เวลาแห่งสัจจะ กับโดนัลด์ ทรัมป์
ทรัมป์กับนโยบายขายฝันที่ชาวอเมริกันชื่นชอบ ด้วยการประกาศว่า ภายใน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เขาเข้าทำเนียบขาว สันติภาพจะคืนสู่ยูเครน
ทรัมป์กับนโยบายขายฝันที่ชาวอเมริกันชื่นชอบ ด้วยการประกาศว่า ภายใน 24 ชั่วโมงนับตั้งแต่เขาเข้าทำเนียบขาว สันติภาพจะคืนสู่ยูเครน คำประกาศดังกล่าวคงได้รับรู้กันไปแล้วว่าเป็นข้อเท็จจริงหรือคำโกหกคำโตของนักการเมืองอย่างโดนัลด์ ทรัมป์ ที่มีชื่อเสียงว่าชอบโกหกคำโตเสียจนกระทั่งกลายเป็นฉายาติดตัว
ห้วงเวลาแห่งสัจจะ (the moment of truth) ที่คนเรียกขานกันอย่างพร่ำเพรื่อดูเหมือนผ่านไปแล้วและได้พิสูจน์อะไรต่อมิอะไรเยอะแยะมาก
คำประกาศดังกล่าวทำให้คนอเมริกันรู้สึกเสียหน้าจนถึงขั้นยกเรื่องขึ้นมาเล่นงานทรัมป์หรือไม่ คงไม่ต้องต้องตั้งคำถามกันอีกแล้วเพราะคนอเมริกันที่พร้อมใจกันเทคะแนนเลือกทรัมป์เข้ามาในทำเนียบขาวคงจะต้องทำใจกล้ำกลืนฝืนทนต่อไปทั้งที่นโยบายต่างประเทศของรัฐบาลกลางอเมริกานั้นเป็นอำนาจสิทธิขาดของทำเนียบขาวนอกเหนือจากนโยบายการคลัง และการทหาร ตามรัฐธรรมนูญของสมาพันธรัฐที่รัฐบาลกลางไม่มีอำนาจมากนักในการออกกฎหมายมาบังคับใช้กับประชาชนพลเมือง
วลาดิเมียร์ ปูติน รวมทั้งนาโต้คงจะไม่ยอมรับง่าย ๆ กับเกมของทรัมป์ที่จะต้องใช้เงินงบประมาณจำนวนมากและคงจะไม่ยอมเสียหน้าให้อเมริกาสั่งการ ตามใจชอบเหมือนแต่ก่อนแล้ว
งานนี้คงได้เห็นการกลืนน้ำลายของนักการเมืองแบบทรัมป์ที่คงถูไถ ประกาศคำแก้ตัวแบบหน้าด้าน ๆ โดยไม่มีการทำอิมพีชเมนต์ (การถอดถอนประธานาธิบดีโดยรัฐสภา) เกิดขึ้นแน่เพราะพรรครีพับลิกันครองเสียงข้างมากทั้งสองสภา
ห้วงเวลาแห่งสัจจะของการเมืองแบบอเมริกันคงจะต้องดำเนินต่อไปเช่นนี้อย่างเลี่ยงไม่พ้นเพราะเราจะได้เห็นการเอียงข้างกระเท่เร่ของฝ่ายขวาอเมริกันที่ยอมกลืนน้ำลายตนเองแบบสมัยจอร์จ บุชผู้ลูกที่สร้างรอยด่างให้กับภาพลักษณ์ของอเมริกาในสายตาของชาวโลกจนถึงจุดต่ำสุดมาจากการสร้างสงครามครูเสดยุคใหม่ที่ทำร้ายชาวมุสลิมทั่วโลกมาแล้ว
วิษณุ โชลิตกุล