หน้าแหกอีกแล้ว!

ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา “สาระแน” และ “สาระขัน” เดี๊ยนขอเม้าท์ถึงบรรยากาศตลาดหุ้นไทยเพื่อทำให้เห็นว่า วานนี้เป็นอีกครั้งที่อีฉันหน้าแหกไม่มีชิ้นดี


ก่อนจะเข้าสู่เนื้อหา “สาระแน” และ “สาระขัน” เดี๊ยนขอเมาท์ถึงบรรยากาศตลาดหุ้นไทยเพื่อทำให้เห็นว่า วานนี้เป็นอีกครั้งที่อีฉันหน้าแหกไม่มีชิ้นดี หลังตลาดหุ้นไทยเกิดอาการบ้อท่าขึ้นเสียอย่างนั้น ทั้งที่วันก่อนตั้งลำขึ้นมาค่อนข้างสวย และยังได้แรงหนุนจาก “กองทุน” และ “ต่างชาติ” แต่วานนี้ดันโดนน็อกกลางอากาศแบบไม่รู้ตัวแบบนี้ เดี๊ยนรู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวเกินจะบรรยายได้นะคะ

เนื่องจากหลายอย่างดู “เข้าที่ เข้าทาง” มากขึ้นกว่าเดิม และพวกพ้องน้องพี่ก็เห็นดีเห็นงามไปทางเดียวกัน จู่ ๆ ดัชนีดันทรุดฮวบลงมาปิดที่ระดับ 1,344.17 จุด ลบไป 17.60 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.44 หมื่นล้านบาท มันกลายเป็นภาพที่ทำให้ตลาดหุ้นไทยดูแย่ลงไปในสายตานักลงทุนทั่วไป (อีฉันก็รู้สึกไม่ดีเช่นกัน) ส่งผลให้การทะยานขึ้นของตลาดหุ้นไทยต่อจากนี้เต็มไปด้วยคำถามมากมายแน่ ๆ เจ้าค่ะ!

คิดดูสิ!..ขนาดสตอรี่ของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์นี้ออกมาดีสุด ๆ แต่ตลาดหุ้นไทยกลับขานรับแค่แป๊บเดียว ต่อจากนั้นก็ออกทะเลไปอีกครั้ง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องที่มีอะไรบ้างอย่างผิดปกติอย่างแน่นอน และหนึ่งในเรื่องที่อีฉันคิดก็คือ “ฮับการเงิน” เพราะเป็นเรื่องที่กระทบกับธุรกิจในแวดวงการเงิน และกระทบชิ่งมาที่ตลาดหุ้นไทยเต็ม ๆ เพราะดูเหมือนเป็นการเปิดเสรีให้ต่างชาติเข้ามาลุยสุดซอยพะย่ะค่ะ

ประเด็นนี้แหละที่ทำให้ “โมนิก้า” เลือดขึ้นหน้าในทันที เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยทำเรื่องเปิดเทรดเร็วขึ้น โดยหวังว่าต่างชาติจะมาเทรดมากขึ้น ซึ่งจะทำให้บรรยากาศการลงทุนคึกคักขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ แต่สุดท้ายกลายเป็นว่า บรรยากาศการซื้อขายไม่คึกคักเหมือนที่คาดหวัง แถมต่างชาติก็สาดหุ้นไทยอย่างสบายใจเฉิบแบบนี้..มันเป็นเรื่องที่ควรสรรเสริญ หรือช่วยกันก่นด่าล่ะจ๊ะ

ที่น่าสนใจคือการมาของฮับการเงินดันมีประเด็นของเปิดเสรีโบรกเกอร์ขึ้นมาเสียด้วย “โมนิก้า” เลยรู้สึกเจ็บกระดองใจมากขึ้นเป็นกอง เพราะบรรดาขุนพลอยพยักมีแนวคิดที่จะไม่ช่วยแล้ว ยังมากระทืบซ้ำธุรกิจโบรกเกอร์แบบนี้ มันเป็นภาพที่อุบาทว์เหลือเกิน เพราะวันนี้ก็เห็นกันเต็มสองลูกตาว่า โบรกฯ ไทยตกอยู่ในสถานการณ์ที่แทบจะเอาตัวไม่รอด แล้วพวกท่าน ๆ จะเอามีดมาบั่นคอโบรกฯ ไทยทำไมล่ะพ่อคุณ

เหตุการณ์ข้างต้นครอบคลุมถึงเรื่องสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งบริษัทของคนไทยพยายามผลักดันตัวเองขึ้นมาเป็นตัวเลือกต้น ๆ แต่ติดตรงที่เงินไม่หนาในการรันธุรกิจให้โตกระฉูด จึงต้องค่อย ๆ พัฒนาในแต่ละส่วนอย่างช้า ๆ แต่ทันทีที่มีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามาลุยสุดซอย แล้วบริษัทของคนไทยจะอยู่ตรงไหนของห่วงโซ่ดังกล่าว หรือต้องการปล่อยให้ตายซากไปเลยก็บอกกันมาตรง ๆ..เขาจะได้เตรียมใจตั้งแต่เนิ่น ๆ เจ้าค่ะ

แสบสุดของเที่ยวนี้คงอยู่ที่ซูเปอร์บอร์ด เพราะเป็นคนเข้ามาบริหารจัดการ และควบคุมต่างชาติที่จะเข้ามาทำธุรกิจการเงิน “โมนิก้า” ขอถามหน่อยเถอะว่า วันนี้พวกท่าน ๆ เหล่านั้นช่วยผลักดันให้ธุรกิจการเงินของไทยโกอินเตอร์ได้หรือเปล่า? หรือสักแต่จะพ่นน้ำลายไปวัน ๆ เพื่อทำให้ตัวเองดูดีหรือเปล่า? ถ้าคิดไม่ออก..อีฉันขอแนะนำให้หันไปดูซูเปอร์บอร์ดซอฟต์พาวเวอร์ วันนี้ทำพระแสงด้ามหอกอะไรอยู่เหรอ!..แล้วมันเวิร์กไหม ลองถามชาวบ้านดูสิ!

ฉะนั้นอย่ามาสะเออะ..หากพวกท่าน ๆ ไม่ได้อยู่ในช่วงที่ทุกคนในตลาดหุ้นช่วยกันปลุกปั้นตลาดหุ้นไทยให้ชนะตลาดหุ้นสิงค์โปร์ ซึ่งช่วงนั้นเป็นการบูรณาการทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุน จนตลาดหุ้นไทยมีหุ้นไอพีโอเข้ามาจดทะเบียนเยอะมาก พ่วงด้วยเครื่องมือทางการเงินในตลาดหุ้นก็เพิ่มขึ้น รวมถึงมูลค่าการซื้อขายที่คึกคักกว่าใครเพื่อน ครอบคลุมถึงรายย่อยมีมากกว่า..พวกท่าน ๆ เคยอยู่ในยุคนั้นอ๊ะป่าว?

เหล่านี้เป็นแค่เสี้ยวเดียวที่ “โมนิก้า” ขุดขึ้นมาเล่าให้ฟังแบบคร่าว ๆ เพราะถ้าจี้ลงไปในแต่ละจุดอาจมีบางคนหัวร้อนขึ้นมาก็ได้ จึงไม่อยากจะพูดอะไรไปมากกว่านี้ เพราะทุกวันนี้ก็อึดอัดกับพวกทุนจีนสีเทาที่เข้ามาป่วนในทุกวงการเหลือเกิน..แต่เหนืออื่นใดก็คือ ต้องทำฐานรากของธุรกิจของไทยให้แข็งแกร่งเสียก่อน และเรื่องนี้ต้องได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานของภาครัฐ ต่อจากนั้นถึงจะมีปัญญาไปแข่งกับคนอื่นได้นะตัวเอง

โมนิก้า: และทีมงาน

Back to top button