A5 บ้านลักซ์ชัวรี่ปั๊มกำไร!

คุณค่าบริษัท

หลังจากบริษัท แอสเซท ไฟว์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ A5 เคลียร์ดราม่าการขายหุ้นของผู้ถือหุ้นบางกลุ่มแล้วเสร็จ ปัจจุบันก็กลับมาสู่โหมดการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจรอบใหม่ ด้วยการมาบุกตลาดบ้านลักซ์ชัวรี่เต็มสูบ ซึ่งดูเหมือนจะทำได้ดี เพราะในขณะที่อสังหาริมทรัพย์หลาย ๆ แห่งประสบปัญหารายได้หายกำไรหด ผลพวงมาจากกำลังซื้อที่ยังอ่อนแอ บวกกับมียอดปฏิเสธสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัยของแบงก์พุ่งสูง

แต่ A5 ที่เน้นจับตลาดระดับบน ยังสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดยประเดิมไตรมาสแรกปีนี้ด้วยกำไรสุทธิ 142.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64.46% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 86.79 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 471.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39.80% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 337.01 ล้านบาท ถัดมาไตรมาส 2/2567 โชว์กำไรสุทธิ 167.35 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 102.43% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 82.67 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 429.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 328.56 ล้านบาท

ส่วนไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 178.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.31% จากช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 178.25 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 546.20 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28.72% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 424.32 ล้านบาท

หนุนให้ในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 มีกำไรสุทธิ 488.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 40.60% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 347.72 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,446.86 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.75% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ 1,089.90 ล้านบาท

ขณะที่ ในไตรมาส 4/2567 คาดจะเติบโตได้ต่อ โดยบริษัทมีแผนเปิดตัวโครงการแซงค์ รอยัล 2 (เมกาบางนา) มูลค่าโครงการ 1,650 ล้านบาท ซึ่งเป็นบ้านหรูติดสนามกอล์ฟ จำนวน 18 ยูนิต ระดับราคาขายเริ่มตั้งแต่ 70-200 ล้านบาทต่อยูนิต จะเปิดขายอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2567 นี้

จากปัจจัยข้างต้น ทำให้มั่นใจว่าปีนี้จะมีรายได้รวมอยู่ที่ระดับ 2,000 ล้านบาท เติบโต 30% จากปีก่อนที่มีรายได้รวม 1,498.29 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้

ด้านเป้าหมายในปี 2568 บริษัทจะมุ่งสร้างการเติบโตต่อ โดยมีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ได้แก่ โครงการภายใต้แบรนด์ “VANA” ระดับราคา 25-60 ล้านบาทต่อยูนิต, แบรนด์ “แซงค์ รอยัล” ระดับราคา 70-200 ล้านบาทต่อยูนิต และจะมีการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ ระดับราคา 50-80 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งปัจจุบันบริษัทมีที่ดินสำหรับรองรับการพัฒนาแล้วทั้งหมด

สำหรับการประเมินมูลค่า (Valuation) ปัจจุบันราคาหุ้น A5 ซื้อขายกันที่ P/E ระดับ 4.98 เท่า เทียบกับ P/E ตลาดโดยรวมที่ระดับ 20.16 เท่า ถือว่าราคาซื้อขายต่ำกว่าตลาดมาก อย่างไรก็ตามถ้าดู P/BV ที่ระดับ 1.86 เท่า ก็สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาดที่ปัจจุบันซื้อขาย P/BV เฉลี่ยที่ 1.45 เท่า