่มีภาพของความขัดแย้งใด ๆ อันจะเห็นได้จากปมแก้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายนิรโทษกรรม ที่หลังการหารือร่วมกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ประเด็นที่เห็นต่างต้องแลกเปลี่ยน ถกเถียงกันให้ตกผลึกว่าจะดำเนินการกันอย่างไร ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนที่จะต้องทำในทันที เอาความเดือดร้อนของประชาชนเป็นที่ตั้งก่อน

เมื่อฝ่ายบริหารปักหลักแน่น ประกอบกับฝ่ายนิติบัญญัติอยู่ในโหมดการปิดสมัยประชุม ทำให้มีเวลาที่จะสกรีนกลุ่มเคลื่อนไหวต่าง ๆ ได้ถนัดถนี่ จนสรุปได้ว่า พวกขาประจำทำยังไงก็ไม่หยุด เช่นเดียวกับพวกรับงานที่ต้องทำตามกระสุนที่ได้มา ส่วนอีกพวกคือนักเคลื่อนไหวเคาะกะลา ดูประเด็นที่นำเสนอ ท่าทีที่แสดงออกก็รู้ว่าต้องการอะไร ส่งบรรดานักหิ้วซองกระดาษถุงขนมไปเจรจาคนพวกนี้ก็พร้อมที่จะปิดปากเงียบในทันที การไม่มีพวกลากตั้งมาทำตัวเป็นจระเข้ขวางคลอง ทำให้งานด้านการเมืองของรัฐบาลไม่หนักหนาสาหัสเท่าไหร่

อรชุน

Back to top button