TRITN ตลท.กังขา The Haven.!

ช่วงปลายเดือน ต.ค.ที่ผ่านมา บริษัท ไทรทัน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TRITN ประกาศข่าวดีข่าวใหญ่ว่าด้วยเรื่องจะเข้าลงทุนในบริษัท บ้านไร่เตชะอุบล จำกัด ซึ่งประกอบธุรกิจสวนยางพาราและปาล์ม และถือครองกรรมสิทธิ์ในที่ดินจำนวน 62 แปลง เนื้อที่รวม 732 ไร่ 2 งาน 90.7 ตารางวา ตั้งอยู่ที่ ต.หนองปรือ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี

โดยมีแผนจะให้ “บ้านไร่เตชะอุบล” พัฒนาที่ดินดังกล่าวเป็นโครงการเพื่อการพักผ่อนและการนันทนาการ (Leisure and Entertainment) ภายใต้ชื่อ The Haven ใช้เงินลงทุนในการพัฒนาไม่เกิน 890 ล้านบาท คาดจะใช้เวลาในการพัฒนาโครงการราว 3 ปี และจะเปิดรับผู้เข้าชมได้ราวต้นปี 2571

การเข้าลงทุนครั้งนี้ TRITN ไม่ได้ชำระค่าตอบแทนเป็นเงินสดนะ แต่จะใช้วิธีออกหุ้นเพิ่มทุนไปแลก…โดยจะออกหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 10,769.23 ล้านหุ้น คิดเป็น 49.18% ที่ราคาหุ้นละ 0.13 บาท รวมมูลค่า 1,400 ล้านบาท จัดสรรแบบเฉพาะเจาะจง (PP) ให้กับผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท บ้านไร่เตชะอุบล โฮลดิ้ง จำกัด (เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ “บ้านไร่เตชะอุบล”) ได้แก่ “สดาวุธ เตชะอุบล” จำนวน 5,472.21 ล้านหุ้น คิดเป็น 24.99%, “หลุยส์ เตชะอุบล” จำนวน 2,993.96 ล้านหุ้น คิดเป็น 13.67% และ “ทรงชัย อัจฉริยหิรัญชัย” จำนวน 2,303.05 ล้านหุ้น คิดเป็น 10.52%

รวมเบ็ดเสร็จแล้วธุรกรรมนี้มีมูลค่าอยู่ที่ 2,290 ล้านบาท…ขณะที่ TRITN มีรายได้รวมช่วง 3 ปีย้อนหลัง เฉลี่ยปีละประมาณ 600-800 ล้านบาท

โดยหลังจากกระบวนการต่าง ๆ แล้วเสร็จ โครงการผู้ถือหุ้นใหญ่ TRITN จะเปลี๊ยนไป๋เป็น…“สดาวุธ” ขึ้นแท่นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 สัดส่วน 24.34% ส่วน “หลุยส์” ถือหุ้นอันดับ 2 สัดส่วน 21.30%, “ทรงชัย” ถือหุ้นอันดับ 3 สัดส่วน 10.24% และ “ภสุ วชิรพงศ์” ถือหุ้นอันดับ 4 สัดส่วน 3.61%

ในมุมของธุรกิจก็เป็นข่าวดี เป็นการขยายไปสู่ธุรกิจใหม่ เพิ่มความหลากหลายของธุรกิจ เพื่อลดการพึ่งพารายได้หลักจากธุรกิจงานก่อสร้างและธุรกิจพลังงานเป็นเรื่องที่ดี…แต่จะประสบความสำเร็จแค่ไหน..เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์กันไป

ล่าสุดตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็แสดงความเป็นห่วงด้วยนะ โดยระบุว่า เนื่องจากโครงการ The Haven เป็นรายการที่มีขนาดใหญ่ ใช้เงินลงทุนสูง มีลักษณะธุรกิจและความเสี่ยงแตกต่างจากธุรกิจปัจจุบันของบริษัท

ซึ่งเข้าข่ายเป็นรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ของบริษัท โดยมีขนาดรายการ 99.73% เลยสั่งให้ TRITN ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมภายในวันที่ 27 พ.ย. 2567 ดังนี้

1)แผนการพัฒนาและดำเนินโครงการดังกล่าวโดยสังเขป ความพร้อมของบริษัท ประโยชน์และความเสี่ยง

2)ความครบถ้วนเพียงพอของเงินทุนที่จะพัฒนาโครงการให้แล้วเสร็จและเปิดดำเนินการตามกำหนด

3)การเปลี่ยนแปลงอำนาจควบคุมภายหลังเพิ่มทุนให้แก่บริษัท บ้านไร่เตชะอุบล โฮลดิ้ง จำกัด

4)ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทต่อความเป็นไปได้ในการเปิดดำเนินการในปี 2571

และ 5)ความเห็นของคณะกรรมการและคณะกรรมการตรวจสอบต่อการปฏิบัติตามเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

เอาน่า…อย่างน้อย ๆ เดดไลน์วันที่ 27 พ.ย.นี้ ก็จะมีความชัดเจนมากขึ้น…

ส่วนวันที่ชี้ชะตาจริง ๆ ก็เป็นวันที่ 13 ธ.ค. 2567 ว่าผู้ถือหุ้นจะยกมือโหวตให้ทำรายการหรือไม่..??

โปรดติดตามตอนต่อไป…

…อิ อิ อิ…