วายุภักษ์ฯ ประคองดัชนี
ดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยขณะนี้ พิจารณาจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,420–1,485 จุด
ดูสถานการณ์ตลาดหุ้นไทยขณะนี้
พิจารณาจากปัจจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศแล้ว
ดัชนีตลาดหุ้นไทยน่าจะแกว่งตัวไซด์เวย์ในกรอบ 1,420–1,485 จุด
แต่หากดูจากกราฟ ที่เป็นสัญญาณทางเทคนิค เหมือนจะบ่งบอกว่า น่าจะเป็นไซด์เวย์ดาวน์มากกว่าไซด์เวย์อัพ และมีแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,425 จุด
ส่วนความหวังของหุ้นไทยที่ฝากไว้ทั้งกองทุนวายุภักษ์ฯ และ Thai ESG นั้น
เพื่อดันดัชนีไปให้ถึง 1,500 จุด
น่าจะเป็นแค่ความฝัน…
เพราะทางวายุภักษ์ฯ อย่างที่รับทราบกันไปแล้วว่า เขาไม่ได้เข้ามาเพื่อไล่ดันดัชนี หรือไล่ราคาหุ้นเป้าหมาย
ทว่า เป็นรูปแบบการลงทุนเชิง “ตั้งรับ” เป็นหลัก
หรือ หากหุ้นเป้าหมายที่มีเกณฑ์ต่าง ๆ เช่น มาร์เก็ตแคป แนวโน้มผลประกอบการ หุ้นมีสภาพคล่อง และราคา (เป้าหมาย) ตามกองทุนวางไว้
ทางวายุภักษ์ถึงจะเข้าไปซื้อ
สัปดาห์ก่อน ได้เขียนไปว่า เมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมาว่า มีนักลงทุนสถาบันขายตราสารหนี้ออกมาเกือบ 3 หมื่นล้านบาท
และคาดกันว่าน่าจะเป็นวายุภักษ์ขายออก เพื่อเตรียมเงินเก็บหุ้นไทย
ซึ่งก็น่าจะเป็นไปตามที่คาดกัน
เพราะหากนับจากวันที่ 2 ธันวาคม 2567 เป็นต้นมาจนถึงวานนี้ (11 ธ.ค.)
นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิมาโดยตลอด หรือ 7 วันทำการติดต่อกัน รวมกว่า 1.1 หมื่นล้านบาท
เข้าใจว่าเวลาวายุภักษ์ฯ เข้าไปรับหุ้นนั้น
น่าจะระวังพอสมควรกับแรงเทขายของนักลงทุนต่างประเทศที่ยังเทขายออกมาแบบแทบจะไม่มีวันพัก
เพราะย้อนกลับไปดูการซื้อขายของต่างชาติ 30 วันที่ผ่านมา
ขายหุ้นไทยออกมากว่า 2.6 หมื่นล้านบาท
และยังถูกคาดการณ์ว่า ต่างชาติจะยังขายออกมาอีกต่อเนื่อง
เงินบนหน้าตัก หรือกระสุนที่มีอยู่ของวายุภักษ์ฯ จึงต้องใช้อย่างมีประสิทธิภาพ พลาดพลั้งไม่ได้
แต่จะให้มาถือเงินสดไว้เฉย ๆ หรือไปพักในตลาดบอนด์นานมากเกินไป ก็อาจทำให้ผลตอบแทนที่บอกไว้ว่าจะไม่ต่ำกว่า 3% และไม่เกิน 9% อาจจะมีปัญหาได้เช่นกัน
นี่คือความยากของการจัดสรรเงินลงทุนของวายุภักษ์ฯ
ส่วนเรื่องกองทุน Thai ESG ที่คาดกันว่าจะมีเม็ดเงินเข้ามากว่า 2 หมื่นล้านบาทในช่วงปลายปีนี้
ยังต้องลุ้นจะเข้ามาถึงตามที่คาดกันไว้หรือไม่
เพราะแม้ว่า TESG จะให้สิทธิลดหย่อนภาษีมากกว่า SSF
ทว่า กองทุน SSF กลับให้ผลตอบแทนสูงกว่าค่อนข้างมาก เพราะส่วนใหญ่ไปลงทุนต่างประเทศ เช่น สหรัฐฯ
นั่นทำให้คนรุ่นใหม่ อาจใส่เงินไปยัง SSF เป็นหลักมากกว่า TESG
สำหรับ SSF อยู่ระหว่างที่สมาคม บลจ. ไปหารือกับสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อไปหารือกับทางคลัง เพื่อขอต่ออายุกองทุน SSF หลังจากอายุจะหมดลงในเร็ววันนี้
ท่ามกลางกระแสข่าวว่า คลังอาจจะไม่ให้ต่อ อาจด้วยเหตุผล SSF จะไปลงทุนหุ้นต่างประเทศเป็นส่วนใหญ่
ความหวังเกี่ยวกับเงิน TESG ที่จะเข้ามาจึงถูกหวังแบบเบาบางลง
ตอนนี้คงเหลือแค่วายุภักษ์ฯ เท่านั้น
ที่จะเข้ามาช่วยประคองดัชนีหุ้นไทย
ธนะชัย ณ นคร