PTT ราคาเริ่มฟื้น
ในด้านสัญญาณทางเทคนิคของหุ้น บมจ.ปตท.หรือ PTT กลับตัวขึ้นมามีรูปทรงกราฟคล้ายกับเป็น “วีเชฟ” (V SHAPE) หลังจากราคาลงไปลึกที่ระดับ 30.75 บาท
ในด้านสัญญาณทางเทคนิคของหุ้น บมจ.ปตท.หรือ PTT
กลับตัวขึ้นมามีรูปทรงกราฟคล้ายกับเป็น “วีเชฟ” (V SHAPE) หลังจากราคาลงไปลึกที่ระดับ 30.75 บาท เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2568 (วันนี้ราคาปิด 31.00 บาท)
ระดับราคาดังกล่าว (30.75 บาท) นับว่าต่ำสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน
ทว่าหลังจากนั้น ราคาปิดบวกได้ 2 วัน
ล่าสุดวานนี้ขึ้นไปสูงสุด 31.75 บาท แต่ลงมาปิด 31.50 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลงจากวันก่อนหน้า
ปตท. เป็นอีกหุ้นที่มีนักลงทุนถามกันเข้ามาค่อนข้างมาก
เพราะนับจากปลายเดือนตุลาคม มาถึงเดือนธันวาคม 2568 ราคาย่อตัวลงต่อเนื่อง สัญญาณทางเทคนิคไม่ดี
แนวรับทางเทคนิคที่ดูกันไว้จะอยู่บริเวณ 30.25 บาท
แต่มุมมองส่วนตัว และของนักวิเคราะห์ต่างมองเหมือนกับว่า ราคาไม่น่าจะหลุด 30.00 บาท ที่เป็นแนวรับทาง “จิตวิทยา”
แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ
การปรับขึ้นของหุ้น ปตท.ในรอบล่าสุดนี้
จะมีแนวต้านที่บริเวณ 32.50 บาท
โดยก่อนหน้านี้ หากดูจากกราฟจะพบว่า ราคาได้ดีดกลับมาที่ระดับดังกล่าว 6-7 ครั้ง
แต่ยังไม่สามารถปิดตลาดผ่านได้เลย
ต้องมาลุ้นกันว่าในทางเทคนิคของกราฟ จะผ่านได้หรือไม่
สำหรับ ปตท.ในช่วงราคาย่อตัวลงมา มีคำแนะนำว่า เหมาะสำหรับนักลงทุน “สายปันผล”
เพราะ ปตท.มีสถิติการจ่ายเงินปันผลในระดับน่าสนใจ คือ 6-7% ต่อปี จัดว่าเป็นระดับค่อนข้างสูง หากเทียบกับหุ้นขนาดใหญ่ และอยู่ในความสนใจของนักลงทุนมาโดยตลอด
หลังจากมองทิศทางกราฟ หรือสัญญาณทางเทคนิคของราคาหุ้น ปตท.
แล้วหันมามองในด้านของ Fundamental
ไตรมาส 3/2567 ปตท.มีการปรับลงมาเหลือ 16,323.6 ล้านบาท ลดลง 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 31,297.1 ล้านบาท
แต่ในช่วง 9 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ย. 2567) ปตท.มีกำไรออกมา 80,760 ล้านบาท ดีกว่าช่วงเดียวกันปี 2566 เพียงเล็กน้อย (กำไร 79,258 ล้านบาท)
กำไรที่ย่ำแย่ในไตรมาส 3 ของ ปตท. มาจากบริษัทลูกหลายแห่งมีผลประกอบการลดลง
ทั้งจากธุรกิจทั้งสำรวจและผลิตปิโตรเลียม โรงกลั่นและปิโตรเคมี ฯลฯ
แต่มีการวิเคราะห์กันว่า ไตรมาส 3/2567 อาจเป็นช่วงต่ำสุดของผลประกอบการแล้วล่ะ
ส่วนแนวโน้มไตรมาส 4 นี้ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า บรรดาบริษัทลูกทั้งหลาย น่าจะมีผลประกอบการฟื้นตัว
เช่นเดียวกับปี 2568 ที่จะฟื้นตัว หรือออกมาดีกว่า 2567
สำหรับ ปตท. นั้น Core business ปัจจุบันและเป็นแกนหลักการเติบโต เช่น ธุรกิจสำรวจฯ คือ PTTEP ที่พยายามเร่งหาแหล่งผลิตใหม่ ทั้งตะวันออกกลาง อาเซียน โดยเฉพาะพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา
ส่วนธุรกิจก๊าซฯ ผู้บริหารบอกว่าจะเน้นลดต้นทุนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน
ธุรกิจโรงกลั่นและปิโตรเคมี เน้นปรับโครงสร้าง และหาพันธมิตรเพื่อลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มความสามารถการแข่งขัน
ส่วนธุรกิจ Oil & retail หรือ OR น่าจะเติบโตไปกับความต้องการในประเทศ โดยมีประเด็นที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจ Retail คือ จะออกจากธุรกิจที่ไม่ทำกำไร
ด้านคำแนะนำของนักวิเคราะห์เกี่ยวกับการลงทุนหุ้น ปตท.
11 โบรกเกอร์แนะนำ “ซื้อ” และอีก 5 โบรกเกอร์แนะนำ “ถือ”
และไม่พบคำแนะนำในการขาย
ส่วนราคาหุ้นเป้าหมายสูงสุดอยู่ที่ 41.00 บาท
และต่ำสุด 30.00 บาท (CGSI, ล่าสุดระบุว่าอยู่ระหว่างการทบทวน)
ส่วนราคา Consensus อยู่ที่ 37.00 บาท
ธนะชัย ณ นคร