ความจริงและความหวัง
ข้อเท็จจริงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่โมนิก้าและทีมงานเปิดเผยออกมา ขัดแย้งกับความหวังของเจ้าหน้าที่สภาพัฒน์อย่างลิบลับ
ข้อเท็จจริงจากผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่โมนิก้าและทีมงานเปิดเผยออกมา ขัดแย้งกับความหวังของเจ้าหน้าที่สภาพัฒน์อย่างลิบลับ ทำให้การลงทุนในตลาดหุ้นยามนี้เต็มไปด้วยความเสี่ยงเพราะเหตุที่ว่าข้อเท็จจริงและความหวังไปด้วยกันไม่ได้
“การขึ้นลงของหุ้นมักมีเหตุผลอธิบายในตัวของมันเองอยู่แล้ว และเรื่องดังกล่าวมักมาเฉลยในตอนประกาศงบรายไตรมาส ซึ่งเป็นการเดิมพันที่นักลงทุนต้องอ่านเกมหุ้นกันให้แม่นยำ” นี่คือคำเปรยของโมนิก้าและทีมงานในข่าวหุ้นธุรกิจฉบับเมื่อวานนี้ก่อนจะเผยตัวเลขว่าบริษัทที่จดทะเบียนจำนวนมากขาดทุนยับในไตรมาสที่สามของปีนี้ ข้อเท็จจริงดังกล่าวดูจะสวนทางกับความหวังของเจ้าหน้าที่รัฐไทยในสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) ซึ่งมักจะมองโลกในเชิงบวก สำหรับปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจไทยในปี 2568 สภาพัฒน์มองปัจจัยดังนี้
- การเพิ่มขึ้นของแรงสนับสนุนจากรายจ่ายภาครัฐ สอดคล้องกับการเพิ่มขึ้นของกรอบวงเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี และงบประมาณรายจ่ายคงเหลือ ปีงบประมาณ 2568
- การขยายตัวของอุปสงค์ภาคเอกชนในประเทศ แนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นของการลงทุนภาคเอกชน และการขยายตัวต่อเนื่องของการอุปโภคบริโภคภาคเอกชน
- การฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของภาคการท่องเที่ยว ตามการเพิ่มขึ้นของจำนวนและรายได้จาก
นักท่องเที่ยวต่างชาติ มีแนวโน้มกลับเข้าสู่ระดับปกติมากขึ้นใกล้เคียงกับช่วงก่อนการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบกับแนวโน้มการขยายตัวต่อเนื่องของนักท่องเที่ยวไทย
- การขยายตัวต่อเนื่องของการส่งออกสินค้า สอดคล้องกับทิศทางการค้าโลก รวมถึงยอดคำสั่งซื้อใหม่ และวัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์
สรุปโดยรวมคือเจ้าหน้าที่ สภาพัฒน์ไทยมีมุมมองว่า ธุรกิจที่จะได้รับประโยชน์จากสถานการณ์ในปีหน้าได้แก่ธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและการส่งออกเป็นสำคัญ ในขณะที่ธุรกิจอื่นยังแย่อยู่ ซึ่งเรื่องนี้นักวิเคราะห์ของไทยก็ไม่ค่อยจะเห็นด้วยนักเพราะธุรกิจส่งออกและการท่องเที่ยวนั้นยังผูกพันกับค่าเงินบาทซึ่งทำท่าจะอ่อนตัวต่อไป ซึ่งส่งผลทำให้ข้อเท็จจริงของบริษัทจดทะเบียนในตลาดในไตรมาสที่สามไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง และดูเหมือนการวิเคราะห์ของโมนิก้าและทีมงานจะแม่นยำมากกว่าแม้ว่าเหมือนจะมองโลกในแง่ร้าย ก็ตาม
ข้อเท็จจริงที่ขัดแย้งกับความหวังของสภาพัฒน์ทำให้ ข้อวิเคราะห์ของโมนิก้าและทีมงานน่าเชื่อถือมากกว่า
ที่พูดอย่างนี้ก็เพราะว่าผลประกอบการคือภาพสะท้อนที่เป็นจริงของบริษัทจดทะเบียนซึ่งไม่อาจปฏิเสธได้ ตัวอย่างเช่น หุ้นแบงก์ทั้งหลายที่ราคาต่ำกว่าบุ๊กแวลู ถึง 50% ทั้งที่มีผลประกอบการสวยงาม ในขณะที่หุ้นอิเล็กทรอนิกส์ราคาแพงเวอร์กว่าบุ๊กแวลู ถึงกว่า 10 เท่า ก็ยังไม่มีคำอธิบายที่เหมาะสมว่าที่ทำให้ราคาเป็นเช่นนั้นเพราะอะไร
ความไม่สมเหตุสมผลของตลาดหุ้นไทยในยามนี้ยังคงเป็นปริศนาที่ยากจะไขออกมา นอกจากจะบอกว่าตลาดหุ้นไทยยังมีปรากฏการณ์บางอย่างที่อธิบายได้ยากดังทฤษฎี Misbehavior of Market ที่ทำให้นักลงทุนงงงวยกัน
วิษณุ โชลิตกุล