ว่าด้วยเรื่องธรรมาภิบาลบริษัท 2 เจ้าสัว (จบ)
ขณะที่กลุ่ม ThaiBev ของตระกูลสิริวัฒนภักดี ก็มีอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดีที่แสดงออกมาให้เห็น คือโครงการ One Bangkok ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นานนี้
ขณะที่กลุ่ม ThaiBev ของตระกูลสิริวัฒนภักดี ก็มีอีกหนึ่งตัวอย่างที่ดี ที่แสดงออกมาให้เห็น กล่าวคือโครงการยักษ์ใหญ่ One Bangkok ที่เพิ่งเปิดตัวกันไปไม่นานนี้ มีมูลค่าการลงทุนกว่า 1.2 แสนล้านบาท และต้องใช้เวลาก่อสร้างมากกว่า 6 ปีในการพัฒนาโครงการนี้
เบื้องต้นมีการประเมินว่า จะต้องเผชิญกับการขาดทุนช่วงระยะเเรก (Operating Loss) และภาระดอกเบี้ยมหาศาลในช่วงเริ่มต้น
หากกลุ่ม ThaiBev เลือกใช้บริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น อาทิ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC, บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC, บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) หรือ THBEV เข้ามาร่วมถือหุ้น เพื่อแบ่งรับ หรือบรรเทา ผลขาดทุน ก็ย่อมทำได้ อย่างไม่มีปัญหา
“แต่เขาไม่ทำ”!!
เนื่องจากโครงการยักษ์ (One Bangkok) นี้จะมีผลกระทบและเป็นภาระต่อผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนเหล่านั้น และสร้างความกังวลให้กับผู้ถือหุ้น ถ้าหากมีการเข้าไปถือหุ้น
จึงทำให้กลุ่ม ThaiBev ตัดสินใจใช้ บริษัท ทีซีซี แอสเซ็ทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เข้ามาถือหุ้นมากถึง 80.2% ซึ่งเป็นบริษัทส่วนตัว ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นผู้ถือหุ้นหลักในโครงการใหญ่มหึมานี้
ด้านผู้ถือหุ้นส่วน (น้อย) ที่เหลืออีก 19.2% ของโครงการ One Bangkok นั้น ถือหุ้นโดย บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ โฮลดิ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Frasers Property ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ สิงคโปร์
ตามมาตรฐานบัญชีจะไม่ต้องรับรู้ส่วนขาดทุนจากโครงการนี้จะรับรู้แค่เมื่อได้ปันผลที่โครงการจ่ายออกมา เพราะถือหุ้นไม่ถึง 20%
นี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงความมีจิตสำนึกที่ดีต่อผู้ถือหุ้น ที่จะไม่ผลักดัน ภาระ หรือ ความเสี่ยง ที่คาดการณ์ไม่ได้ในอนาคตมาไว้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้น โดยบังคับให้ผู้ลงทุนต้องเผชิญกับชะตากรรม
ทั้ง ๆ ที่ได้ศึกษาข้อมูลก่อนเข้าลงทุนอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว ถึงความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนสามารถรับได้ จากการลงทุน และถือเป็นการคํานึงถึงส่วนรวมอย่างแท้จริง
จากตัวอย่างของเจ้าสัวทั้ง 2 กลุ่มนี้มองว่าเป็นกรณีศึกษาของตัวอย่างที่ดี ในการพิจารณาการลงทุนและบริหารจัดการที่ยึดหลักธรรมาภิบาลเป็นสำคัญและความรับผิดชอบต่อผู้ถือหุ้นรายย่อย
แตกต่างอย่างชัดเจนกับบางกรณีที่กำลังถูกตั้งคำถามกันอยู่ในขณะนี้..!!
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้นักลงทุนรายย่อยเห็นภาพว่าด้วยเรื่องธรรมาภิบาล 2 เจ้าสัวได้เป็นอย่างดี..!??
อึ้งย้ง