พาราสาวะถี

ประเดิมรับศักราชใหม่ด้วยเสียงวิจารณ์ทางการเมืองที่พุ่งเป้าเข้าใส่ ทักษิณ ชินวัตร ทั้งขาประจำและคนรุ่นใหม่ทางการเมืองไม่ว่าจะเป็น ชวน หลีกภัย หรือ รังสิมันต์ โรม แต่นั่นไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับนายใหญ่ เมื่อรับบทบาทผู้ดำเนินกลยุทธ์ทางการเมือง อยู่เบื้องหลังดูแลทุกอย่างเพื่อทำให้เสถียรภาพรัฐบาลของลูกสาวมีความมั่นคง การกลายเป็นตำบลกระสุนตกเป็นเรื่องที่ไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายใด ๆ อยู่แล้ว หากเป็นเมื่อก่อนอาจต้องหวั่นไหว ทว่ามา พ.ศ.นี้ทุกอย่างผ่านการเสริมใยเหล็กมาอย่างดีจึงไม่มีอะไรต้องห่วง

อาจเหมือนเป็นการดูแคลนคู่แข่งทางการเมือง หรือฝ่ายจ้องจะล้ม ซึ่งหากไม่หลอกตัวเอง หรือหลอกพวกที่เชียร์กันแบบไม่ลืมหูลืมตา ต้องเข้าใจกันตั้งแต่การเกิดรัฐบาลพลิกขั้วแล้วว่ามากันได้อย่างไร ความจริงต้องบอกว่า นับตั้งแต่ที่ทักษิณเดินทางกลับประเทศในช่วงปลายของรัฐบาลรักษาการของเผด็จการสืบทอดอำนาจ แล้วกระบวนการทุกอย่างที่ดำเนินการตั้งแต่นายใหญ่มาถึงประเทศไทย จนไปสู่การได้ไปรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ การได้รับการลดโทษ กระทั่งพักโทษ และพ้นโทษในที่สุด

ทุกอย่างบอกถึงต้นตอการเกิดขึ้นของรัฐบาลหลังการเลือกตั้งปี 2566 ได้เป็นอย่างดี แม้ว่า เศรษฐา ทวีสิน ที่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีไม่ถึงปีเต็ม แล้วมีอันต้องหล่นจากเก้าอี้ด้วยพิษของนิติสงคราม สิ่งนั้นจะไม่เกิดขึ้นกับรัฐบาล แพทองธาร ชินวัตร อย่างแน่นอน หากบอกว่าการถูกยัดเยียดว่าตระบัดสัตย์ เป็นการเทหมดหน้าตักของพรรคเพื่อไทยในสนามการเมือง การดันให้ลูกสาวคนเล็กของตระกูลชินวัตรมารับเก้าอี้ผู้นำประเทศ ยิ่งหนักข้อกว่าการตั้งรัฐบาลพลิกขั้ว

อย่ามองเพียงความเคลื่อนไหว หรือท่วงทำนองที่ขับเคลื่อนโดยทักษิณเพียงลำพัง อีกด้านอุ๊งอิ๊งยังมีแม่ คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ ที่เป็นผู้ร่วมตัดสินใจคนสำคัญต่อการเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ ทุกอย่างที่เป็นความเสี่ยง ประเด็นที่จะทำให้เกิดการสะดุดนั้น ข่าวที่ปรากฏว่านายใหญ่เจรจาต่อรอง หรือพบปะกับแกนนำพรรคโน้นพรรคนี้ ขาใหญ่ของฝ่ายนั้นฝ่ายนี้เป็นองค์ประกอบสำคัญด้านหนึ่งเพื่อความอยู่รอดของรัฐบาล แต่อีกจุดสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ การประสานอย่างไร้ร่องรอย ไม่ปรากฏเป็นข่าวของทีมหลังบ้านทำกันชนิดที่ว่าทุ่มสุดตัวเลยทีเดียว

ดังนั้น การที่ทักษิณย้ำแล้วย้ำอีกอย่างมั่นใจว่ายังไงรัฐบาลแพทองธารก็อยู่ครบเทอม จึงไม่ใช่เรื่องของการเหิมเกริม ห้าวหาญมั่นใจในศักยภาพของความสามารถในเชิงบริหาร ที่จะผลิตผลงานมัดใจให้ประชาชนสนับสนุนเหมือนในอดีตที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว แต่ทุกอย่าง ทุกด้านที่จะพุ่งเข้าใส่รัฐบาล ได้รับการยืนยันจากพลังวิเศษที่สนับสนุนไม่มีอะไรต้องกังวล เพราะโจทย์การเมืองที่รับมาก่อนตั้งรัฐบาลพลิกขั้วนั้น ไม่ได้ซับซ้อนซ่อนเงื่อนอะไร รู้อยู่แล้ว มาเพื่ออะไร

มิเช่นนั้น คงเป็นไปไม่ได้ที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้มาร่วมรัฐบาลกับเพื่อไทย ทำให้บรรดาผู้มากบารมีทั้งหลายภายในพรรคเก่าแก่ต้องยอมกล้ำกลืนฝืนทน เพราะการเมืองหลังรัฐบาลของเผด็จการ คสช.ไม่ใช่การปฏิรูปเพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ความสำเร็จที่มีเงื่อนเวลากำกับคือการจำกัดการเข้าสู่อำนาจของพรรคนายใหญ่ แต่กลายเป็นว่าอีกด้านกลับไปสร้างแรงกระแสให้เกิดพรรคทางเลือกใหม่ที่สั่นคลอนอำนาจฝ่ายอนุรักษนิยมอย่างรุนแรง

ไม่ว่าจะพลิกแพลง หาสูตรที่จะสกัดเพื่อไม่ให้พรรคที่สร้างแรงกระเพื่อมต่ออำนาจสูงสุดประสบความสำเร็จในสนามเลือกตั้งกันอย่างไร สุดท้ายก็เอาไม่อยู่ การใช้กลไกนิติสงครามเพื่อทำลายล้างนั่นเป็นเพียงส่วนหนึ่งเพื่อที่จะบอนไซ แต่ต้องมีกลไกที่จะเข้ามากุมอำนาจบริหารซึ่งเป็นที่ยอมรับของคนส่วนใหญ่ด้วย ท้ายที่สุดก็หนีไม่พ้นต้องให้คนที่พวกอนุรักษนิยมสุดโต่งเกลียดชังอย่างทักษิณ กลับเข้ามามีบทบาทในการถือธงนำ เพื่อทำให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้

จะเห็นได้ว่าโดยปกติความเป็นรัฐบาลผสม ถ้ามีเรื่องที่ขัดคอกันโดยเฉพาะประเด็นที่เป็นนโยบายหลักของพรรคแกนนำรัฐบาล มักจะอยู่ร่วมกันลำบาก ไปไม่รอด แต่กับรัฐบาลพลิกขั้วที่มีข้อตกลงแสวงจุดร่วมสงวนจุดต่าง แยกความเห็นต่างระหว่างฝ่ายนิติบัญญัติกับฝ่ายบริหารออกจากกันอย่างชัดเจน การแสดงออกของ สส.หรือสมาชิกในเรื่องข้อกฎหมาย หรือประเด็นทางการเมืองใด ๆ ก็ตาม ถือเป็นสิทธิ เสรีภาพที่ทำได้ โดยไม่ให้ล้ำเส้น หรือทำให้พรรคร่วมรัฐบาลเสียหน้าจนเกินไป

ขณะที่แกนนำซึ่งส่วนใหญ่จะสวมหัวโขนความเป็นรัฐมนตรีในรัฐบาล จะมีหน้าที่ในการปราม หรือแสดงท่วงทำนองที่ไม่ทำให้เกิดภาพของการขยายผลนำไปสู่ความขัดแย้ง จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาตลอดระยะเวลากว่า 3 เดือนเมื่อมีประเด็นทางการเมืองที่เกี่ยวกับ สส.หรือพรรคการเมืองใด จะไม่มีความเห็นเล็ดลอดออกมาจากปากของนายกฯ หญิงแม้แต่ครั้งเดียว ทุกอย่างโยนให้เป็นหน้าที่ของสภา และวิปรัฐบาลที่มีการประสานพูดคุยกันอยู่ตลอดเวลา

เพราะลูกสาวคนเล็กของนายใหญ่ถูกกำหนดให้แสดงความสามารถในการบริหาร โชว์ความเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ความเป็นผู้นำ สร้างบารมีเพื่อต่อยอดในการยืนระยะไม่ใช่แค่ครบเทอมตามระยะเวลาที่เหลืออยู่ มีการมองไปรัฐบาลอีกสมัย  เมื่อรัฐธรรมนูญยังไม่ได้แก้ไข ยังไงพรรคร่วมรัฐบาลครั้งหน้าก็ยังเป็นชุดเดียวกันกับปัจจุบัน เวลายังเหลืออีกสองปีกว่าจะมั่นใจอะไรได้ บอกแล้วว่ากลไกที่สร้างมาของขบวนการเผด็จการสืบทอดอำนาจ มันถูกล็อกให้หน้าตาของรัฐบาลต้องออกมาในลักษณะนี้ ไม่มีทางเป็นรูปแบบอื่นไปได้

เว้นเสียแต่ว่าเพื่อไทยจะสามารถสร้างผลงานจนเป็นที่ประทับใจ จนประชาชนเทคะแนนให้ชนะแบบแลนด์สไลด์ทำให้ตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้ ซึ่งเป็นไปได้ยาก เพราะคนจำนวนไม่น้อยก็กลัวจะเกิดเหตุซ้ำรอย มีเสียงมากแล้วจะเกิดการเหลิงอำนาจตามมา หรือสร้างความไม่พอใจให้กับฐานอำนาจสำคัญที่ให้การสนับสนุนอยู่ ณ ปัจจุบัน ดังนั้น ภาพของการทำงานวันนี้จึงเน้นการสร้างผลงานร่วมกัน โดยให้แพทองธารมีบทบาทนำ จะไม่มีพรรคหนึ่งพรรคใดล้ำเส้น นำสิ่งที่ทำไปเคลมเป็นผลงานของพรรคนั้นพรรคเดียวได้

อรชุน