การลงทุน AI ภูมิภาคอาเซียน

ขณะที่ผู้นำด้านปัญญาประดิษฐ์ (AI) อย่าง Nvidia และ Microsoft กำลังให้ความสำคัญกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยทุ่มเงินลงทุนมูลค่ากว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อบริการคลาวด์และศูนย์ข้อมูล เพื่อรองรับความต้องการของคนรุ่นใหม่ ที่สนใจการสตรีมวิดีโอ การช้อปปิ้งออนไลน์ และ AI

อย่างไรก็ตามบริษัทสตาร์ทอัพในภูมิภาค กลับยังไม่ประสบความสำเร็จจากกระแสนี้เท่าที่ควร..!?

โดยนักลงทุนไม่กล้าทุ่มเงินให้บริษัท AI ในภูมิภาค เนื่องจากมองว่าภูมิภาคนี้ยังไม่มีบริษัทใดที่เติบโตแบบก้าวหน้ามากนัก ข้อมูลจาก Preqin ระบุว่าปีนี้การลงทุนบริษัท AI สตาร์ทอัพในภูมิภาค มีมูลค่าเพียง 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากข้อตกลงเพียง 122 รายการ

ขณะที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก มีการลงทุนสูงถึง 20,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐและข้อตกลงถึง 1,845 รายการ ความแตกต่างนี้ได้สร้างความสงสัยเกี่ยวกับความสามารถของภูมิภาคในการสร้างภาคธุรกิจเอกชนและแข่งขันกับสหรัฐฯ และจีน ที่เป็นผู้นำด้าน AI ของโลก ส่งผลให้ศักยภาพการเติบโตของภาคเทคโนโลยีในภูมิภาคต้องชะลอตัวลง

สำหรับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีบริษัท AI สตาร์ทอัพกว่า 2,000 แห่ง มากกว่าเกาหลีใต้ และใกล้เคียงกับญี่ปุ่นและเยอรมนี ขณะที่สิงคโปร์ เป็นศูนย์กลางธุรกิจหลักของภูมิภาค อยู่อันดับ 3 ในดัชนี AI ระดับโลก

แต่ภูมิภาคนี้มีความหลากหลายทั้งด้านวัฒนธรรมและเศรษฐกิจในประเทศต่าง ๆ ทำให้การขยายผลิตภัณฑ์และบริการในวงกว้าง ทำได้ยากขึ้น จึงกลายเป็นคำถามจากนักลงทุนว่า..

บริษัทท้องถิ่นจะสามารถแข่งขันในเวทีระดับโลกได้หรือไม่..!?

สำหรับนักลงทุนด้าน AI กำลังมองหาโมเดลพื้นฐานที่รองรับบริการต่าง ๆ รวมถึงวิศวกรรมซอฟต์แวร์ที่จำเป็นสำหรับการฝึกฝนและปรับปรุงโมเดลและฮาร์ดแวร์ที่สนับสนุนการทำงาน โดย Sang Han หุ้นส่วนจาก East Ventures บ่งชี้ว่าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ “ยังไม่มีสิ่งเหล่านี้” ในบริษัทขนาดใหญ่ 

Kelvin Lee ผู้ก่อตั้งร่วมของแพลตฟอร์มการลงทุน Alta กล่าวว่า รัฐบาลต่าง ๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำเป็นต้องทำงานร่วมกันมากขึ้น เนื่องจากการพัฒนา AI ของแต่ละประเทศ มีเป้าหมายแตกต่างกันไป ทำให้ยากที่จะบรรลุความสำเร็จในระดับภูมิภาค

อย่างไรก็ดีศักยภาพของภูมิภาคนี้ไม่สามารถละเลยได้ เนื่องจากเศรษฐกิจดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของรายได้และกำไร เนื่องจากชนชั้นกลางมีรายได้เพิ่มขึ้นและการใช้งานมือถือและอินเทอร์เน็ตแพร่หลายขึ้น นอกจากนี้ภูมิภาคนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ และจีนมากนัก

ดังนั้นโอกาสของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้าน AI อาจอยู่ในช่วงแรกของห่วงโซ่ เช่น การรวบรวมและจัดระเบียบข้อมูลขนาดใหญ่ ตามที่ Weisheng Neo หุ้นส่วนจากบริษัทร่วมลงทุน Qualgro โดยมี SoftBank Group ที่ใช้ข้อมูลการฝึกโมเดลภาษาขนาดใหญ่เฉพาะภาคของตัวเองและเพิ่มเครื่องมือ AI เช่น การประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP)

เฉกเช่นอินโดนีเซีย Alpha JWC ร่วมมือกับ Pijar Foundation ในการสร้างแซนด์บ็อกซ์ เพื่อช่วยเชื่อมโยงบุคลากรที่มีพรสวรรค์และสตาร์ทอัพ AI รุ่นใหม่ เข้ากับบริษัทใหญ่ ๆ ของประเทศ ทำให้ช่วยเพิ่มความหวังให้กลุ่มสตาร์ทอัพท้องถิ่นในการจับกระแส AI ได้

นับจากนี้..น่าติดตามอย่างใกล้ชิดว่าการลงทุนด้าน AI ภูมิภาคอาเซียน จะเดินหน้าต่ออย่างไร..!!??