เรื่องตลก 67
ในที่สุดกลุ่มต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร และพวกเจ้าเก่า นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็สบช่องเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร
ในที่สุดกลุ่มต่อต้าน ทักษิณ ชินวัตร และพวกเจ้าเก่า นำโดย นายสนธิ ลิ้มทองกุล ก็สบช่องเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ด้วยสาเหตุเรื่องที่พรรคพลังประชารัฐเอามาเป็นประเด็นใหม่ล่าสุดนั่นคือ การที่อ้างว่าไทยอาจจะเสียดินแดนเกาะกูดให้กัมพูชาใน MOU ปี 2544 พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลไทยยกเลิก MOU ดังกล่าว
ทั้ง ๆ ที่ประเด็นหลักของข้อตกลงดังกล่าวมีเนื้อหาว่าด้วยความร่วมมือในการสำรวจและขุดเจาะหาก๊าซธรรมชาติและน้ำมันในเขตทำการพัฒนาร่วม (Joint Development Area)
ข้อกล่าวหาว่าขายชาติขายแผ่นดินทำให้นายสนธิและพวกในนามพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยฉกฉวยโอกาสทองยื่นคำขาดให้รัฐบาลดำเนินการยกเลิก MOU ภายใน 15 วันไม่อย่างนั้นจะจัดม็อบลงถนนอย่างแน่นอน ประเด็นนี้ทำเอาการเมืองร้อนระอุขึ้นมาทันควันทั้งที่ข้อกล่าวหาของนายสนธินั้น ไม่มีน้ำหนักและความคุ้มค่ามากพอให้น่าคำนึงถึงแต่อย่างใด
ประเด็นสาระก็คือ MOU ดังกล่าวเริ่มขึ้นจากฝ่ายไทยเพื่อเสนอผลประโยชน์ที่เท่าเทียมกันบนพื้นที่ทำการพัฒนาร่วม (JDA) ซึ่งมีประเด็นที่อาจจะเกี่ยวข้องกับความเปราะบางของอธิปไตยไทย แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าไม่ได้เสียหายอะไรเลย เพราะหากมีการค้นพบทรัพยากรในพื้นที่นั้นจริง คนที่ได้ผลประโยชน์มากมายคือบริษัท ปตท.สผ. (PTTEP) ซึ่งเป็นผู้ได้รับสัมปทานจากความชำนาญงานมากที่สุดในการขุดเจาะสำรวจผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมในอ่าวไทย
ข้อเท็จจริงดังกล่าวนี้เป็นที่ทราบกันดีทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชา การจะยกเลิก MOU ผู้ที่ได้รับความเสียหายจะเป็นประเทศไทยเอง
เท่ากับว่างานนี้ฝ่ายที่เรียกร้องให้ยกเลิก MOU คือผู้ร้ายตัวจริง
ข้อเรียกร้องที่ขึงขังของนายสนธิ จึงเป็นข้อเรียกร้องที่เปล่าประโยชน์และทำร้ายประเทศชาติมากกว่าการปล่อยให้ MOU ดำเนินต่อไป ที่สำคัญเวลาผ่านมา 23 ปี ยังไม่มีใครยกเอาประเด็นนี้มากล่าวหาว่าเป็นเรื่องขายชาติแต่อย่างใด
คงเป็นเรื่องตลกพอสมควรหากรัฐบาลจะพังพินาศไปเพราะข้อกล่าวหาที่แฝงเจตนามุ่งร้ายต่อประเทศของนายสนธิและพวกที่หยิบเอาประเด็นเล็ก ๆ น้อย ๆ เรื่องเสียดินแดน ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่ได้เกิดขึ้นตามข้อกล่าวหาเลยแม้แต่น้อย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่ารัฐบาลจะตกหลุมพรางเล่นตามเกมของกลุ่มนายสนธิมากน้อยแค่ไหน
วิษณุ โชลิตกุล