ของดีซ่อนรูป

หลังจาก “โมนิก้า” หัวหมุดสุด ๆ กับเรื่องฉาวของตลาดหุ้นไทยมาพักใหญ่ ๆ เพราะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่เว้นในแต่ละวัน


หลังจาก “โมนิก้า” หัวหมุนสุด ๆ กับเรื่องฉาวของตลาดหุ้นไทยมาพักใหญ่ ๆ เพราะมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่เว้นในแต่ละวัน ซึ่งมีทั้งเรื่องฉ้อโกงของคนมีสตางค์ เรื่องตระกูลดังร่วมขบวนการปั่นหุ้น หรือแม้กระทั่งเรื่องบริษัทเบี้ยวเงินหุ้นกู้ ฯลฯ ก็ถึงเวลาหันมาเม้าท์ถึงเรื่องดี ๆ เพื่อช่วยจรรโลงจิตใจกันบ้างดีกว่า เพราะตัวอีฉันมองว่า ตอนนี้เราเดินมาถึงก้นเหวของเรื่องต่าง ๆ แล้วน่ะซี

โดยเฉพาะข่าวฉาวที่เกิดขึ้นกับตลาดหุ้นไทย ก็คงไม่มีอะไรที่หนักหนาสาหัสไปกว่าที่ผ่านมาอีกแล้ว เลยทำให้นักลงทุนเริ่มปลงกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และเริ่มมองหาข่าวดีที่จะเข้ามาเติมเต็มในหุ้นรายตัว ซึ่งอีฉันก็เห็นพ้องไปทางเดียวกับนักลงทุนกลุ่มดังกล่าว จึงเชื่อแบบบริสุทธิ์ใจว่า การยืนปิดของดัชนีที่ระดับ 1,428.01 จุด ลบไป 2.39 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.55 หมื่นล้านบาท คือจุดที่เริ่มทยอยลงทุนรอบใหม่พะย่ะค่ะ

งานนี้อีฉันไม่ได้พูดปากเปล่าอย่างแน่นอน เพราะมีสัญญาณเทคนิคเป็นตัวซัพพอร์ต และเมื่อไล่เรียงดูจากค่า Modified Stochastic ในส่วนที่เป็น %K อยู่ที่ 11.40 และค่าของ RSI อยู่ที่ระดับ 37 รวมทั้งค่า MACD อยู่ที่ระดับ -7.20 โดยทั้งหมดเป็นค่าระดับเดียวกันกับตอนที่ดัชนีลงไปทำโลว์ที่บริเวณ 1,280 จุดแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ไม่มีอะไรต้องซีเรียสเลยนะตัวเอง

เหมือนกับในรายของหุ้นสมุนไพรน้องใหม่ SNPS ก็เป็นหุ้นตัวเล็กที่กระแสดีมากในมุมของขาเผือก เพราะการเข้าตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการเที่ยวนี้ ก็มาพร้อมกับสตอรี่โกรทเป็นธงนำ ผนวกกับนักลงทุนเชื่อในฝีมือของ “เฮียแกะ” ว่าปั้นของดีมีคุณภาพ “โมนิก้า” จึงต้องเอ่ยถึงเพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับนักลงทุนที่ยังเชื่อมั่นในไอพีโอดีๆ และเหนืออื่นใดก็อยากให้นักลงทุนลองศึกษาข้อมูลสำคัญของหุ้นตัวนี้อีกทีจ้า!

สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมา เพราะบรรดาไอพีโอก่อนหน้านี้ ทำแมงเม่าน้ำตาตกกันเป็นแถว ผนวกกับสิ่งที่นักลงทุนคาดหวัง ก็ไม่เป็นเหมือนกับประเมินไว้ เดี๊ยนเลยรู้สึกดีมากที่นักลงทุนสามารถตีโจทย์ของหุ้นแต่ละตัวออก รวมทั้งรายย่อยได้เห็นพฤติกรรมรายใหญ่แต่ละคนเป็นอย่างไร? จึงนำบทเรียนเก่า ๆ มาเป็นเครื่องเตือนใจได้เป็นอย่างดีแบบนี้..เดี๊ยนแฮปปี้มาก ๆ นะจะบอกให้

ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น JMT อีกครั้ง เพราะสิ่งที่รับรู้มาตลอดก็คือ กำไรของบริษัทจะขยายตัวเป็นรอบ ๆ ต่อจากนั้นก็ยังทรง ๆ นิ่ง ๆ ก่อนจะขยายตัวใหม่ ซึ่งเป็นผลมาจากการซื้อหนี้มาเพิ่มในพอร์ต และเมื่อมีการเริ่มเก็บหนี้ก้อนใหม่ บริษัทก็จะมีกำไรโตขึ้น เดี๊ยนเลยไม่แปลกใจที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 19.20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 886 ล้านบาท เพราะมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ปีหน้าจะเป็นอย่างไรน่ะซี

เมาท์ถึงเรื่องปีหน้าขึ้นมาปุ๊บ “โมนิก้า” ก็ต้องเอ่ยถึงหุ้น MONO ขึ้นมาทันที เพราะหลายคนเชื่อว่า การถ่ายทอดสดบอลพรีเมียร์ลีกจะเป็นสปริงบอร์ดให้กับรายได้ของบริษัท จึงเชื่อว่าราคาหุ้นจะไปได้ไกลกว่าที่เป็นอยู่ และเรื่องนี้ดูได้จากราคาหุ้นที่ขึ้นมายืนที่ระดับ 2.52 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 7.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 235 ล้านบาท มันธรรมดาซะที่ไหน? ขนาดโดนจับติดแคชบาลานซ์นะตัวเอง

เช่นเดียวกับในรายของหุ้นอาหารญี่ปุ่น MAGURO ก็มีสตอรี่เกี่ยวกับการขยายสาขาเป็นแบ็กอัพ จึงเชื่อได้ว่า ผลงานต่อจากนี้จะโตขึ้นเป็นลำดับ แต่ในระหว่างที่รอกำไรจริงปรากฏให้เห็น ก็มีการเข้ามาเล่นเก็งกำไรเป็นรอบ ๆ และดูเหมือนว่า หุ้นกำลังพยายามจะยืนเหนือแนวต้าน 20 บาทให้ได้ หลังจาก 2 ครั้งที่ผ่านมาทำไม่สำเร็จแบบนี้ มันทำให้การยืนปิดที่ระดับ 20.70 บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 7.25% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 90 ล้านบาท น่าสนใจสุด ๆ เจ้าค่ะ

คล้ายกับสถานการณ์ของหุ้น KLINIQ ซึ่งรักษามาตรฐานในการทำกำไรได้สม่ำเสมอ และยังมีแฟนคลับเข้ามาเล่นเป็นประจำ ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” ชื่นชอบเป็นอย่างยิ่ง เพราะแสดงให้เห็นว่า นักลงทุนยังเชื่อมั่นในตัวธุรกิจ จึงหวนกลับมาเล่นเมื่อราคาหุ้นลงมาถึงจุดบอททอม เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นประเมินการยืนปิดที่ระดับ 32.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 57 ล้านบาท เทียบกับไฮครั้งก่อนที่ระดับ 38 บาท มันโดนใจขนาดไหนจ๊ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button