สังคมข่าวหุ้นคาเฟอีน

******ราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นมาอีกครั้ง ทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานทั้ง PTT และ PTTEP กลับมาเทรดกันคึกคัก ดันดัชนีปิดบวก แต่ก็ต้องเตือนกันไว้ซักหน่อยว่า ราคาน้ำมันช่วงนี้ยังผันผวน แม้ว่ารัสเซียจะออกมาเหมือนกับตอบรับพร้อมร่วมกับโอเปกเพื่อรักษาเสถียรภาพด้านราคาน้ำมัน แต่หากการประชุมยังไม่เกิดขึ้น และผลเป็นทางการยังไม่ออก อะไรก็เกิดขึ้นได้ หากหุ้นที่ซื้อไว้กำไรนิดหน่อย ก็ปล่อยๆ ไปเถอะ

*******หุ้น SPRC ราคายังขึ้นๆ ลงๆ แถว 9 บาท ซึ่งเป็นระดับไอพีโอพอดี นี่ก็เป็นอีกตัวที่เคลื่อนไหวไปตามราคาน้ำมันดิบ หากราคาน้ำมันลง ราคาก็ขึ้นพรวดพราด แต่พอราคาน้ำมันขึ้น หุ้นก็ลงทันที นี่เป็นอีกตัวที่ต้องจับจังหวะเล่นรอบกันให้ดี เช่นเดียวกับหุ้นไทยออยล์ หรือ TOP เคลื่อนไหวไปตามราคาน้ำมันเช่นกัน ยกเว้นแต่บางช่วงที่ราคาลงไปมากเกินไป ก็มีแรงซื้อเข้ามาดันราคา

******ดัชนีหุ้นไทยยังปิดยืนเหนือ 1,300 จุดไม่ได้ แม้ระหว่างวันจะผ่านขึ้นไป 2-3 รอบ เพราะถูกแรงขายทำกำไรหุ้น ADVANC และ INTUCH รวมถึง DTACสำหรับหุ้น ADVANC วานนี้แจ้งกำไรปรี๊ดกว่า 3.9 หมื่นล้านบาท สูงกว่าปี 2557 ที่มีกำไร 3.6 หมื่นล้านบาท แต่หากดูผลตอบแทนเงินปันผลที่สูงกว่า 7% ก็น่าจะมีแรงซื้อกลับเข้ามาได้ในวันนี้

*******CPALL ราคายังดีดตัวขึ้นมาได้อีก เพราะนักลงทุนได้ลุ้นว่า การประชุมบอร์ดของบริษัทในวันที่ 23 ก.พ.นี้ น่าจะมีการปรับเปลี่ยนตัวผู้บริหารที่เข้าไปเกี่ยวพันกับปัญหาธรรมาภิบาล ส่วนทางด้านกองทุนต่างๆ ก็รอฟังผลอยู่ และหากยังไม่มีอะไรคืบหน้า บรรดากองทุนต่างๆ ก็พร้อมที่จะทยอยปรับพอร์ต เพื่อไม่ให้กระทบกับตลาดโดยรวม เพราะหุ้นตัวนี้มาร์เก็ตแคปมีขนาดกว่า 3.75 แสนล้านบาท และกองทุนต่างๆ ก็ถือหุ้นรวมกันกว่า 30%

*******ปัญหาเรื่อง TRUE กับ JAS ยังคงเข้ามาเป็นระยะ จนกว่าทั้งคู่จะเข้าไปจ่ายเงินกับ กสทช.นั่นแหละ ส่วนทางแบงก์เองตอนนี้ก็ปิดปากกันเงียบ และจะไม่มีการให้ข่าวเรื่องสินเชื่อ 4G กันอีก และให้ผู้ประกอบการ 4G ออกมาให้ข่าวเอง และหากยังเป็นแบบนี้หุ้นทั้ง 2 ตัวนี้ ก็ยังขึ้น-ลง สลับกันไปแบบนี้

********วันก่อนหน้านักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย แต่ค่าเงินยังแข็งค่า แสดงว่าเงินไม่ได้ออกนอกประเทศ แต่ไปพักอยู่ในตลาดเงิน และพอมาวานนี้ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิกว่า 837 ล้านบาท และค่าเงินบาทก็แข็งค่าขึ้นมาอีก จนมาปิดที่ 35.55 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ค่าเงินหยวนเริ่มนิ่งๆ และนี่คือสัญญาณว่าในระยะสั้นอาจมีแรงซื้อจากต่างชาติเข้ามาต่อเนื่อง

*******หุ้น MINT มาแรง ปิดบวก 4.51% หรือ 1.50 บาท มาที่ 34.75 บาท ขณะที่โบรกฯ ต่างมองว่าผลประกอบการในไตรมาส 4/58 จะออกมาสวยงาม จากจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเพิ่มขึ้นในช่วงไฮซีซั่น และธุรกิจอาหารเริ่มกลับมาฟื้นตัว บล.ธนชาต ให้ราคาเป้าหมายไว้ 50 บาท แนะนำ “ซื้อ” จัดไป

*******บลจ.กรุงไทย แจ้งการปรับลดอัตราผลตอบแทนของ กองทุนเปิดกรุงไทยตราสารหนี้ เอฟไอเอฟ 83 (KTFF83) จาก 1.75% ต่อปี เหลือ 1.70% ต่อปี เนื่องจากช่วงนี้มีสภาพคล่องคงเหลือในระบบเป็นจำนวนมาก ทำให้สถาบันการเงินหลายแห่งทั้งในประเทศและต่างประเทศปรับลดอัตราดอกเบี้ย และบางแห่งงดรับเงินฝาก  ประกอบกับสภาพเศรษฐกิจโลกที่ผันผวน  ทำให้คาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะยังคงอยู่ในระดับต่ำทั่วโลก กองทุนนี้เสนอขายถึงวันที่ 9 ก.พ.นี้  อายุ 6 เดือน  เน้นลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศ