Yearbook 2025 ‘Anchors in turbulent year’

สวัสดีปีใหม่ครับ...สำหรับปี 2025 Yearbook by InnovestX ใช้ชื่อว่า “Anchors in turbulent year” เนื่องจากประเมินว่าภาพรวมการลงทุนในปี 2025 จะอยู่ในสภาพของ “ความผันผวนสูง ผลตอบแทนต่ำ”


สวัสดีปีใหม่ครับ…สำหรับปี 2025 Yearbook by InnovestX ใช้ชื่อว่า Anchors in turbulent year” เนื่องจากประเมินว่าภาพรวมการลงทุนในปี 2025 จะอยู่ในสภาพของ “ความผันผวนสูง ผลตอบแทนต่ำ” ดังนั้น InnovestX จึงประเมินว่ากลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมสำหรับปี 2025 คือ “การลงทุนแบบเก็งกำไร (Trading)” ต่างจาก ปี 2024 ที่เคยให้มุมมองว่าเป็น “A Year of Value Investing” เนื่องจากภาพรวมตลาดหุ้นที่ราคาไม่ได้ undervalue เหมือนกับช่วงต้นปี 2024 แล้ว  

InnovestX มองว่า ความท้าทายสำคัญในปี 2025 ได้แก่ 1) นโยบายด้านเศรษฐกิจและการเมืองโลกของ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีโอกาสส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในอีก 4 ปีข้างหน้า 2) ตลาดการเงินโลกจะผันผวนมากขึ้น ไปตามกระแสของข้อมูลข่าวสารที่คาดว่าจะมีความถี่เพิ่มขึ้นมาก หากพิจารณาจากพฤติกรรมของนายโดนัลด์ ทรัมป์ และนายอีลอน มัสก์ ที่มักจะใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางหลักในการสื่อสาร 3) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ แม้ว่ายังมีแนวโน้มสดใส แต่ Valuation ของหุ้นที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยแล้ว ทำให้มีโอกาสเกิดการปรับตัวลดลงได้ หากเกิดเหตุการณ์ที่ผิดคาด โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยี 

4) เศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับ 2 ปัญหาใหญ่ คือ ระดับหนี้สูง และ ผลกระทบจากภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง และ 5) ผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของนายโดนัลด์ ทรัมป์ คาดว่าจะส่งผลให้เกิด Currency war ตามมา ส่วนปัจจัยที่จะช่วยสนับสนุนตลาดการเงิน ได้แก่ นโยบายผ่อนคลายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ และ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของหลาย ๆ ประเทศ เช่น จีน เพื่อลดผลกระทบจากมาตรการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ

ส่วนภาพรวมของการลงทุนในตลาดการเงินโลกปี 2024 จัดได้ว่าเป็นปีทองของตลาดหุ้นสหรัฐฯ, ตราสารหนี้, ทองคำ และ สินทรัพย์ดิจิทัล ปัจจัยสนับสนุน คือ 1) เศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังคงเติบโตได้ดีกว่าคาด 2) ธนาคารกลางสหรัฐ เริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2022 3) ความชัดเจนของผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดย นายโดนัลด์ ทรัมป์ ชนะเลือกตั้ง ด้านตลาดหุ้นไทยยังคงไม่สดใส สะท้อนภาพนักลงทุนในประเทศยังคงขาดความเชื่อมั่นต่อตลาด หากพิจารณาจากค่าเฉลี่ยของ SET Index ที่ต่ำกว่าระดับ 1,500 จุด และ ปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันที่ลดลงเหลือประมาณ 4.5 หมื่นล้านบาท ต่ำสุดในรอบ 9 ปี นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิต่อเนื่องจากปี 2023 รวมกันกว่า 3 แสนล้านบาท แม้ว่า SET Index จะสามารถฟื้นตัวได้ดีในเดือนกันยายนก็ตาม

สำหรับการจัดสรรเงินลงทุนปี 2025  แนะนำ ลงทุนในตราสารทุนมากกว่าตราสารหนี้ เนื่องจาก แรงกดดันจากดอกเบี้ยสูงลดลง และคาดการณ์การเติบโตของผลกำไรมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แนะนำเลือกลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ จีน อินเดีย และ เวียดนาม ด้านตลาดหุ้นไทยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อน ในปี 2025 โดยมองเป้าหมาย SET Index ที่ 1,550 จุด กลุ่มอุตสาหกรรมที่คาดว่าจะให้ผลตอบแทนโดดเด่น จะเป็นกลุ่มมีการสัดส่วนรายได้ภายในประเทศสูงและเป็นกลุ่มเชิงรับ อาทิเช่น กลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม กลุ่มการแพทย์และกลุ่มพาณิชย์ สำหรับหนึ่งใน Future trend เด่นของไทยในปี 2025 คือ Data center ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจและเติบโตสูงในไทยเป็นอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา และยังคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตนั้นจะเร่งตัวขึ้นอีก กลุ่มอุตสาหกรรมที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ กลุ่มนิคมอุตสาหกรรม กลุ่มโรงไฟฟ้า และ กลุ่มสื่อสาร เป็นต้น

ทั้งนี้ InnovestX เลือก 12Top Picks 2025 โดยเชื่อว่าการกระจายพอร์ตลงทุนในหลากหลายธีมที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวจะช่วยให้นักลงทุนสามารถ Outperform ตลาดและควรให้ความสำคัญในปีหน้า โดยแนะนำ 4 ธีมการลงทุนที่น่าสนใจ ดังนี้ 1) Value Stock : AOT, BBL, CPALL 2) Dividend Stock : AP, BCP, LHHOTEL 3) Laggard Stock : BCH GPSC, HMPRO และ 4) Mid-Small Cap. Growth : AMATA, AU, INSET (นักลงทุนสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ใน Special Report : Yearbook 2025 “Anchors in turbulent year”)

สุกิจ อุดมศิริกุล

Back to top button