ปราสาท (ทราย) THG

จากกรณีอื้อฉาว THG กรณีกรรมการตรวจสอบ ตรวจพบว่า บริษัทย่อย 2 แห่ง คือ THB และ THH มีการทำรายการอันควรสงสัย..!??


จากกรณีอื้อฉาวบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG กรณีกรรมการตรวจสอบ ตรวจพบว่า บริษัทย่อย 2 แห่ง คือ บริษัท โรงพยาบาลธนบุรี บำรุงเมือง จำกัด THB (THG ถือหุ้น 81.03%) และบริษัท ทีเอช เฮลท์ จำกัด THH (THG ถือหุ้น 51.22%) มีการทำรายการอันควรสงสัย..!??

โดยมีการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท ราชธานีพัฒนาการ (2014) จำกัด หรือ RTD (เป็นบริษัทที่มี “กลุ่มครอบครัววนาสิน” เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่) เมื่อปี 2565-2566 จำนวน 6 รายการ คิดเป็นยอดเงินรวม 145 ล้านบาท

พร้อมมีการให้กู้ยืมเงินแก่บริษัท ไทย เมดิเคิล กรุ๊ป จำกัด TMG (RTD เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 36.10%) เมื่อปี 2566 จำนวนเงินรวม 10 ล้านบาท

หนักกว่าตรวจพบว่า THH มีการสั่งซื้อสินค้าจากบริษัทในสิงคโปร์ แต่ไม่ได้มีการรับมอบสินค้าจริง ช่วงปี 2566 จำนวนเงินรวม 55 ล้านบาท

จาก 3 กรรม 3 วาระดังกล่าว คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 210 ล้านบาท..!!

แถมล่าสุดภายใน THG ยังวุ่นวาย มีการตรวจสอบหลายเรื่อง ไม่ใช่แค่เรื่องการกู้ยืมเงิน 2 บริษัทย่อยและออเดอร์ล่องหน แต่มีหลายที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติม น่าจะมีการส่งเอกสารการตรวจสอบให้ก.ล.ต.ต่อไป

แต่ถ้าหากกรณีที่แย่กว่านั้นก.ล.ต.น่าจะเข้าตรวจสอบเอง..!!

มาวันนี้ผู้ก่อตั้ง THG และผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง “นพ.บุญ วนาสิน” ด้วยวัย 86 ปี

กำลังเผชิญ “วิบากกรรมหนี้สินท่วมตัว” อย่างหนัก.!

ทางการข่าวมีรายงานว่า “หมอบุญ” มีการก่อหนี้นอกระบบจำนวนมาก โดยใช้หุ้น THG ที่ตัวเองและคนในครอบครัวถืออยู่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน…

ว่ากันว่า..มีคนจากตระกูลดังทั้งวงการบันเทิงและสื่อสารโทรคมนาคม เป็นเจ้าหนี้ “หมอบุญ” บางรายมูลหนี้สูงกว่า 1,000 ล้านบาท ที่สำคัญการ “ผิดชำระหนี้” ได้บังเกิดขึ้นแล้ว

ข้อเท็จจริงที่ปรากฏชัดคือ..มีคดีฟ้องร้อง “หมอบุญ” ที่สน.ห้วยขวาง จำนวนมาก เกี่ยวกับคดี “เช็คเด้ง” แม้ไม่ปรากฎชัดว่ามีทั้งหมดกี่คดี..แต่ก็ทำให้ตำรวจสน.แห่งนี้ปั่นป่วนไม่น้อยเช่นกัน

นี่ยังไม่รวมคดีที่กำลังอยู่ในการพิจารณาของศาลอีกเพียบ..!!

ไม่มีหลักฐานปรากฏว่า “หมอบุญ” มีหนี้เท่าไหร่..แต่ในทางการข่าวตัวเลขหลายพันล้านบาท

ผลพวงการตรวสอบ “การทำรายการอันควรสงสัย” ของ 2 บริษัทย่อย THG และปัญหาหนี้สินของ “หมอบุญ” ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ราคาหุ้น THG จากเคยเฉลี่ยอยู่ 70 บาท ล่าสุดปรับตัวลงมาอยู่ที่ 16 บาท ลดลง 54 บาท หรือกว่า 77%

ทำให้มาร์เก็ตเคป THG หายวับไปกว่า 45,448 ล้านบาท (จากเฉลี่ย 59,000 ล้านบาท เหลือเพียง 13,550 ล้านบาท) ช่วงเวลาเพียงไม่กี่เดือนหลังเผชิญเรื่องดังกล่าว

เอาล่ะ..แม้ยังไม่มีข้อมูลชัดว่ากรณี “ปัญหาอื้อฉาว THG” กับกรณี “หนี้หมอบุญ” จะเกี่ยวโยงกันหรือไม่..!?

แต่สิ่งที่ชัดเจนคือ THG กำลังกลายเป็น “ปราสาททราย” ที่พร้อมพังครืนได้ทุกเมื่อจริง ๆ..!!!

เล็กเซียวหงส์

Back to top button