SCC ราคาทำโลว์แน่!!

ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือ ปูนใหญ่ไม่น่าเชื่อว่า ราคาหุ้นจะร่วงลงมาอยู่ในระดับปัจจุบันได้ หากย้อนกลับไปดูกราฟราคาหุ้นก่อนหน้านี้


ปูนซิเมนต์ไทย (SCC) หรือ ปูนใหญ่

ไม่น่าเชื่อว่า ราคาหุ้นจะร่วงลงมาอยู่ในระดับปัจจุบันได้

หากย้อนกลับไปดูกราฟราคาหุ้นก่อนหน้านี้

จะพบว่า นับจากต้นเดือนพฤษภาคม 2001 ปรับลงมาต่อเนื่อง โดยในขณะนั้นราคาอยู่ที่ 464 บาท

ล่าสุดวานนี้ลงมาปิดที่ 196.00 บาท

ทว่า ราคาหุ้นวานนี้ไม่ได้เป็นจุดต่ำสุดสำหรับปูนใหญ่

เพราะก่อนหน้านี้ หรือราว  ๆ วันที่ 11 สิงหาคม 2567 ราคาได้ลงมาจุดต่ำสุด 195.50 บาท ก่อนจะค่อย ๆ ทะยานกลับขึ้นมา ทั้งวิ่งขึ้นทางเทคนิค และความคาดหวังจากผลประกอบการ

แต่กลับไม่มีข่าวดีมาจากปูนใหญ่

เพราะไตรมาส 3/2567 กำไรเพียง 221 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 2,441 ล้านบาท

ส่วน 9 เดือนแรก 2567 ปูนใหญ่มีกำไร 6,854 ล้านบาท

เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไร 27,049 ล้านบาท

อุบัติเหตุทางการเงินของกลุ่มปูนใหญ่ เกิดจากกลุ่มธุรกิจปิโตรเคมีที่มีสถานการณ์ย่ำแย่มาหลายปีต่อเนื่องกัน

ทำให้กดดันงบการเงินในภาพรวมของธุรกิจ

ล่าสุด ผู้บริหารของปูนใหญ่ มีประชุมกับนักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ต่าง ๆ

ผลสรุปที่ออกมา คือ กลุ่มธุรกิจปิโตรเคมียังคงมีความอ่อนแอต่อไป โดยมีการสรุปออกมาได้ดังนี้

-ธุรกิจซีเมนต์และวัสดุก่อสร้าง (CBM) : อุปสงค์ในประเทศไทยและ ASEAN คาดว่าจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/2024 และเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในปี 2025 หนุนโดยโครงการของภาครัฐและมาตการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ รวมทั้ง อุปสงค์ที่ฟื้นตัวของกลุ่มที่อยู่อาศัย (renovation) และกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์

-ธุรกิจเคมิคอลส์ : ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์คาดว่าจะทรงตัวอยู่ในระดับต่ำในไตรมาส 4/2024 และในปีหน้า จากภาวะอุปทานส่วนเกิน เนื่องจากช่วง low season ในไตรมาส 4 และอุปสงค์ยังคงฟื้นตัวอย่างช้า ๆ อุปสงค์อาจมีอัพไซด์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน

-โครงการ LSP (Long Son Petrochemical Complex ในเวียดนาม) เริ่ม commodity ดำเนินงานเชิงพาณิชย์ทั้ง Complex เมื่อวันที่ 30 ก.ย. แต่ได้หยุด ดำเนินงานเมื่อกลางเดือน ต.ค. เนื่องจากสภาพตลาดมีดี (มีแผนจะหยุด ประมาณ 6 เดือน หากส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์ฟื้นตัวกลับมาที่ประมาณ 450 ดอลลาร์สหรัฐ/ตัน จะพิจารณากลับมาเริ่มผลิตอีกครั้ง)

ปูนใหญ่ ยังคงมุ่งเน้นการขยายผลิตภัณฑ์กลุ่ม high value-added และกลุ่ม green ซงตลาดมีแนวโน้มเติบโตสูงและมีอัตรากำไรสูงกว่าผลิตภัณฑ์กลุ่ม commodity-SCC วางแผนที่จะขายสินทรัพย์หยุดดำเนินธุรกิจที่ไม่ทำกำไร นอกจากนี้มีแผนที่จะลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร, ลดหนี้ และคาดว่าจะเกิดผลประโยชน์ราว 5 พันล้านบาทในปี 2025 รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เงินทุนหมุนเวียนอีก 1 หมื่นล้านบาท

ดูจากข้อมูลหรือแผนธุรกิจของปูนใหญ่แล้ว

ทำให้มองกันว่า ในระยะสั้น ปูนใหญ่ น่าจะยังเผชิญกับผลลบจากธุรกิจเคมิคอลส์ต่อไป

และไปกดดันกำไรภาพรวมให้ปรับลงอีกได้

ราคาหุ้นที่ปรับลงมา ร่วงหลุดต่ำกว่า 200.00 บาท  และมาอยู่ที่ 196.00 บาท

ยังมีโอกาสจะลงมาได้อีก

และอาจจะทำจุดต่ำสุด (ต่ำกว่า 195.50 บาท) อีกครั้งได้

ราคาเป้าหมายของ SCC สูงสุดอยู่ที่ 290 บาท และต่ำสุด 175 บาท

และมี Consensus ที่ระดับ 227 บาท

ธนะชัย ณ นคร

Back to top button