สังคมข่าวหุ้น

ประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหาของตลาดหุ้นไทยคือ แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศยังคงมีต่อเนื่อง แม้เหตุผลหลัก ๆ จะมาจากปัจจัยต่างประเทศ


ประเด็นที่ยังคงเป็นปัญหาของตลาดหุ้นไทยคือ แรงขายของนักลงทุนต่างประเทศ หรือ ฟันด์โฟลว์ ยังคงมีต่อเนื่อง แม้เหตุผลหลัก ๆ จะมาจากปัจจัยต่างประเทศ ซึ่งอาจจะอยู่นอกเหนือการควบคุม แต่หากหน่วยงานกำกับมีแนวทางการ “รับมือ” ที่อยู่นอกเหนือตำราและน่าจะใช้ผลได้ดี ก็ควรนำมาใช้ ไม่ใช่ปล่อยไปแบบนี้

ส่วนนักลงทุนสถาบัน หรือกองทุนต่าง ๆ และรวมถึงกองทุนรวมวายุภักษ์ ด้วยสภาพในตอนนี้ ต้องยอมรับกันว่าไม่สามารถรับมือกับแรงขายของฟันด์โฟลว์ได้ อย่างมากคงแค่ “ประคอง” ไม่ให้ดิ่งเหวไปมากกว่านี้ เพราะจะสังเกตได้ว่า ในช่วงที่กองทุนเข้ามาซื้อ แล้วราคาหุ้นวิ่งขึ้น ทางกลุ่มต่างชาติจะสบช่องขายออกทันที เท่ากับว่า โดดเข้าไปรับ “ของ” จากต่างชาติ หากเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เงินหน้าตักที่มีอยู่ รับไม่ไหวแน่ ๆ สำหรับสัดส่วนลงทุนของต่างชาติที่เหลือในขณะนี้ ยังไม่มีใครทราบแน่นอนว่าเหลือเท่าไหร่ เพราะเห็นบอกว่า “แรงขายเริ่มจำกัด” มาตั้งแต่ไตรมาส 3/2567 แต่ผ่านเข้าสู่ช่วงไตรมาส 1/2568 ฝรั่งยังขายสนุกสนาน

เดลต้าฯ DELTA ราคาร่วงลง 4 วันติดต่อกันแล้ว แนวรับแรก 138.50 บาท ไม่หลุดง่าย ๆ ช่วงวันสองวันยังแกว่งตัวอยู่บริเวณนี้ แต่สมมติหากหลุดขึ้นมาจริง ๆ ควรไปรอบริเวณ 123-124 บาท หรือชัวร์ ๆ เลยนะ เราต้องตั้งรับให้ต่ำกว่าแนวรับ นั่นคือ 118-122 บาท น่าจะปลอดภัย เพราะที่ระดับราคาดังกล่าวจะได้ พี/อี ที่ประมาณ 60-65 เท่า หรืออาจจะต่ำกว่านั้น หากผลประกอบการงวดไตรมาส 4/2567 ออกมาดี สำหรับเดลต้าฯ แม้จะเป็นหุ้นที่มีส่วนสำคัญต่อการเคลื่อนไหวดัชนี SET แต่ต้องยอมรับกันแหละว่า เดลต้าฯ เป็นหุ้นเพียงไม่กี่ตัวที่จะอยู่ในอุตสาหกรรมสมัยใหม่ หรือ “เมกะเทรนด์” ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นไทย

ช่วงดัขนี SET ผันผวน หรือไซด์เวย์ แต่สำหรับหุ้นในกลุ่มธนาคาร ทั้งหุ้นแบงก์ใหญ่ กลาง เล็ก ต่างยังมีราคา “แข็งแกร่ง” นำโดย 4 แบงก์ใหญ่ KBANK BBL SCB KTB ส่วนแบงก์กลาง เล็ก คือ TTB และ TISCO ในส่วนของทิสโก้แจ้งงบการเงินงวดไตรมาส 4/2567 ออกมาแล้ว กำไรจำนวน 1.7 พันล้านบาท เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ตอนนี้ลุ้นว่าจะปันผลที่ระดับ 5-5.50 บาท หรือเปล่า หลังจากได้ปันผลครึ่งปีไปแล้วประมาณ 2 บาท และเมื่อรวมทั้งปี อาจจะอยู่ระหว่าง 7-7.50 บาท คิดเป็นยีลด์(เทียบกับราคาปัจจุบัน) จะอยู่ประมาณ 7% กว่า ถือว่าน่าสนใจ ทำให้โบรกฯ ต่างยังแนะนำ “ถือ” และ “ซื้อ” ส่วนแบงก์ใหญ่ต้องรอสัปดาห์หน้า ว่างบการเงินจะออกมาอย่างไร แต่เชื่อกันว่า ไม่น่าจะมีอะไรที่เป็นเชิงลบ

ปิ่นสาย สุรัสวดี อธิบดีกรมสรรพากร แจ้งว่า กรมฯ ได้จัดทำรายชื่อผู้ประกอบการที่ใช้ระบบ e-Tax Invoice & e-Receipt และระบบ e-Tax Invoice by Time Stamp เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้เสียภาษีตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการได้ ตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.-28 ก.พ. 2568 ที่เว็บไซต์กรมสรรพากร www.rd.go.th หรือที่ https://etax.rd.go.th/ETAXSEARCH/normal_person.html เมื่อผู้เสียภาษีซื้อสินค้า หรือใช้บริการแล้ว ให้ขอใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ (e-Tax Invoice) หรือใบรับอิเล็กทรอนิกส์ (e-Receipt) ระบุชื่อ นามสกุล และเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร (เลขประจำตัวประชาชน) ของผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการ เพื่อความถูกต้องและครบถ้วนในการใช้สิทธิลดหย่อนภาษี

สุดท้าย CPAXT ราคาเริ่มดีดกลับ น่าจะมาจากแรงซื้อของกองทุนต่าง ๆ ที่มีการปรับพอร์ตกันไปก่อนหน้านี้ ในระยะสั้น ราคาอาจจะเคลื่อนไหวในกรอบ 25.50-28.50 บาท แต่หากผ่านแนวต้านดังกล่าวขึ้นไปได้ อาจเห็น 30 บาท เร็ว ๆ นี้อีกครั้ง แต่ระดับราคา 34-35 บาท น่าจะมีพักใหญ่ ๆ เลยละ กว่าราคาจะกลับขึ้นไปเหมือนเดิมได้ (ก่อนที่จะปรับลงหนัก)

หุ้น โรงพยาบาลพระรามเก้า PR9 ราคาวิ่งมาเรื่อย ๆ รับรายได้และกำไรเติบโตแข็งแรงมาก อย่างงวดไตรมาส 4/2567 โบรกฯ คาดกำไร 212 ล้านบาท ทำนิวไฮรายไตรมาส เพิ่มขึ้น 13% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ข่าวว่า กลุ่มผู้เข้าใช้บริการจากตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยฯ ส่งผลให้มีสัดส่วนกลุ่มผู้ใช้บริการที่เป็นชาวต่างประเทศ คิดเป็น 20% แล้ว อ้อ ข่าวว่า ปี 2567 จ่ายเงินโบนัสพนักงาน 3.5-5 เดือน เลยล่ะ!!

คาเฟอีน

Back to top button