1,443 ไม่เด้ง..ก็จบเห่

ถ้ายึดสัญญาณเทคนิคเป็นแนวทางการลงทุนหลัก “โมนิก้า” ต้องบอกกับแฟนคลับว่า ในเมื่อดัชนีหลุดแนวรับสุดท้าย 10 วันตรงบริเวณ 1,463 จุดไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา


ถ้ายึดสัญญาณเทคนิคเป็นแนวทางการลงทุนหลัก “โมนิก้า” ต้องบอกกับแฟนคลับว่า ในเมื่อดัชนีหลุดแนวรับสุดท้าย 10 วันตรงบริเวณ 1,463 จุดไปตั้งแต่วันจันทร์ที่ผ่านมา นักลงทุนก็ต้องรีบถอยแบบไม่มีข้อแม้ เพราะมันเป็นสัญญาณเตือนให้รู้ว่า แรงขายกำลังไหลออกมาเรื่อย ๆ (ต่างชาติกับกองทุนสลับกันขายเพลิน) จึงเป็นการยากที่ดัชนีจะประคองตัวนิ่ง ๆ หลังปัจจัยบวกใหม่ ๆ เริ่มหดหายไปทีละเรื่อง และกำลังถูกแทนที่ด้วยข่าวร้ายไงล่ะคะ

โดยเฉพาะประเด็นผลประกอบการไม่เป็นเหมือนที่คาดหวัง ซึ่งมีทั้งประเด็นกำไรหด หรือการที่บริษัทพลิกขาดทุน ล้วนเป็นตัวแปรที่ตอกย้ำให้เห็นว่า การที่ราคาหุ้นไหลลงก่อนหน้านี้ มันเป็นเรื่องที่สมเหตุสมผลทุกประการ และถ้านับรวมเรื่อง sell on fact เข้ามาด้วย ก็กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนต้องขายหุ้นออกไปก่อน ผนวกกับตอนนี้ตลาดหุ้นไทยเผชิญกับเงินทุนไหลออก จึงทำให้หลายอย่างรวนไปหมดนะตัวเอง

นั้นหมายความว่า ดัชนีควรเด้งตรงบริเวณโลว์เดิมครั้งก่อน 1,443 จุด เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่า ตรงจุดนี้มีแรงซื้อเข้ามาเยอะจริง ๆ และดันดัชนีขึ้นไปถึง 1,486 จุดเมื่อต้นสัปดาห์ก่อน หรือให้ดีสุด ๆ ก็คือ ดัชนีเด้งกลับตรงบริเวณ 1,450 จุดไปเลย เพราะวานนี้ดัชนีก็แกว่งตัวไปมาบริเวณนี้เกือบทั้งวัน (แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ เพราะทำนบแตกเสียก่อน) และมายืนปิดที่ระดับ 1,445.07 จุด ลบไป 11.40 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.26 หมื่นล้านบาทไงล่ะคะ

สำหรับประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกสงสัยตลอดเวลาก็คือ แรงขายที่สาดใส่หุ้น BH ทำไมไม่หมดเสียที! หรือมีประเด็นอื่นที่บรรดาขาเผือกไม่รู้หรือเปล่า? จึงทำให้ราคาหุ้นไหลรูดแบบไม่มีดิสเบรก วานนี้เลยเป็นอีกวันที่หุ้นลงมาทำโลว์ในรอบ 10 เดือนครึ่ง พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 217 บาท ลบไป 8 บาท หรือลงไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.50 พันล้านบาทแบบนี้..ดูอยู่ห่างๆ น่าจะดีสุดนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ HMPRO ที่ทรุดตัวลงแรงทันทีเมื่อกำไรไตรมาส 3 ออกมาต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นการชี้ชัดว่า กำลังซื้อยังไม่ฟื้น จึงต้องขายหุ้นลดความเสี่ยงออกมาก่อน ผนวกกับทุกคนยังไม่เห็นแคมเปญกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เลยกังวลกันว่า ไตรมาส 4 อาจไม่เป็นไปตามเป้าบริษัท เลยปล่อยให้ราคาหุ้นร่วงลงมาปิดที่ 9.45 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 463 ล้านบาทก็เท่านั้นเอง

ในเมื่อเม้าท์ถึงประเด็นที่ต้องกังวลขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น CPN เพื่อชี้ให้เห็นอาการของหุ้นที่ไหลลงมาเรื่อย ๆ จนวานนี้โดนสาดหนักแบบไม่ยั้ง พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 60.25 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 4.35% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 598 ล้านบาท พร้อมกับมีคำถามตามหลังมาว่า หุ้นจะลงไปหาโลว์เดิมที่ระดับ 53 บาทหรือเปล่า?  เพราะบรรยากาศลงทุนช่วงนี้ไม่ดีเอาเสียเลยจ้า!

คล้ายคลึงกับสถานการณ์ของหุ้น ADVICE ซึ่งทำผลงานไตรมาส 3 ออกมาดีจริง ๆ แต่โดนเททิ้งแบบไม่มีเยื่อใยแบบนี้ “โมนิก้า” ก็ต้องตีความว่า นี่เป็นเรื่องของการขายเมื่อความจริงปรากฏ ราคาหุ้นถึงทิ้งตัวลงมายืนอยู่ที่ระดับ 5.85 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 14.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท และมีสิทธิ์ที่จะทรุดตัวลงต่อ เพราะหุ้นเสียทรงอย่างแรง ประหนึ่งบริษัทกำลังมีปัญหาในการทำกำไรน่ะซี

เรื่องข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยหุ้น JPARK เป็นรายถัดมา เพราะรายนี้ทำผลงานดีแบบสะแด่วแห้ว แต่ราคาหุ้นดันทรุดฮวบไปตั้งแต่วันก่อน และวานนี้ก็ย่อตัวลงอีก ก่อนจะปิดไปที่ระดับ 6.75 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 3.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 133 ล้านบาท ก็เป็นเรื่องที่น่าคิดเหมือนกันว่า ตอนนี้เหมาะที่ช้อนหุ้นไหม? เพราะราคาบริเวณนี้เทรดบน PE 19 เท่าเองนะตัวเอง

ส่วนรายที่ทำกองเชียร์เจ็บหนัก และยังหน้าแหกกันทั้งบาง “โมนิก้า” คงมองไปที่หุ้นนางงอม MGI หลังงบไตรมาส 3 ประกาศออกมาว่า กำไรวูบ 70% ซึ่งทำให้มิตรรักแฟนคลับกระหน่ำขายหุ้นไม่มีชิ้นดี จนราคาหุ้นลงมากองอยู่ที่ระดับ11.30 บาท ลบไป 2.80 บาท หรือลงไป 19.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 72 ล้านบาทแบบนี้ มันหมายถึงยอดขายน้ำพริกตกหนักใช่ไหม? พร้อมกับมีคนถามหา เชา..เชา ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นอะไรหน่อยเหรอเพ่!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button