BTSGIF หุ้นกองทุนน่าซื้อ

การที่ บลจ. บัวหลวง ในฐานะผู้จัดการกองทุน BTSGIF ประกาศลดทุนของกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางราง บีทีเอส (BTSGIF) ได้ดําเนินการลดเงินทุนจดทะเบียนของกองทุนจํานวน 1,128.66 ล้านบาท โดยลดมูลค่าหน่วยลงทุน 0.195 บาทต่อหน่วยลงทุน คงเหลือเงินทุนจดทะเบียน 44,955.40 ล้านบาท และมีมูลค่าที่ตราไว้ (NAV) ต่อหน่วยลงทุน 7.7670 บาท โดยได้ปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 และได้จ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยในวันที่ 12 ธันวาคม 2567 นั้น

บริษัทจัดการได้แจ้งให้ ก.ล.ต. ทราบว่า บริษัทจัดการได้ยื่นขอจดทะเบียนลดเงินทุนของกองทุนครั้งที่ 23 ต่อสํานักงานคณะกรรมการกํากับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2567 และสํานักงานได้รับทราบการลดเงินทุนจดทะเบียนดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2568  ยังผลให้ราคาซื้อขายหน้ากระดานของหุ้นดังกล่าวตกลงมาเหลือ 3 บาท ตั้งแต่ วันที่ 2 มกราคมเป็นต้นไป

เหตุผลที่ราคาซื้อขายต่ำกว่า NAV ถึง 50% นั้นเพราะตลาดเข้าใจได้ว่าในระยะสั้นของกองทุนบีทีเอสนั้นยังคงไม่สวยงาม แม้ว่าตลาดหุ้นครึ่งหลังของปี 67/68 บีทีเอสมีรายได้จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นกว่า 3.7% แต่รายได้กลับลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน อยู่ที่ 3,349.1 ล้านบาทและกำไรก็ลดลงตามไปด้วย

จำนวนผู้โดยสารรวมสำหรับครึ่งแรกปี 67/68 มีจำนวน 100.3 ล้านเที่ยวคน เพิ่มขึ้น 6.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

อัตราค่าโดยสารเฉลี่ยสำหรับครึ่งแรกปี 67/68 เท่ากับ 33.4 บาทต่อเที่ยวการเดินทาง ลดลง 2.4% จากงวดเดียวกัน

ของปีก่อน รายได้รวม สำหรับครึ่งแรกปี 67/68 เท่ากับ 2,050.3 ล้านบาท ลดลง 9.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

กำไรจากการลงทุนสุทธิ สำหรับครึ่งแรกปี 67/68 ลดลง 9.5%

ถึงแม้จะกลับมามีกำไรอีกครั้ง กำไรที่ถดถอยลงทำให้ในระยะสั้น กองทุน INFRA FUND ซึ่งยอมให้สิทธิพิเศษกับนักลงทุนที่ถือหุ้นไม่ต้องเสียภาษีเงินปันผลก็ตาม แต่ความเชื่อมั่นยังคงลดลง กระนั้นด้วยราคาที่ต่ำมากทำให้นักลงทุนยังคงเข้าซื้อเก็บ เพื่อรอวันฟื้นตัวของราคาหุ้นที่เคยสูงถึง 10 บาท ก่อนยุคโควิด

วิษณุ โชลิตกุล