WAVE คลื่นที่อ่อนแรง.!?

ถ้าพูดถึงหุ้น WAVE เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีวีรกรรมเป็นที่โจษจันของนักลงทุน โดยหุ้นมักจะวิ่งแรงงงส์เว่อร์เป็นพัก ๆ แบบ No สน No แคร์


ถ้าพูดถึงหุ้นบริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่มีวีรกรรมเป็นที่โจษจันของนักลงทุน โดยหุ้นมักจะวิ่งแรงงงส์เว่อร์เป็นพัก ๆ แบบ No สน No แคร์ ปัจจัยพื้นฐาน เลยทำให้มีทั้งนักลงทุนที่เป็นเศรษฐีก็เยอะ ส่วนที่กลายเป็นยากจกก็มีไม่น้อย…

ขณะที่ปัจจุบันมีสถานะเป็นหุ้นไม่เต็มบาท ราคาซื้อขายอยู่ที่ 10 สตางค์บวก/ลบ

หลายคนคงลืมกันไปแล้วว่า หุ้นตัวนี้มีที่มาที่ไปยังไง..?? งั้นไปย้อนดูกันหน่อยดีกว่า…

คงต้องย้อนไปตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค. 2537 ซึ่งเป็นวันแรกที่บริษัท ซีวีดี เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ CVD ย่างเท้าเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ก็คือร่างเดิมของ WAVE ด้วยธุรกิจเป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ผลิตรายการและละครลงแผ่น CD และ DVD…เท่ากับว่าหุ้นตัวนี้โลดแล่นในตลาดหุ้นไทยมา 30 ปีเต็มแล้ว

ในช่วง 30 ปีมานี้ CVD หรือ WAVE ผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ไล่มาตั้งแต่ธุรกิจดั้งเดิมถูกดิสรัปชันด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้ในช่วงปี 2549 ต้องปรับโมเดลธุรกิจใหม่ หรือหากระดองใหม่ จากผู้ซื้อมาเป็นผู้สร้าง สู่ธุรกิจผู้ผลิตรายการ ละคร และงานออร์กาไนซ์แทน พร้อมย้ายสำมะโนครัวมาอยู่ภายใต้กลุ่มมาลีนนท์ และบริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BEC

ต่อมาในปี 2552 ก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เวฟ เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ WAVE

WAVE ถูกเปลี่ยนมือมาอีกหลายครั้ง โดยรายชื่อผู้ถือหุ้นใหญ่ 5 อันดับแรกล่าสุด ปรากฏชื่อบริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BTC ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 1 สัดส่วน 8.9%, THE HONGKONG AND SHANGHAI BANKING CORPORATION LIMITED, SINGAPORE BRANCH ถือหุ้นเบอร์ 2 สัดส่วน 7.1%, LGT BANK (SINGAPORE) LTD ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 3 สัดส่วน 6.7%, “สุระ คณิตทวีกุล” ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 4 สัดส่วน 5.8% และบริษัท ธนวรินทร์ จำกัด ถือหุ้นใหญ่เบอร์ 5 สัดส่วน 5.2%

ส่วนในมุมธุรกิจ…ก็มีความเพียรพยายามหากระดองใหม่อย่างต่อเนื่อง ล่าสุดขายฝันด้วย 3 กระดองใหม่…อุ๊ย 3 ธุรกิจใหม่ ได้แก่ ธุรกิจ Carbon Credits ซึ่งเป็นเทรนด์ใหม่ของโลก ธุรกิจสุขภาพ และธุรกิจโรงเรียนสอนภาษา พร้อมเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็นบริษัท เวฟ เอกซ์โพเนนเชียล จำกัด (มหาชน) แต่ใช้ชื่อหลักทรัพย์เดิม WAVE

แต่ดูเหมือนสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นนะ พิสูจน์ได้จากงบการเงินในช่วง 4 ปีย้อนหลังที่ขาดทุนมาโดยตลอด เพิ่งเห็นกำไรกะปริบกะปรอยในปี 2567 นี่แหละ…โดยในปี 2563 มีรายได้รวม 712.61 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 201.09 ล้านบาท ถัดมาปี 2564 มีรายได้รวม 332.54 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิเพิ่มเป็น 692.76 ล้านบาท ส่วนปี 2565 มีรายได้รวม 300.83 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิลดลงเหลือ 65.81 ล้านบาท ขณะที่ปี 2566 มีรายได้รวม 464.04 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 15.90 ล้านบาท

ส่วนงบงวด 9 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้รวม 363.64 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 23.85 ล้านบาท…แต่อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะ เพราะ ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 ยังมีตัวเลขขาดทุนสะสมยังไม่ได้จัดสรรโชว์หราอยู่ที่ 285.56 ล้านบาท

ขณะที่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เพิ่งประกาศเพิ่มทุนขายให้ผู้ถือหุ้นเดิม (Rights Offering : RO) จำนวน 2,303.12 ล้านหุ้น อัตราส่วน 4 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นใหม่ ที่ราคาหุ้นละ 0.14 บาท ได้เงินมาราว 314.13 ล้านบาท

ล่าสุดได้แจ้งปรับเปลี่ยนวัตถุประสงค์การใช้เงินเพิ่มทุนดังกล่าว จากเดิมแบ่งเงินจำนวน 28.42 ล้านบาท ไปลงทุนในธุรกิจด้านการศึกษา แต่เนื่องจากเห็นว่าตอนนี้ยังไม่มีความจำเป็น เลยจะโยกเงินดังกล่าวไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนเพื่อเพิ่มสภาพคล่องให้แก่ธุรกิจแทน…

ซึ่งถ้าไปเช็กสถานะทางการเงินของ  WAVE ก็ไม่น่าแปลกใจ เนื่องจากมีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดติดกระเป๋าแค่ 56.49 ล้านบาทเท่านั้น…

ว่าแต่ WAVE จะกลายเป็นคลื่นสึนามิกี่โมงเนี่ย..??

เท่าที่เห็นตอนนี้ เป็นได้แค่คลื่นที่อ่อนแรงนะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button