มอง SET ยังมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1400 จุด

InnovestX มองว่าการประกาศแนวนโยบายของทรัมป์ครั้งนี้มีแบบแผนขึ้น โดยมีเป้าประสงค์หลักในการยึดนโยบายตามหลักการ "อเมริกามาก่อน"


InnovestX มองว่าการประกาศแนวนโยบายของทรัมป์ครั้งนี้มีแบบแผนขึ้น โดยมีเป้าประสงค์หลักในการยึดนโยบายตามหลักการ “อเมริกามาก่อน” ผ่านการกีดกันผู้อพยพ สงครามการค้า และสนับสนุนอุตฯ ฟอสซิล โดยนโยบายเหล่านี้ หากทำทันทีจะทำให้เศรษฐกิจสหรัฐชะลอลงและเงินเฟ้อขึ้น ทำให้ทรัมป์น่าจะทำนโยบายเหล่านี้โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยสนับสนุนอุตฯ ฟอสซิลก่อน ขณะที่จะใช้ภาษีศุลกากรเป็นเครื่องมือต่อรองให้ได้ประโยชน์อื่นที่ต้องการ เช่น การเข้าเมืองผิดกฎหมายและการลักลอบขนยาเสพติด 

รวมถึงประเด็นที่จะให้จีนขาย Tiktok แก่สหรัฐฯ ด้วย ทั้งนี้ ความผันผวนที่มากขึ้นจะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรปรับตัวลดลง รวมถึงดอลลาร์แข็งค่าขึ้นในระยะสั้น แต่การขาดดุลการคลังที่มากขึ้น พร้อมกับแนวนโยบายของทรัมป์ที่ไม่ต้องการให้ดอลลาร์แข็งเกินไป จะทำให้ผลตอบแทนพันธบัตรยังทรงตัวระดับสูงและดอลลาร์ไม่แข็งค่ากว่าปัจจุบันมากนัก ในส่วนของ IMF ที่ปรับเพิ่มคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งนั้น InnovestX มองว่าการเข้ามาของทรัมป์จะทำให้เกิดความเสี่ยง 4 ประการจาก 

(1) ความคาดหวังเงินเฟ้อมีแนวโน้มสูงขึ้น (2) ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอนสูงขึ้น โดยเฉพาะประเด็นค่าเงินของตลาดเกิดใหม่ (3) ความไม่แน่นอนทางนโยบายเพิ่มขึ้น ทำให้ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้น และ (4) ความเสี่ยงด้านการค้าโลกที่ลดลง

ส่วนตลาดหุ้นไทย InnovestX มองช่วงสั้น SET ยังมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,400 จุด ทั้งนี้แม้ตลาดยังไม่มีปัจจัยอะไรใหม่ แต่ตั้งแต่ต้นปีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรงจน Underperform ตลาดหุ้นทั่วโลก ซึ่งมองสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว ขณะที่ปัจจัยภายนอกยังคงมองภาพเศรษฐกิจและแนวโน้มดอกเบี้ยจะมีท่าทีดีขึ้น รวมถึงผลประกอบการในสหรัฐฯ มีแนวโน้มออกมาแข็งแกร่ง โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีนจะฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป และ ECB คาดจะมีการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย ส่วน FED คาดคงดอกเบี้ยนโยบาย อีกทั้งปัจจัยภายในประเทศคาดการเข้าสู่บรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีนและการแจกเงินหมื่นเฟสสองให้แก่ผู้สูงอายุจะเข้ามาช่วยกระตุ้นบรรยากาศลงทุนได้บ้าง ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และ 1 ธีมเทรดดิ้งระยะสั้น ดังนี้

1. หุ้นที่คาดได้อานิสงส์บวกจากการเข้าสู่บรรยากาศจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐจะเริ่มมีผลบังคับใช้ เช่น นำค่าซื้อสินค้ามาลดหย่อนภาษี (Easy E-Receipt) ในช่วง 16 ม.ค.-28 ก.พ. 68 และแจกเงินหมื่นเฟส 2 ให้ผู้สูงอายุในวันที่ 27 ม.ค. นี้ แนะนำ กลุ่มพาณิชย์ (CRC, HMPRO, CPALL, TNP) กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค (CBG, OSP) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT, AOT)  

2. นักลงทุนที่ต้องการหุ้นปันผลสูงซึ่งคาดมีเงินปันผลจ่ายที่เหลือจากกำไรปี 2567 คิดเป็น Div. Yield เกิน 3% เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุน แนะนำ AP, KTB, BBL, PTT

3. หุ้น Earning Play ซึ่งมองราคาหุ้นยังไม่ได้ปรับขึ้นสะท้อนโมเมนตัมกำไร 4Q67 ที่คาดจะเติบโตดี YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีศักยภาพการจ่ายปันผลได้สม่ำเสมอ เลือก ADVANC, TRUE, AMATA, AWC, AU และ ERW

4. Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงอาจเก็งกำไรในหุ้น Mid-Small Cap. ที่ราคาหุ้นปรับลง YTD มากกว่าตลาด แต่ 4Q67 และปี 2568 คาดกำไรยังเติบโตดีและมีฐานะการเงินแกร่ง เลือก AMATA, AU, BCH, BLA, TIDLOR

สุกิจ อุดมศิริกุล

มาตรการที่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่ง

มาตรการ
1 ประกาศภาวะฉุกเฉินที่ชายแดนใต้และเนรเทศผู้อพยพครั้งใหญ่ 
2 จัดตั้ง External Revenue Service เพื่อจัดเก็บภาษีศุลกากร 
3 จัดตั้งกระทรวงประสิทธิภาพการทำงานของรัฐบาล 
4 แนวนโยบายการต่างประเทศที่คาดเดาไม่ได้ และเน้นการเจรจาต่อรองแบบนักธุรกิจ
5 ยกเลิก Green New Deal หรือนโยบายสิ่งแวดล้อมสมัยไบเดน และฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิต เพื่อให้เศรษฐกิจกลับมาแข็งแกร่ง
6 ประกาศภาวะฉุกเฉินด้านพลังงานและนโยบายขุดเจาะเชื้อเพลิงฟอสซิล (drill, baby, drill) เพื่อทำให้อุตสาหกรรมพลังงานสหรัฐกลับมาแข็งแกร่งและลดเงินเฟ้อ

Source : INVX

Back to top button