ถึงเวลาเคาะขวา!

ประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการเคาะขวารัว ๆ ในปีหน้าจะมีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน?


ประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของการเคาะขวารัว ๆ ในปีหน้าจะมีโอกาสเกิดขึ้นมากน้อยขนาดไหน? เพราะสิ่งที่เห็นล่าสุดมีแต่ความกังวลเกี่ยวกับทิศทางเศรษฐกิจไปทางไหน? รวมทั้งการอัดฉีดเม็ดเงินของรัฐบาลในลักษณะแจกไม่อั้น มันจะทำได้อีกนานแค่ไหน? และมันจะช่วยพลิกฟื้นเศรษฐกิจได้หรือเปล่า? ล้วนเป็นประเด็นที่ตามหลอกหลอนคนในแวดวงตลาดเงินตลาดทุนอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันนะจะบอกให้

เมื่อสถานการณ์ออกมาโทนนี้เป็นหลัก ย่อมทำให้เดี๊ยนมีเรื่องคาใจขึ้นมาในทันทีว่า วันนี้เคาะขวาทันทีดีไหม? หรือควรจะรอเคาะขวาต่อไป เพราะการขึ้นของตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์น่าจะเป็นเชิงเทคนิคมากกว่าเชิงพื้นฐาน “โมนิก้า” ถึงมองการทะยานขึ้นมาปิดที่ระดับ 1,401.46 จุด บวกไป 3.66 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นช็อตเด็ดของคนที่พร้อมลุยสุดซอยเจ้าค่ะ

ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้ โมนิก้า” ต้องเริ่มมองหาหุ้นดาวเด่นปี 68 ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อเอาไว้เป็นทางเลือกในการลงทุนระยะยาว และขอย้ำอีกครั้งว่า วันนี้ต้องโฟกัสไปยังหุ้นที่สามารถลงทุนยาวได้จริง ๆ เพื่อตัดความรำคาญเมื่อเห็นหุ้นสวิงไปมาตลอดเวลา ส่วนคนที่ถนัดเล่นสั้นเป็นชีวิตจิตใจเป็นเวลาหลายปี น่าจะไม่วอรี่อะไรแม้แต่นิดเดียว เพราะเป็นนักรบที่สามารถเอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ (เจ็บมาเยอะ เลยไม่กลัว) ไงล่ะคะ

ตัวเด่นสำหรับการเคาะขวาปีหน้าต้องพุ่งเป้าไปยัง GULF ก่อนใครเพื่อน เพราะมีผลประกอบการเป็นตัวซัพพอร์ต ซึ่งเป็นการเพิ่มแวลูให้กับตัวหุ้นอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 60 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 0.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 892 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้เล่นอย่างแน่นอน จึงอยากเสนอเป็นตัวเลือกให้กับแฟนคลับตั้งแต่วันนี้..ส่วนจะเคาะขวาเลย หรือจะรอเคาะขวา ก็ใช้ดุลพินิจกันเอาเองนะจ๊ะ

เช่นเดียวกับในรายของ AOT ทยอยปล่อยสตอรี่ออกมาเป็นระยะ และในปีหน้าก็มีทีเด็ดที่จะเอาออกมาโชว์มากมาย “โมนิก้า” จึงมองเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่นักเล่นไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาด ยิ่งมองในแง่ของราคาหุ้นช่วงต้นปีเคยขึ้นไปถึงระดับ 67 บาท แต่มาถึงวันนี้หุ้นยืนปิดเสมอตัวที่ระดับ 59.75 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 585 ล้านบาท ยิ่งทำให้เห็นความคุ้มค่าในการซื้อเก็บไว้ในพอร์ตหุ้นพะย่ะค่ะ

ส่วนในรายของหุ้นสุดเลิฟอย่าง BEM ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่พรายกระซิบของ “โมนิก้า” มักจะเม้าท์ถึงเป็นประจำเมื่อมีโอกาส และเหตุผลของการแนะนำก็มาจากประเด็นการต่อยอดเพื่อโต ซึ่งเป็นช็อตการเดิมพันที่น่าสนใจสำหรับกองเชียร์ที่ติดตามหุ้นตัวนี้มานาน แถมมองในมุมของราคาช่วงต้นปีอยู่ที่ 8.50 บาท พอถึงช่วงปลายปียืนปิดที่ระดับ 7.10 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 158 ล้านบาทแบบนี้..น่าเล่นไหม?..อิอิอิ

เมาท์ถึงเรื่องที่ต้องลุ้นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้มองยังหุ้นอาหารสุขภาพอย่าง OKJ ก็เข้าสู่วงรอบขาขึ้นรอบใหม่อย่างชัดเจน (เพราะเดินหน้าขยายสาขาเต็มตัว และในปัจจุบันผู้คนก็ใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น) จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องทำการบ้านมากนิดหนึ่งว่า การขึ้นมาปิดที่ 15.50 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 49 ล้านบาท โดยมีไฮเดิมอยู่ที่ระดับ 16.90 บาทแบบนี้..น่าสนใจไหมล่ะคะ

เช่นเดียวกับหุ้นที่น่าจะเป็นความหวังของนักเล่นในปีหน้าอย่าง JMT เพราะจุดไคลแม็กซ์ที่ทำให้หุ้นตัวนี้น่าสนใจมาจากพอร์ตลูกหนี้โตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งจะทำให้ตัวเลขรายได้และกำไรเพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงมองการขึ้นมาปิดที่ระดับ 18.30 บาท ลบไป 0.10 บาท หรือลงไป 0.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 108 ล้านบาท ยังมีแก๊ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะอย่างแน่นอนเจ้าค่ะ

ส่วนหุ้นที่กำไรนอนมาตั้งแต่หัววัน แต่ราคาหุ้นยังไม่ตอบรับเท่าที่ควรอย่าง SISB เดี๊ยนถือเป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่เหมาะต่อการลงทุนยาว ๆ (ความเป็นจริงกลับเคาะกันสั้น ๆ) จึงอยากนำเสนอเรื่องราวของหุ้นตัวนี้อีกสักหน่อย เพราะการที่หุ้นขยับก้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 30.75 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 0.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 24 ล้านบาท มันแสดงให้เห็นว่า แรงเทขายน่าจะหมดแล้ว และเพิ่มโอกาสไปต่อสวย ๆ นะตัวเอง

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button