CAZ งานสะดุด-เงินขาด.!

ยังจำไม่เคยลืมเลือนว่า ช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา หนึ่งในโครงการที่เป็นที่โจษจันมากสุด คงเป็นโครงการพลังงานสะอาด ของ TOP


ยังจำไม่เคยลืมเลือนว่า ช่วงปี 2567 ที่ผ่านมา หนึ่งในโครงการที่เป็นที่โจษจันมากสุด คงเป็นโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project : CFP) ของบริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP ซึ่งเกิดปัญหาผู้รับเหมาหลัก หรือกลุ่มบริษัท UJV (บริษัท Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd., และ Saipem Singapore Pte. Ltd.) ค้างจ่ายค่าจ้างให้ผู้รับเหมาช่วงกว่า 20 บริษัท จนเกิดการประท้วง ฟ้องร้องดำเนินคดีต่าง ๆ นานา…

ซึ่งหนึ่งในผู้รับเหมาช่วงที่ได้รับผลกระทบไปเต็ม ๆ นั่นคือ บริษัท ซี เอ แซด (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ CAZ เห็นได้จากงบไตรมาส 3/2567 ที่ต้องรับรู้ผลขาดทุนจากบริษัทย่อยอันเกิดจากโครงการก่อสร้างงานโยธา ที่อยู่ในระหว่างการดำเนินการทำสัญญางานส่วนเพิ่มจากผู้รับเหมาหลัก ส่งผลให้กำไรสุทธิลดวูบเหลือแค่ 9.11 ล้านบาท ลดลง 84.80% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 59.92 ล้านบาท

สร้างความผิดหวังให้กับนักลงทุนกันถ้วนหน้า…

นอกจากกระทบตัวเลขบรรทัดสุดท้ายในไตรมาส 3/2567 แล้ว สิ่งที่ตามมาอีกอย่างคือ ปัญหาสภาพคล่อง..!!

อย่าลืมว่า CAZ ยังมีภาระต้องจ่ายค่าจ้างคนงานทุกเดือน จ่ายค่าวัสดุก่อสร้างให้กับซัพพลายเออร์ แล้วไหนจะมีภาระจ่ายดอกเบี้ยแบงก์ซึ่งวิ่งทุกวันอีก แต่พอโครงการสะดุด เก็บเงินไม่ได้ กระแสเงินสดเริ่มร่อยหรอ ก็กระทบต่อสภาพคล่องอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ตอกย้ำด้วยสถานะการเงิน ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 ที่มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสดในกระเป๋า 65.69 ล้านบาท แต่มีเงินเบิกเกินบัญชีและเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 519.34 ล้านบาท และมีหนี้สินที่เกิดจากสัญญาและค่าเช่ารับล่วงหน้า-หมุนเวียน 509.19 ล้านบาท

เข้าทำนองงานสะดุดปุ๊บ…เงินขาดมือปั๊บนะเนี่ย..!?

ทำให้ CAZ ต้องแก้ผ้าเอาหน้ารอด…อุ๊ย แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เติมสภาพคล่องด้วยการไปขอกู้เงินจาก “ซุง ซิก ฮอง” ซึ่งเป็นทั้งผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 3 ในสัดส่วน 9.76% แม้จะต้องแลกกับอัตราดอกเบี้ยที่ 7% ต่อปีก็เถอะ…

โดยเป็นการกู้เงินในรูปแบบตั๋วสัญญาใช้เงิน (Promissory Note : P/N) ชนิดไม่มีหลักประกัน ออกฉบับแรกเมื่อวันที่ 15 ก.ค. 2567 วงเงิน 43.30 ล้านบาท กำหนดชำระไม่เกิน 365 วัน ซึ่ง ณ สิ้นปี 2567 ยังไม่ได้ชำระคืนเงินกู้ดังกล่าวแม้แต่สตางค์แดงเดียว

ไม่มีเงินจ่ายคืนหนี้ไม่พอ…ล่าสุดบอร์ด CAZ ได้ขอขยายกรอบวงเงินจาก 43.30 ล้านบาท เป็นวงเงิน 45 ล้านบาท และขยายการชำระคืน จากไม่เกิน 365 วัน เป็นภายใน 31 ธ.ค. 2568 แทน คิดอัตราดอกเบี้ย 7% ต่อปี หรือคิดเป็นผลตอบแทนรวม 4.33 ล้านบาท

สะท้อนว่า CAZ เริ่มเข้าตาจน…ชักหน้าไม่ถึงหลังแล้วนะเนี่ย…

โดยวัตถุประสงค์ของการกู้เงินจากผู้ถือหุ้นใหญ่ครั้งนี้ชัดเจนเพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับงานโครงการก่อสร้างในมือปัจจุบันของบริษัทนั่นแหละ…โดย CAZ จะชำระคืนเงินกู้ให้กับ “ซุง ซิก ฮอง” หลังจากได้รับชำระเงินค่าโครงการก่อสร้าง

ก็คงต่อลมหายใจให้กับ CAZ ได้อีกเฮือก…

หลังจากนั้น ต้องมาลุ้นกันต่อว่าสถานการณ์จะกระเตื้องขึ้นมั้ย..?? CAZ จะเก็บเงินจากลูกค้ารายดังกล่าวได้เมื่อไหร่..??

ถ้าดูจากกระแสข่าวก่อนหน้านี้ที่ระบุว่า ผู้รับเหมาหลักต่างชาติจากโครงการพลังงานสะอาด CFP ยังคงค้างชำระค่าจ้าง CAZ ราว 200-300 ล้านบาท…ถ้าได้เงินก้อนนี้เข้ามา CAZ คงหายใจหายคอคล่องขึ้นแหละ..!!

ยังไงก็เอาใจช่วยให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้นะเจ้าคะ…

…อิ อิ อิ…

Back to top button