BANPU แรงดัน ‘ทรัมป์ 2.0’ .!?

หนึ่งในถ้อยแถลงของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา นั่นคือการถอนตัวจากสนธิสัญญาปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ


หนึ่งในถ้อยแถลงของ “โดนัลด์ ทรัมป์” ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐอเมริกา นั่นคือการถอนตัวจากสนธิสัญญาปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างประเทศเพื่อต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และประเทศต่าง ๆ เกือบ 200 ประเทศที่ให้คำมั่นจะควบคุมอุณหภูมิโลกร้อนให้ต่ำกว่า 2 องศาเซลเซียส และเหมาะสมที่สุดคือต่ำกว่า 1.5 องศาเซลเซียส แต่ละประเทศมีหน้าที่ในการพัฒนาแผนของตนเองเพื่อรักษาคำมั่นสัญญานี้

ขณะเดียวกัน “ทรัมป์” ยังได้ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานแห่งชาติเพื่อลดราคาพลังงานในสหรัฐฯ ด้วยการเพิ่มการขุดเจาะน้ำมัน วางท่อน้ำมัน และสร้างโรงกลั่นน้ำมัน เป้าหมายต้องการลดราคาน้ำมันเบนซินและค่าไฟของชาวอเมริกันลงครึ่งหนึ่งภายในช่วงปีแรกที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี…

นั่นหมายถึงในยุคทรัมป์ 2.0 จะสนับสนุนพลังงานฟอสซิลมากขึ้นนะเธอ..!!

ส่งผลให้ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับพลังงานฟอสซิล อย่างธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจโรงไฟฟ้าจะได้รับประโยชน์จากนโยบายดังกล่าว…งั้นลองมาเช็กดูหน่อยดีกว่าว่ามีบริษัทไหนบ้างที่ไปลงทุนในสหรัฐอเมริกา..??

หลัก ๆ คงหนีไม่พ้นคู่แม่ลูกตระกูล B อย่างตัวแม่บริษัท บ้านปู จำกัด (มหาชน) หรือ BANPU กับตัวลูกบริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP และมีอีกหนึ่งบริษัทที่ไปลงทุนพลังงานสะอาด บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO

แต่ไฮไลต์น่าจะอยู่ที่ BANPU กับ BPP แหละ เนื่องจากมีทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติซึ่งเป็นต้นน้ำ และธุรกิจไฟฟ้าซึ่งเป็นกลางน้ำ…

โดยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ…BANPU ได้เข้าไปลงทุนในแหล่งผลิต Shale Gas 2 แห่งในสหรัฐฯ ประกอบด้วย แหล่งก๊าซธรรมชาติมาร์เซลลัส (Marcellus) ในมลรัฐเพนซิลเวเนีย และแหล่งก๊าซธรรมชาติบาร์เนตต์ (Barnett) ณ บริเวณฟอร์ต เวิร์ธ เบซิน มลรัฐเทกซัส สหรัฐอเมริกา

ส่วนธุรกิจไฟฟ้า ลงทุนผ่าน BPP โดยปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติ 2 แห่ง คือ โรงไฟฟ้า Temple I และโรงไฟฟ้า Temple II ในรัฐเท็กซัส สหรัฐอเมริกา

ไม่หมดแค่นี้ BANPU ยังมีบริษัทลูกที่ชื่อ BKV Corporation (BKV) ซึ่งเป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ในสหรัฐอเมริกาด้วยนะ

ดังนั้น การที่ “ทรัมป์” หนุนพลังงานฟอสซิลอย่างนี้ BANPU กับ BPP ก็น่าจะได้ประโยชน์ไปเต็ม ๆ ทั้งธุรกิจก๊าซธรรมชาติและธุรกิจโรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติน่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น จากเดิมที่ถูกนโยบายของ “โจ ไบเดน” คุมกำเนิดเอาไว้ แล้วหันไปสนับสนุนพลังงานสะอาดแทน

ก็ไม่รู้ว่าแรงส่งทรัมป์ 2.0 จะหนุนนำให้ BANPU และ BPP เติบโตโดดเด่นขนาดไหน..??

แต่พอนึกได้ว่า BANPU ยังมีตัวฉุดรั้ง จากรายได้หลักผูกติดอยู่กับธุรกิจถ่านหินซึ่งถูกมองว่าซันเซ็ตไปแล้ว จากปัญหาโลกร้อนที่ทั่วโลกกำลังตื่นตระหนก ทำให้กลุ่มที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้า หรือโรงงานอุตสาหกรรม ลดปริมาณการใช้ลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา กำไรเปรอะเปื้อนด้วยคราบเขม่าถ่านหินอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

แอบเซ็งนะเนี่ย…ก็หวังว่า BANPU จะหาทางชะล้างคราบเขม่าถ่านหินได้บ้าง…

ราคาหุ้น BANPU จะได้ลืมตาอ้าปากซะที..!?

…อิ อิ อิ…

Back to top button