โลว์ใหม่ของปี 68

หากยังจำกันได้ก็จะรู้ว่า เดี๊ยนเป็นคนที่ชอบมองบวกกับตลาดหุ้นเสมอ และพยายามจะนำเสนอเรื่องราวดี ๆ ของตลาดหุ้นไทยเป็นประจำ


หากยังจำกันได้ก็จะรู้ว่า เดี๊ยนเป็นคนที่ชอบมองบวกกับตลาดหุ้นเสมอ และพยายามจะนำเสนอเรื่องราวดี ๆ ของตลาดหุ้นไทยเป็นประจำ แต่สถานการณ์ที่พลิกผันตลอดเวลาทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาบอกเล่าสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันไม่เป็นเหมือนที่อีฉันเคยประเมินไว้เลยจริง ๆ จึงต้องออกมาพูดถึงสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต และย้ำหัวหมุดกับสิ่งที่เกิดขึ้นในสภาพปัจจุบันพะย่ะค่ะ

โดยเฉพาะเรื่องของการทำโลว์ของดัชนีในช่วงที่ผ่านมา พร้อมกับการยืนปิดที่ระดับ 1,340.25 จุด ลบไป 14.09 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.65 หมื่นล้านบาท มันเหมือนเป็นการตอกย้ำให้รู้ว่า เมื่อดัชนีเสียทรงอย่างแรง ก็ยากที่จะฟื้นกลับมาได้ในเร็ววัน และมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะลงมายืนที่บริเวณ 1,300 จุดในไม่ช้า เพราะผลการดำเนินงานของบริษัทจดทะเบียนยัง “ลูกผีลูกคน” อยู่เลยน่ะซี

ที่น่าสนใจคือ ดัชนีเข้าเขตซื้อมากเกินไปมานานแล้วก็จริง แต่แรงขายก็ยังไม่แผ่วเสียทีแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่น่ากังวลสำหรับกองเชียร์อย่างอีฉัน เพราะมันแสดงให้เห็นว่า แรงซื้อที่เข้ามามันไม่ใช่ของจริง! แต่เป็นแค่การเข้ามาเล่นสั้น ๆ เพื่อรอจังหวะดีดกลับ ต่อจากนั้นก็จะขายทำกำไร ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นบ่อยมากนับตั้งแต่กลางเดือน ต.ค. ปี 67 จนวานนี้ได้เห็นของโลว์ใหม่ปี 68 แบบนี้..เดี๊ยนไม่สามารถตีความเป็นเรื่องอื่นได้จริง ๆ เจ้าค่ะ

ประเด็นข้างต้นทำให้ “โมนิก้า” ต้องเอ่ยถึงหุ้น PTT เป็นรายแรก เพราะอาการเหมือนกับสิ่งที่อีฉันเกริ่นให้ฟังตั้งแต่ตอนต้น แต่ที่เพิ่มเติมขึ้นมานิดหนึ่งก็คือ เรื่องขอลดค่าผ่านท่อที่กำลังเป็นที่โจษจัน มันกลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาอีกชุด ราคาหุ้นถึงลงมายืนปิดที่ระดับ 30.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.58 พันล้านบาท พร้อมกับทำโลว์ในรอบ 1 ปี 6 เดือนไงล่ะคะ

ส่วนรายที่ออกอาการสิ้นฤทธิ์คงต้องมองไปที่หุ้น CCET เป็นรายถัดมา หลังโดนขายหนัก ๆ ในรอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมาแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่? เพราะทำให้การยืนปิดที่ระดับ 9 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 5.26% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 997 ล้านบาท อาจไม่ใช่ราคาต่ำสุดของการลงเที่ยวนี้ และเป็นจังหวะที่ต้องชั่งใจให้ดีว่า คุ้มค่ากับการเข้าไปช้อนหุ้นไหมเอ่ย?

เช่นเดียวกับหุ้นร้อนที่ออกอาการไม่ค่อยดีอย่าง EE ก็มีประเด็นที่ทำให้ทางการเพ่งเล็งมากเป็นพิเศษในช่วงที่ผ่านมา และยังถูกสั่งให้แก้ไขงบให้เป็นไปตามมาตรฐาน ก็กลายเป็นแรงกดดันที่ทำให้การเทรดวานนี้เต็มไปด้วยแรงขาย จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 0.54 บาท ลบไป 0.09 บาท หรือลงไป 14.29% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 33 ล้านบาทแบบนี้..เดี๊ยนเลยไม่แน่ใจว่า ดีลที่เกิดกับ “นอท กองสลาก” ยังเดินหน้าอ๊ะป่าว?

ไหน ๆ ก็เม้าท์ถึงเรื่องร้อนที่ไม่รู้จะจบลงตรงไหน? เดี๊ยนขอเม้าท์ถึงหุ้น RS อีกสักครั้ง เพราะอาการเด้งดึ๋งเมื่อวันก่อน แทบไม่มีความหมายอะไรเลย เพราะวานนี้ก็โดนจัดอีกชุดแบบไม่ทันตั้งตัว จนราคาหุ้นลงมายืนปิดที่ 1.37 บาท ลบไป 0.27 บาท หรือลงไป 16.46% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 459 ล้านบาทแบบนี้ มันกลายเป็นเกมวัดดวงที่คนเล่นต้องไปเดากันเอาเองว่า มีโอกาสโดนสาดออกมาอีกไหมเจ้าคะ

เมาท์ถึงเรื่องไม่สบายใจมาขึ้นมาเยอะแล้ว “โมนิก้า” ขอเปลี่ยนอิริยาบถเม้าท์ถึงหุ้นที่มีข่าวดีรอรับเต็มประตูหน้าต่างอย่าง TEAMG กับ DITTO กันบ้างดีกว่า เพราะเป็นเจ้าเดียวที่สอดรับกับนโยบาย “ถมทะเล” กับ “คาร์บอนเครดิต” ที่รัฐบาลมีแนวคิดที่จะทำ เดี๊ยนจึงเห็นด้วยที่ราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ระดับ 2.82 บาท บวกไป 0.34 บาท หรือขึ้นไป 13.71% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 80 ล้านบาท ขณะที่รายหลังก็ยืนปิดที่ระดับ 15.10 บาท บวกไป 2.20 บาท หรือขึ้นไป 17.05% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 264 ล้านบาทพะย่ะค่ะ

เช่นเดียวกับในรายของ MEDEZE ที่มาพร้อมกับกระแสโลก ซึ่งว่าด้วยเรื่องสเต็มเซลล์ ก็เป็นหุ้นอีกตัวที่น่าสนใจมาก ๆ ในแง่ของเทรนด์ของการรักษา “โมนิก้า” ถึงมองการยืนปิดที่ระดับ 9.35 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 2.75% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 766 ล้านบาท เหมาะสมด้วยทุกประการ และมีโอกาสที่จะได้เห็นราคาหุ้นยกตัวสูงขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะผู้คนทั่วไปกำลังให้ความสนใจเรื่องนี้มากเป็นพิเศษจ้า!

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button