งานนี้สนุกแน่!

จริง ๆ เดี๊ยนไม่อยากจั่วหัวแนวนี้เลย เพราะเหมือนเป็นการบั่นทอนกำลังใจของแฟนคลับ แต่สภาพที่เห็น ณ เวลานี้ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้อีฉันรู้สึกโล่งใจ


จริง ๆ เดี๊ยนไม่อยากจั่วหัวแนวนี้เลย เพราะเหมือนเป็นการบั่นทอนกำลังใจของแฟนคลับ แต่สภาพที่เห็น ณ เวลานี้ไม่มีอะไรเลยที่ทำให้อีฉันรู้สึกโล่งใจนาน ๆ จึงอยากประเมินเหตุการณ์แบบวันต่อวัน ผนวกกับท่าทีของนักลงทุนต่างชาติยังเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา จึงกลายเป็นช็อตที่ต้องลุ้นว่า ตลาดหุ้นไทยจะขึ้นไปทดสอบ 1,480 จุด เมื่อไหร่? และมีโอกาสมากแค่ไหนที่จะยืนเหนือ 1,500 จุดแบบยาว ๆ ได้ไหมพะย่ะค่ะ

ที่น่าสนใจคือ แรงซื้อของนักลงทุนสถาบันมักมาในลักษณะตูมเดียว ต่อจากนั้นก็เข้าโหมดเกียร์ว่างหน้าตาเฉย “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับช่วยประเมินวันก่อนที่ตลาดหุ้นไทยบวกไป 18 จุด ถัดมาอีกวันก็ยืนปิดที่ระดับ 1,450.82 จุด ลบไป 3.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.79 หมื่นล้านบาทแบบนี้ อีฉันเดาทางไม่ถูกจริง ๆ เพราะเรื่องเดียวที่รู้แจ่มแจ้งก็คือ ดัชนีเพิ่งฟื้นจากการเข้าเขตขายมากเกินไปเท่านั้นเองค่ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ “โมนิก้า” ชอบมองไทม์ไลน์ของสถานการณ์ต่าง ๆ ต่อจากนี้เป็นหลัก เพราะทุกครั้งที่เข้าสู่เดือน ธ.ค. ของทุกปี มักจะมีการเม้าท์มอยถึง December effect ซึ่งเป็นปรากฎการณ์ที่หุ้นมักวิ่งแรงเป็นประจำ และถ้าเป็นตามนี้จริง ๆ ก็เป็นจังหวะที่เหมาะต่อการกระโจนเข้าลงทุน แถมในช่วง 2 ปีหลังหุ้นไทยก็มีปรากฏการณ์นี้จริง ๆ แต่พอถึงเดือน ม.ค. หุ้นไทยกลับรูดลงเสียอย่างนั้น..อีฉันไปไม่ถูกเลยจ้า

เหมือนกับการขึ้นของหุ้น KBANK มองในมุมไหน ก็เป็นจังหวะตามน้ำ เพราะเที่ยวก่อนก็ขึ้นไปแถว 159 บาท “โมนิก้า” เลยเชื่อว่า เที่ยวนี้ก็คงไม่ต่างกัน และการขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 155 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 1% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.48 พันล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณว่า หุ้นพร้อมสำหรับการขึ้นไปทดสอบยอดเดิมอีกครั้ง ส่วนจะผ่านไปได้หรือไม่ ก็ต้องดูกันเอาเองนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ KTB ก็มีประเด็นคล้ายคลึงกับรายข้างต้น และเพื่อเป็นการยืนยันนักลงทุนสถาบันเข้าเล่นรอบใหม่ ก็ดูได้จากเรื่องเม็ดเงินก้อนใหม่ที่จะเข้ามาในรูปของกองทุน TESG มักพุ่งตรงมาหาหุ้นแบงก์ก่อนใครเพื่อน เดี๊ยนเลยมองว่า การยืนปิดที่ระดับ 20.60 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 765 ล้านบาท น่าจะเกี่ยวข้องโดยตรงกับประเด็นดังกล่าวไม่มากก็น้อยเจ้าค่ะ

ส่วนนักเล่นสายเก็งกำไรคงมองไปที่หุ้น MONO แบบไม่กระพริบตา เพราะคิดจะท้าทายระบบด้วยการเปรยในจดหมายชี้แจงว่า อาจใช้สิทธิทางกฎหมายต่อคำสั่งของ ตลท. แบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นการกระทำที่ล้ำเส้นเกินไปจริง ๆ และเป็นเรื่องที่อีฉันรับไม่ได้ต่อท่าทีดังกล่าว พร้อมกับเป็นกำลังใจให้ฝ่ายตรวจสอบลากคอพวกปั่นหุ้นออกมาเชือดไว ๆ งานนี้เดี๊ยนเชื่อเหลือเกินว่า ต้องพังกันไปข้างหนึ่งแน่นอน..อิอิอิ

เมาท์ถึงเรื่องร้อนขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอหันไปดูหุ้น EE เพื่อชี้ให้เห็นรายการบิ๊กล็อตในราคาหุ้นละ 0.14 บาท จำนวน 1,607 พันล้านหุ้น ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 224.98 ล้านบาท มันชี้ชัดว่า นี่เป็นธุรกรรมที่น่าสงสัยเหลือเกิน จนบรรดาแมงลือเม้าท์กันสนั่นหวั่นไหวว่า มันเป็นการโยนหุ้นให้กับเจ้าของใหม่แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาด และคนผู้นั้นก็ดันมีธุรกิจที่เกี่ยวกับหวยออนไลน์แบบนี้….ก.ล.ต. ตลท. เดือดปุด ๆ ล้านเปอร์เซ็นต์ชัวร์..อิอิอิ

ในเมื่อมาแนวต้องคิดขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอเอ่ยถึงหุ้น ALPHAX เพื่อชี้ให้เห็นการเข้าลงทุนในธุรกิจเขื่อนขนาดเล็ก ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจในแง่ของเม็ดเงินที่โยนลงไป 800 ล้านบาท จะสร้างรายได้ให้กับบริษัทมากขนาดไหน? และที่น่าแปลกใจก็คือ ราคาหุ้นในกระดานดันไม่ตอบรับกับข่าวดังกล่าวสักเท่าไหร่ พร้อมกับยืนซึมกะทือที่ระดับ 0.62 บาทแบบนี้..เดี๊ยนตีความไม่ถูกเลยนะคุณพี่!

ตบท้ายกันที่หุ้น LTS เพื่อชี้ให้เห็นแรงซื้อที่เข้ามาไม่มาก แต่ราคาหุ้นสามารถขยับตัวขึ้นมาปิดที่ 15.40 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 6.95% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 43 ล้านบาท บรรดาแมงลือก็เม้าท์ไปในทางเดียวกันว่า “เซียนฮง” เริ่มขยับตัวอีกแล้ว แต่ครั้งนี้ไม่สามารถเรียกแขกเข้ามาช่วยตะลุมบอนเหมือนครั้งก่อน ๆ จึงทำให้การขึ้นแรงเที่ยวนี้ไม่เซ็กซี่เท่าที่ควร..จริงหรือไม่ ลองไปสืบกันดูอีกที เพราะเดี๊ยนก็ฟังเขาเล่ามาอีกทีเหมือนกันจ้ะ

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button