สังคมข่าวหุ้น

ฟันธงไปเลยว่า สิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะปิดต่ำกว่า 1,500 จุด เพราะยังหาปัจจัยเข้ามาช่วยสนับสนุนแบบแรง ๆ ไม่เจอ


ฟันธงไปเลยว่า สิ้นปีนี้ดัชนีหุ้นไทยจะปิดต่ำกว่า 1,500 จุด เพราะยังหาปัจจัยเข้ามาช่วยสนับสนุนแบบแรง ๆ ไม่เจอ ส่วนกรณีของธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด นั้น หากปรับลดดอกเบี้ยนโยบายลงมาอีก ก็ไม่น่าจะช่วยดันหุ้นไทยได้มากนัก ส่วนภายในประเทศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจยังมองไม่เห็นเช่นกัน คือ ไม่เด่นหรือมีอิมแพคพอที่จะดันดัชนีได้

กองทุนวายุภักษ์ฯ อย่างที่รับทราบกันดี เข้ามาเพื่อประคองดัชนีไม่ให้หลุด 1,400 จุด ส่วนกองทุน Thai ESG เม็ดเงินอาจจะเข้ามาไม่ถึง 2 หมื่นล้านบาทในช่วงปลายปีนี้ หรือหากเข้ามาถึงจริง ๆ รูปแบบการลงทุนของ TESG จะคล้ายกับวายุภักษ์ คือ เน้นเชิงรับมากกว่าจะเข้ามาไล่ราคาหุ้น ขณะที่วินโดว์เดรสซิ่ง หากดึงราคา อาจเป็นช่องให้ต่างชาติสาดหุ้นออกมาก็ได้

แบงก์ทหารไทยธนชาต TTB ช่วงราคาลงมาต่ำกว่า 1.80 บาท เป็นจังหวะของการเข้าเก็บที่ดี ส่วนวานนี้ราคาถูกดันขึ้นมาแล้ว น่าจะรับมาตรการแก้หนี้ครัวเรือน เพราะ TTB น่าจะได้รับประโยชน์ ส่วนสัญญาณทางเทคนิค ราคาหุ้นยังมีโอกาสไปต่อได้ แนวต้านทางจิตวิทยาคือ 1.90 บาท ส่วนทางเทคนิคอยู่ที่ 1.87 บาท สำหรับ TTB ยังเป็นหุ้นแบงก์ที่มีอัตราการจ่ายเงินปันผลน่าสนใจ ยีลด์เฉลี่ยต่อปี 5.6-5.7%

เอสซีบี เอกซ์ SCB เป็นอีกหุ้นแบงก์ที่ต้องมาลุ้นกันว่าจะผ่านแนวต้าน 118 บาท ได้หรือเปล่า เพราะหากผ่านขึ้นมาได้ มีโอกาสจะไปถึง 120 บาท หรือ 119.50 บาท แต่อยากจะบอกว่า หากราคาขึ้นมาที่ใกล้ ๆ 120 บาท จริง ไม่ควรตามแล้วละ เพราะนั่นคือเขต “ขาย” ของคนที่มีต้นทุนต่ำ จึงไม่ควรเข้าไปรับ และน่าจะรอราคาย่อตัวลงมาต่ำกว่า 118 บาท หรือที่ระดับ 115 บาท

ล่าสุดศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) วันที่ 18 ธ.ค. 2567 มีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.25% และมติจะไม่เป็นเอกฉันท์ หลังจากในการประชุมเดือน ต.ค. ที่ผ่านมา กนง. มีมติปรับลดดอกเบี้ยที่ 0.25% ไปแล้ว นี่ก็น่าจะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มแบงก์ ส่วนเหตุผลนั้น กนง.น่าจะมองว่าการปรับลดดอกเบี้ยดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ในระดับที่เป็นกลางและสอดคล้องกับความเสี่ยงด้านเศรษฐกิจ เงินเฟ้อ และเสถียรภาพการเงิน ส่วนปี 2568 กนง. อาจปรับลดดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มอีก 2 ครั้ง

เดลต้าฯ DELTA หลุดจากการใช้บัญชีแคชลาบานซ์ วานนี้ (12 ธ.ค.) วันแรก ส่งผลราคาหุ้นซิ่งตั้งแต่เปิดตลาดภาคเช้า ขึ้นไปสูงสุด 161 บาท และมาปิด 155.50 บาท +4.50 บาท เปลี่ยนแปลง +2.98% มูลค่าการซื้อขายกว่า 4,408 ล้านบาท มากเป็นอันดับ 1 แต่การพุ่งขึ้นของหุ้นเดลต้าฯ ยังไม่สามารถดึงดัชนีขึ้นมาในแดนบวกได้ เพราะมีแรงเทขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มกัลฟ์ฯ ออกมา ทั้ง GULF ADVANC INTUCH รวมถึง THCOM แต่หากวันไหนที่ทั้งกลุ่มกัลฟ์ฯ และเดลต้าฯ บวกพร้อมกัน วันนั้นปู่เซตเขียวตลอดวันแน่นอน ตอนนี้หุ้นไทยเหมือนฝากผีฝากไข้ไว้กับกลุ่มกัลฟ์ และเดลต้าฯ นี่แหละ

แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยปี 2567 ยังคงเป็นของ สารัชถ์ รัตนาวะดี รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) เป็นการครองบัลลังก์แชมป์เศรษฐีหุ้นไทยเป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน หุ้นที่สารัชถ์ถือครองในปีนี้มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 240,341.89 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 49,513.84 ล้านบาท หรือ 25.95% ส่วนหุ้นที่ถือครอง เช่น GULF สัดส่วน 35.81%, บมจ.ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น (ITC) ผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงที่เป็นบริษัทลูกของไทยยูเนี่ยน 0.67% และ บมจ.ร็อคเทค โกลบอล (ROCTEC) บริษัทในเครือบีทีเอส กรุ๊ป ที่ให้บริการด้านงานระบบครบวงจร 4.89%

คาเฟอีน

Back to top button