เด้งเร็วเหมือนโกหก
วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องขยี้ตารัว ๆ เมื่อเห็นดัชนีพุ่งขึ้นพรวดพราดไปถึง 20 จุด เพราะวันก่อน ๆ ยังแสดงอาการจะกลับบ้านเก่าอยู่เลยแบบนี้
วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องขยี้ตารัว ๆ เมื่อเห็นดัชนีพุ่งขึ้นพรวดพราดไปถึง 20 จุด เพราะวันก่อน ๆ ยังแสดงอาการจะกลับบ้านเก่าอยู่เลยแบบนี้ มันทำให้อีฉันต้องหยิกเนื้อตัวเองแรง ๆ เพื่อให้รู้ว่า “ไม่ได้ฝันไป” หลังดัชนีสามารถยืนปิดที่ระดับ 1,390.88 จุด บวกไป 18.23 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.90 หมื่นล้านบาทแบบชิล ๆ พร้อมกันนั้นก็ไม่เห็นนักลงทุนรายไหนพูดถึงความกังวลที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้อีกเลยนะจ๊ะ
ที่สำคัญคือ การที่ดัชนีทะยานขึ้นแบบไม่ให้รู้เนื้อตัวตัวคราวนี้ มันมาพร้อมกับนิยามที่ว่า “เด้งเร็วเหมือนโกหก” เพราะเป็นการขึ้นที่ไม่สามารถหาเหตุผลมาประกอบได้เลย รวมทั้งผู้รู้บางท่านก็ยังยืนงงเป็นไก่ตาแตกไปพักหนึ่งเช่นกัน “โมนิก้า” ถึงพยายามย้ำกับแฟนคลับหลายครั้งว่า เที่ยวนี้เป็นการเล่นแบบ “ใจแลกใจ” เพราะสถานการณ์ตอนนี้มันค่อนไปในทาง “มันนี่เกม” มากขึ้นเรื่อย ๆ น่ะซี
เมื่อสถานการณ์ออกไปในโทนไล่หุ้นสุดซอย เพื่อให้ดัชนีกลับขึ้นไปยืนเหนือระดับ 1,400 จุด ก็เป็นจังหวะของการโหนกระแสสำหรับเหล่าผู้กล้าอย่างไม่ต้องสงสัย และเที่ยวนี้เหมือนเป็นความตั้งใจของนักลงทุนสถาบันที่พยายามปลุกตลาดหุ้นขึ้นมาอีกครั้ง..ส่วนคำถามที่ว่า เมื่อดัชนีขึ้นมายืนเหนือแนวต้านสำคัญได้สำเร็จจะเป็นอย่างไร? อีฉันก็ตอบได้ทันทีว่า ต้องดูกันเอาเอง เพราะอีฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน..อิอิอิ
ขนาดหุ้นตัวแรงของตลาดหุ้นไทยอย่าง DELTA ยังพุ่งพรวดขึ้นมาปิดที่ระดับ 152 บาท บวกไป 7 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.33 พันล้านบาทหน้าตาเฉย โดยก่อนหน้านี้มีความกังวลเกี่ยวกับบริษัทข้ามชาติถูกรีดภาษี แต่วันนี้กลับไม่หลงเหลือร่องรอยความกังวลให้เห็นอีกเลยแบบนี้ เดี๊ยนก็ต้องเชื่ออย่างบริสุทธิ์ใจว่า สถาบันคงอยากดันหุ้นกลับขึ้นไปทดสอบไฮเดิมที่ระดับ 170 บาทพะย่ะค่ะ
อีกรายที่มาแบบเนิบ ๆ และไม่กระโตกกระตากต้องยกให้ SCB เป็นที่สุดของเรื่องนี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปดูในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ราคาหุ้นยืนอยู่แถว 108 บาท แต่วันนี้หุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 120 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป1.70% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 925 ล้านบาท โดยให้รีเทิร์นสูงถึง 11% และยังมีลุ้นปันผลไม่ต่ำกว่า 4% เป็นของแถมติดปลายนวมแบบนี้..ต้องตามไปดูแล้วจ้าแม๊!
เช่นเดียวกับในรายของ TRUE ออกอาการเหมือนจะไปต่อไม่ไหว แต่สุดท้ายก็เด้งกลับขึ้นมาได้ทุกที ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ชอบเล่นสั้น เพราะโมเมนตัมของหุ้นยังไม่เสียทรงอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นประเมินข้อเท็จจริงจากยอดเด้งครั้งแรกอยู่ที่ 12.50 บาท ครั้งสองอยู่ที่ 12 บาท และครั้งสามอยู่ที่ 11.50 บาท ต่อจากนั้นประมวลผลว่า การยืนปิดที่วานนี้ที่ 11.30 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 1.80% ด้วยมูลค่า 666 ล้านบาท น่าเล่นไหม?
ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงหุ้นที่น่าเล่นขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น BTS เพื่อชี้ให้เห็นอาการ “เก้ ๆ กัง ๆ” ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ มันไม่มีความหมายอะไรทั้งสิ้น เพราะหุ้นแอบทำไฮใหม่ให้เห็นเป็นระยะ (นับตั้งแค่เปลี่ยนทิศเป็นขาขึ้น) จากก่อนหน้านี้อยู่ที่ 4.50 บาท ต่อจากนั้นเป็น 5 บาท และไล่ขึ้นมาเป็น 5.50 บาท ก่อนจะลงเอ่ยที่ 6 บาท ภายในระยะเวลา 4 เดือนแบบนี้ มันทำให้การยืนปิดที่ 6 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.55% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 502 ล้านบาท มีลุ้นไปต่อแค่ไหน?
สำหรับอีกหนึ่งตัวแรงเที่ยวนี้ “โมนิก้า” ขอมองไปที่หุ้น BCPG เป็นรายถัดมาแบบไม่ลังเลใจ เพราะเป็นหุ้นที่บวกแรงเป็นวันที่ 2 พร้อมกับยืนปิดที่ระดับ 6.45 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 12.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 200 ล้านบาท โดยไฮเก่าของเที่ยวก่อนอยู่ที่บริเวณ 7.50 บาท ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ๆ ในแง่ของคนเล่นรอบ..ส่วนใครที่คิดว่า ไม่ทันเกม ก็อยู่ให้เป็น เย็นให้ได้นะออเจ้า
คล้ายกับสถานการณ์ของ YGG ที่วานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 0.81 บาท บวกไป 0.19 บาท หรือขึ้นไป 30.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86 ล้านบาท ก็เป็นการเด้งรับข่าวผู้ถือหุ้นกลุ่มใหม่เข้ามารันธุรกิจต่อแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นข่าวดีสำหรับผู้ถือหุ้นรายย่อยอย่างแน่นอน และเมื่อเหลือบดูรายชื่อกลุ่มใหม่ทั้ง 6 รายจะเห็นว่า ไม่ธรรมดา! จึงต้องดูกันต่อไปว่า ธุรกิจจะกลับมาเฟื่องฟูดังเดิมไหม?..อิอิอิ
โมนิก้า: และทีมงาน