‘ทักษิณ ชินวัตร’ กับตลาดหุ้นไทย

บทบาททางการเมืองของ “ทักษิณ ชินวัตร” ในยามนี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “ทรงพลังยิ่งนัก” จากการเป็นผู้มีอิทธิพลนอกระบบของการที่เขาทำตัวเป็นเถ้าแก่พรรคเพื่อไทย ในการลาดตระเวนพูดกับสื่อสำนักต่าง ๆ และได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งทางลบและบวกสลับกันไป

ทำให้ชื่อของเขาไม่ห่างหายไปจากวงจรอำนาจได้ แม้จะได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทางลบจากสื่อใหญ่ ก็ไม่อาจหักล้างอิทธิพลของทักษิณลงได้

การใช้สื่ออย่างทรงพลังในสังคมที่มีระบบการเลือกตั้งเป็นเกณฑ์ เพราะสื่อที่วิจารณ์นั้นไม่อาจขับไล่เขาให้พ้นจากอำนาจได้เหมือนอย่างสมัยที่ “สนธิ ลิ้มทองกุล” เคยกระทำโดยอาศัยพลังมวลชน ที่เรียกว่า “พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย”

วันนี้ “ทักษิณ” ได้แปลงกายอยู่เหนือการเมืองในระบบ จากการที่เขาอาศัยพรรคการเมืองในรัฐสภาเพื่อดำเนินยุทธศาสตร์สู้ไปกราบไป ทำตัวเป็นผู้ชี้แนะรัฐบาลโดยไม่ต้องรับผิดชอบต่ออะไรทั้งสิ้น

บทบาทของ “ทักษิณ” ในทางการเมืองยามนี้เหลืออย่างเดียวที่ไม่ประสบความสำเร็จคือการดันราคาหุ้นในตลาดให้สูงขึ้นโดยเฉลี่ย 120% เหมือนอย่างในปี 2546 ที่เป็นภาพจำของตลาดหุ้นอย่างน่าอัศจรรย์มาแล้ว

เหตุผลเพราะเศรษฐกิจไทยยุคหลังโควิด-19 ยังเติบโตต่ำเตี้ยสุดในอาเซียน ทำให้การดันราคาหุ้นไม่สมเหตุสมผล แต่กระนั้นนักลงทุนในตลาดยังแอบเชื่อมั่นเล็ก ๆ ว่า สักวันหนึ่งเศรษฐกิจไทยอาจเติบโตได้ปีละ 8-10% เหมือนที่เคยเกิดขึ้นในปี 2545-2546 ตอนที่พรรคไทยรักไทยเข้ามาบริหารประเทศ และฟื้นคืนเศรษฐกิจไทยให้แข็งแกร่ง สามารถคืนเงินกู้ IMF จนหมดสิ้นได้ ขณะที่งบประมาณเกินดุลในประเทศหลายปีติดต่อกัน

ในขณะที่ความคาดหวังของนักลงทุน อาจจะไม่เป็นความจริงจากการที่เห็นว่า ราคาหุ้นกลุ่มธนาคาร ยังคงต่ำเตี้ยกว่า Book Value และราคาหุ้นโรงงานไฟฟ้าซึ่งมีกำไรเสถียรที่สุดยังคงต่ำต่อไป เพียงแต่โชคดีที่ตลาดทุนไทยมีทางเลือกให้นักลงทุนมากมาย

จะเห็นได้จากการลงทุนในตลาดทองคำและตลาดตราสารหนี้ยังคงคึกคักอย่างมาก

ทั้งหมดนี้คือการเล่นเก็งกำไรรอวันตลาดหุ้นฟื้นตัวและการส่งสัญญาณทางเศรษฐกิจไทยที่ดี ซึ่งคาดว่ากลุ่มทักษิณจะไม่พลาดโอกาสนี้

ความคาดหวังนี้ทำให้ตลาดหุ้นรอวันฟื้นตัวโดยมีฐานรากที่ดัชนีหุ้น 1,400 จุด

เพียงแต่ครั้งนี้ปาฏิหาริย์ที่เคยเกิดขึ้นกับ “ทักษิณ” ครั้งแรก อาจมาช้าหรือเร็วกว่าที่คิดก็ได้

วิษณุ โชลิตกุล