Statement ตลท. : ข้อเท็จจริงที่ผู้ลงทุนได้ประโยชน์
บทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการกำกับดูแล
บทบาทและหน้าที่ของหน่วยงานตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ในการกำกับดูแลการซื้อขายหุ้นรายวัน ถือเป็นหนึ่งในหน้าที่หลัก ที่จะคอยตรวจสอบการซื้อขายหุ้นให้เกิดความเป็นธรรม (Fair & Orderly) เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการกระทำอันไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหุ้น (Unfair Trading) อาทิ
1.การซื้อขายแบบการกระจุกตัว ในลักษณะการโยนออเดอร์ ทั้งซื้อและขายกันเองในกลุ่ม เพื่อไม่ให้หุ้นหลุดออก หรือหายไปนอกกลุ่ม ช่วงก่อนที่จะมีการดันราคาขึ้นไป
2.การสร้างราคา (ปั่นหุ้น)
3.การชี้นำราคาหุ้น สร้างฐานราคาโดยการตกแต่งกราฟ หรือสัญญาณทางเทคนิค ให้สวยงามแบบผิดธรรมชาติ จนเข้าเงื่อนไขการชี้นำ ว่า “กราฟสวย” ตรงตามลักษณะที่ผู้ลงทุนใช้เปรียบเทียบ ก่อนใช้ตัดสินใจเข้าลงทุน
4.การใช้ข้อมูลภายใน ในการซื้อขายหุ้น อาทิ Insider Trading, Front Running
5.การบอกกล่าว หรือเผยแพร่ข่าวอันเป็นเท็จ หรืออาจก่อให้เกิดความสำคัญผิด
-ทำไมตลท.ต้องออก Statement ให้ข้อเท็จจริงแก่ผู้ลงทุน
การเผยแพร่ข้อเท็จจริง ถึงสภาพการซื้อขายหุ้น ที่ผิดปกติให้ผู้ลงทุนทราบ (Escalation to Public) เป็นงานด้านการป้องกัน (Preventive) ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ดูแล และดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
เพราะการออก Statement เกี่ยวกับพฤติกรรมของหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง เป็นการอธิบายและขยายความเพื่อแจ้งข้อเท็จจริงต่อผู้ลงทุน และได้มีการออก เพื่อแจ้งข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบริษัทจดทะเบียนมาแล้วหลายพันฉบับ ไม่ใช่เพิ่งมาออก
ส่วนผู้ลงทุน จะนำข้อเท็จจริงไปใช้ในการตัดสินใจทางใดก็ถือว่าทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทำหน้าที่นำเสนอข้อมูลต่อผู้ลงทุนแล้ว
โดยธรรมเนียมปฏิบัติทั่วไป ก่อนออก Statement จะมีการเตือนทีละสเต็ป
ในช่วงแรก ที่หุ้นขึ้นแรง โดยไม่มีปัจจัยหนุนนำ ก็จะทำการขึ้นป้ายเตือน ให้บังคับซื้อขายหุ้นในบัญชี แคช บาลานซ์ ระดับ 1 ไปก่อนถือว่าเป็นการทำตามขั้นตอนทั่วไป
แต่หลังจากนั้น หากยังมีการดันหุ้นขึ้นต่อทั้ง ๆ ที่อยู่ในมาตรการระดับ 1 แล้ว ยังไม่หยุด จะมีการยกมาตรการขึ้นมาเป็นระดับ 2 ซึ่งไม่ได้ค้านกับหลักความเป็นจริงของการปฏิบัติหน้าที่ ผู้กำกับการซื้อขายหุ้น อย่างตลท.เลย
จะมีเพียงผู้ลงทุนบางกลุ่มเท่านั้น ที่ไม่ชอบการตรวจสอบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยจะใช้ข้ออ้างว่า “ทำเกินกว่าเหตุ” ที่เป็นลักษณะที่ บ่งบอกถึง “อาการหัวร้อน” อย่างเห็นได้ชัด
แถมการไปออกตัว “สอนมวย” ฝ่ายกำกับของตลท. ว่า หากมีความผิด ควรให้ ก.ล.ต.ดำเนินคดีทางกฎหมายนั้น
หากทางสำนักงาน ก.ล.ต. รับลูก ขอตรวจสอบแบบเร่งด่วนจะใช้เวลาไม่ถึง 6 เดือน (จากปกติใช้เวลา 2-5 ปี กว่าจะกล่าวโทษ) เหมือนที่เคยทำมาแล้วกับ หุ้นนางงามตัวหนึ่ง ที่ถูก
ก.ล.ต.กล่าวโทษ เรื่องเผยแพร่ข้อความ ทำให้เกิดความสำคัญผิด เกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ และราคาหุ้น จนถูกเปรียบเทียบปรับมาแล้วในช่วงปี 2564 ผ่านมา
อึ้งย้ง