พาราสาวะถี

ท่วงทำนองในการตอบคำถามสื่อของ แพทองธาร ยิ่งนานวันจะเห็นได้ถึงความจัดเจนมากขึ้น วันวานนักข่าวถามเรื่องที่ กกต.ให้ไปชี้แจงกรณีมีการร้อง ทักษิณ


ท่วงทำนองในการตอบคำถามสื่อของ แพทองธาร ชินวัตร ยิ่งนานวันจะเห็นได้ถึงความจัดเจนที่มีมากขึ้น วันวานนักข่าวถามถึงเรื่องที่ กกต.ส่งหนังสือเชิญในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ไปชี้แจงกรณีมีการร้อง ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือยัง มีการบอกนักข่าวว่า ได้ยินมาเหมือนกัน แต่ยังไม่ได้รับ พอถามต่อว่าถ้าได้รับแล้วจะไปชี้แจงด้วยตัวเองหรือจะส่งตัวแทนไป มีการหันมาถามนักข่าวว่า “หนังสือว่าอย่างไร” พอบอกว่าเชิญหัวหน้าพรรคไปชี้แจง มีคำตอบสั้น ๆ ว่า “อ๋อ” ก่อนจะเดินขึ้นตึกไทยคู่ฟ้าไปทันที

ไม่ได้เป็นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ แต่ไม่จำเป็นที่จะต้องตอบ เพราะอีกด้าน อิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต.ก็ยังเล่นแง่ กับการถูกถามว่าทักษิณจำเป็นที่จะต้องมาชี้แจงด้วยตนเองหรือไม่ว่า กกต.ไม่ได้มีอำนาจในการที่จะสั่งว่าให้ต้องมาให้ข้อมูล แต่เห็นว่าการให้ข้อมูลจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ถูกร้อง รวมถึงพรรคการเมือง คำตอบในทำนองนี้ตีความได้หลายทาง ไม่มีอำนาจสั่งหรือไม่เชิญมาให้ข้อมูล ถ้าเป็นอย่างหลังมันก็จะทะแม่งยังไงชอบกล

แต่ด้วยบริบททางการเมืองที่เปลี่ยนไปมากไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจเผด็จการและขบวนการสืบทอดอำนาจ จึงทำให้มองกันว่า กระบวนการพิจารณาจึงต้องเป็นไปด้วยความรอบคอบ รัดกุม ไม่ได้ดูเพียงข้อกฎหมายเพียงอย่างเดียว หากแต่ต้องอ่านทิศทางลมด้วยว่าสถานการณ์เวลานี้เป็นไปแบบไหน หากดูจากปมร้องเรียนอดีตนายกฯ ที่บรรดานักร้องพากันรุมสหบาทานั้น เริ่มมีการตีตกยกคำร้องอยู่เนือง ๆ ส่วนใหญ่จะเป็นไปในทำนอง มีแค่การกล่าวหาแต่ยังห่างไกลความเป็นจริง หรือไม่มีพยาน หลักฐานที่จะเอาผิดได้

เช่นเดียวกันกับกรณี ป.ป.ช.มีมติตั้งกรรมการไต่สวนเอาผิดในคำร้องที่ให้มีการเอาผิด สหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พลตำรวจโท ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรวม 12 คน จากการส่งตัวทักษิณจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ไปรักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ และอยู่รักษาที่โรงพยาบาลตำรวจจนกระทั่งครบ 180 วันนั้น พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ถึงขนาดยินดีที่เรื่องนี้จะได้เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบที่ถูกต้อง

เพราะที่ผ่านมามีแต่การกล่าวหา โจมตีกันไปมาโดยไม่มีหลักฐานใดมาแสดง ไม่เพียงแต่จะดีใจที่ทางผู้ถูกกล่าวหาจะได้นำเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.โดยเฉพาะเวชระเบียนที่มีการเรียกร้องกันมาก่อนหน้า รัฐมนตรียุติธรรมยังเชิญชวนฝ่ายที่ตั้งข้อกังขาทั้งหลาย หากมีพยาน หลักฐานอื่นที่มากไปกว่าทางฝ่ายผู้ถูกกล่าวหามี สามารถไปยื่นให้ ป.ป.ช.ใช้ประกอบการตรวจสอบ และตัดสินได้ ไม่ใช่เรื่องการท้าทาย แต่ทั้งหมดเป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรม เมื่อทำกันอย่างตรงไปตรงมา ทุกฝ่ายจะได้สิ้นข้อสงสัย

๑๑ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาที่จะมานั่งรอให้กระบวนการตรวจสอบจากการถูกร้องเรียนต่าง ๆ ให้มีข้อยุติเสียก่อน จึงจะทำงานได้ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญยกคำร้องปมครอบงำรัฐบาล และเพื่อไทยไปแล้ว เหมือนเป็นการติดปีกให้แพทองธารพร้อมคณะได้เดินหน้าทำงานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะการขับเคลื่อนนโยบายด้านเศรษฐกิจที่หวังให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ขณะที่การสร้างความเชื่อมั่นให้กับต่างชาตินั้น นอกเหนือจากการบินไปต่างประเทศตามคำเชิญหรือวาระการประชุมที่กำหนดไว้ของแพทองธารแล้ว ความเคลื่อนไหวของทักษิณในประเทศก็ช่วยเรียกความมั่นใจจากต่างชาติได้ไม่น้อย

นั่นเป็นเพราะความสำเร็จจากการเป็นผู้นำประเทศในอดีตที่ผ่านมา รวมไปถึงวิสัยทัศน์ในเรื่องต่าง ๆ ที่ล้วนได้รับการยอมรับ หากประเทศไทยสามารถขับเคลื่อนได้ตามแนวทางที่มีการนำเสนอ นักลงทุนย่อมมั่นใจ พร้อมที่จะมาลงทุนมากขึ้น การได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาส่วนตัวประธานอาเซียนในปี 2568 ยิ่งจะช่วยสร้างมุมด้านบวกให้กับประเทศ รวมไปถึงตัวนายกฯ ด้วย ความเป็นพ่อลูกหากไม่ใช้ปมครอบงำมาเป็นเครื่องมือโจมตีทางการเมือง ข้อเสนอแนะที่ผ่านการแลกเปลี่ยนย่อมสร้างประโยชน์ได้มหาศาล

วันนี้ หากไปถามทักษิณเชื่อว่ามีความภูมิใจและพอใจกับการถูกเรียกว่า พ่อนายกฯ เป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่การสามารถชี้แนะ ให้คำปรึกษา และเชื่อว่าหลายอย่างลูกสาวจะนำไปดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมเท่านั้น แต่ยังได้เห็นพัฒนาการ ศักยภาพในการบริหาร วิสัยทัศน์ ความมั่นใจในตัวเอง และการรับมือต่อกรกับสถานการณ์ทางการเมืองได้เป็นอย่างดีด้วย หลายเรื่องคนใกล้ชิดบอกว่านายใหญ่ยอมรับความสามารถของอุ๊งอิ๊งว่าตอบคำถามและแก้ไขสถานการณ์ได้ดีกว่าตนเองในอดีตเสียด้วยซ้ำไป 

มีความอ่อนนอกแข็งใน บางเรื่องไม่คิดว่าจะตัดสินใจได้เด็ดขาดขนาดนั้น ส่วนหนึ่งคงเป็นเพราะได้เรียนรู้วิธีการในฐานะคนเบื้องหลังของผู้เป็นแม่มาเป็นอย่างดี ไม่จำเป็นที่จะต้องกระโตกกระตาก รวบรวมข้อมูลให้ได้มากที่สุด แล้วตัดสินใจตูมเดียวให้จบ ด้วยวิธีการเช่นนี้ ทำให้บรรดานักการเมืองเขี้ยวลากดินในพรรคยังยอมสยบ ท่ามกลางกระแสดิสเครดิตว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ถึงปี ไม่มีทางบริหารไปจนครบวาระ แต่ภายในพรรคนายใหญ่กลับมองไปถึงการสร้างอนาคตที่เชื่อว่าจะอยู่กันแบบยาว ๆ

ปัจจัยความเสี่ยงทางการเมืองว่าด้วยการปลุกระดม สร้างความเกลียดชังระบอบทักษิณนั้น บอกคำเดียวเลิกคิดไปได้เลย โอกาสที่จะถูกยึดอำนาจคงไม่มีใครกล้าการันตีว่าจะไม่เกิดขึ้น แต่มีความเป็นไปได้น้อยมาก ตามที่นายใหญ่เคยพูดไว้ ภัยต่อความมั่นคงที่ฝ่ายกองทัพเคยถูกฝังหัวมาก่อนหน้านั้น หลังการบริหารประเทศของเผด็จการ คสช. ทำให้เห็นสภาพปัญหา และความน่ากังวลว่าต้องจัดวางลำดับเรื่องไหนกันก่อนหลัง นั่นจึงทำให้ทักษิณกลับมาเป็นผู้ถูกเลือก พร้อมเหล่ารัฐบาลพลิกขั้ว หากไม่มืดบอดหรืออยากเป็นใหญ่ย่อมเข้าใจสภาพความเป็นจริง

วันนี้ (19 ธันวาคม) ธรรมนัส พรหมเผ่า จะยกก๊วน 20 สส.เข้าสังกัดพรรคกล้าธรรมอย่างเป็นทางการ ก็เป็นอีกหนึ่งหลักฐานที่ช่วยยืนยัน การเมืองข้างหน้าจะเดินกันแบบไหน ประเภทที่ไปดูดเอา สส.หรือบีบให้มีการยุบพรรค ย้ายพรรคมาสังกัดเหมือนคราวไทยรักไทย หรือแม้แต่ยุคเผด็จการ คสช.จะสืบทอดอำนาจจะไม่มีให้เห็นอีกแล้ว พรรคเกิดใหม่หรือที่มีอยู่เดิมล้วนแต่จะแสดงตัวเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับเพื่อไทย ไม่ตั้งตนเป็นศัตรู เพราะโอกาสจะได้กลับมาจับมือตั้งรัฐบาลร่วมกันอีกสมัยนั้นมีสูงเป็นอย่างยิ่ง

อรชุน

Back to top button